วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[12]_____Secret





คยูฮยอนกำลังจะเป็นบ้า!
เขากำลังจะกลายเป็นคนบ้าด้วยวัยเพียง 20 กว่าๆ สาเหตุเพราะพี่ชายคนรองหาย พี่ชายคนโตโดนม่อและกำลังกลายเป็นรักสามเศร้า เพราะมีไอ้มาเฟียขี้เก๊กโผล่หน้ามาร่วมแจมด้วย โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง
ไม่เข้าใจว่านี่มันวันบ้าอะไรกันไม่ทราบ ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องให้ท่านโจว คยูฮยอนผู้นี้ร้อนใจได้ไม่หยุดหย่อน!?!
แค่เรื่องหนูกลางหายไป เขาก็ปวดหัวพอแล้ว แต่นี่! นี่! ยังมีไอ้บ้าชเว ชีวอน ไอ้ตัวมารร้ายจอมกะล่อนกับไอ้บ้ามาเฟียที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มาแย่งกันจีบพี่ฮีชอลของเขา มาทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของชายโจวผู้รักและหวงแหนพี่ปานแก้วตาดวงใจต้องสั่นคลอน พวกมันทำกันลงคอได้เยี่ยงไรรรรรรรรรร
เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งที่ตอนนี้ทุกคนกำลังเดือดร้อนเพราะฮยอกแจหายไป แต่ไอ้ทงเฮกลับหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ปล่อยให้เขาต้องเผชิญหน้ากับปีศาจหมูตามลำพัง ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยซักนิด
คยูฮยอน~”



            “T-T”



            คยูฮยอนทำไมทำหน้าแบบนั้นอ่า คยูฮยอนไม่อยากอยู่กับซองมินเหรอ?



            “T^T”



Oh! My! Fucking! Godddddddddd!!!
คยูฮยอนไม่เข้าใจ ทำไมปีศาจหมูตัวที่ปล้ำเขาในห้องน้ำที่ผับวันนั้น...
ถึงได้มาอยู่ในห้องทำงานกูได้วะครับ!!!
            คยูฮยอนตอบสิ คยูฮยอน~”
...
คยูฮยอน! ถ้ายังไม่ยอมพูดกับซองมิน ซองมินจะโกรธจริงๆ แล้วนะ!”
            เสียงใสๆ จากผู้ชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มราวกับเด็กผู้หญิงตะโกนดังคับห้อง คยูฮยอนสะดุ้งโหยง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเลิ่กลั่ก แขนทั้งสองข้างกอดหมอนอิงบนโซฟาแน่นเข้าไปอีก
            อี ซองมินกอดอกป้อม ดวงตากลมโตใสแจ๋วจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าอย่างโมโห
            คะ... คือ... ใจเย็นนะหมู...
            ห้ามเรียกซองมินว่าหมูนะ!” คนที่ถูกเรียกว่าหมูตะโกนขัดอย่างไม่พอใจ เล่นเอาคนที่ผวาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่างคยูฮยอนสะดุ้งตัวลอยอีกรอบ ชายหนุ่มเบ้หน้า รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
            ทีคืนวันนั้น บอกกูเรียกอะไรก็ได้ ตามสบาย แต่พอวันนี้ดันบอกไม่ให้เรียกหมู มึงจะเอายังไงกันแน่วะครับ ฮึ? T^T
            ละ... แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ? คนที่โดนตวาดจนขี้หดตดหายไปหมดถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ซองมินทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะคลานดุ๊กดิ๊กข้ามโซฟาตัวยาวมาหาคยูฮยอนที่นั่งขดตัวกอดหมอนอยู่ตรงริมโซฟาอีกตัวหนึ่ง
            ซองมิน... เราชื่อซองมิน วันนั้นเราบอกคยูไปแล้วนี่ ทำไมไม่จำล่ะ ซองมินยู่หน้า คยูฮยอนหัวเราะเสียงแห้ง แต่ในใจ... ปากดีนักนะ ไอ้ปีศาจหมู -_-
            “แล้วซองมินมาทำอะไรที่นี่ล่ะ ทำไมไม่ไปอยู่กับพี่ชายของนายล่ะ หืม?
นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้คยูฮยอนรู้สึกเหมือนแดกมะนาวไปสิบสามลูก ใครจะรู้ว่าไอ้มาเฟียจีนขี้เก๊กคนที่มาติดพันพี่ฮีชอลของเขาจะมีศักดิ์เป็นพี่ชายบุญธรรมของปีศาจหมูที่เขาเผลอมีอะไรด้วยในวันนั้น แถมยังเป็นพี่ชายที่ดูจะรักและตามใจน้องชายแบบสุดๆ อีกต่างหาก
นี่ถ้าไอ้มาเฟียนั่นรู้ว่าเขากินหัวกินหางน้องมันไปแล้ว มันจะกินพี่ชายเขาเป็นการเอาคืนป่ะวะ โอ๊ยยยยย ไม่น่าเลย ถ้าความบริสุทธิ์ของหนูใหญ่ถูกฉกชิงไป เขาต้องโทษตัวเองไปจนตายแหงๆ เลย ฮือออออออ T^T
            ไม่ไป พี่ชายบอกว่าพี่ชายมีธุระกับคุณฮีชอล ซองมินเป็นเด็ก ซองมินจะฟังเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ได้
คนตอบยกนิ้วขึ้นทำท่าจุ๊ๆ ได้อย่างน่ารักน่าชังสุดๆ คยูฮยอนกลอกตาไปมา เด็ก? เอิ่ม จากประสบการณ์ที่ได้รับมา ถ้าทำให้กูซี้ดได้ขนาดนั้น กูว่ามันไม่เด็กแล้วนะขอรับ
พี่ชายชอบมีความลับกับซองมินเยอะแยะเลย พอซองมินถาม พี่ชายก็บอกว่าต้องรอให้โตก่อนถึงจะยอมบอก ซองมินไม่เข้าใจ ทำไมพวกผู้ใหญ่ต้องมีความลับตลอดด้วย น่าเบื่อ พูดแล้วก็พ่นลมหายใจแรง ริมฝีปากล่างยื่นออก ท่าทางที่บ่งบอกอาการหงุดหงิดของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
แล้ว... แล้วซองมินอายุเท่าไหร่เหรอ? คยูฮยอนถามพลางมองสำรวจคนข้างๆ ให้เต็มตาอีกครั้ง ตัวเล็กๆ อวบๆ เหมือนเด็กวัยกำลังโต หน้าตาอ่อนเยาว์สดใส ดวงตาไร้เดียงสาแต่แฝงแววเอาแต่ใจสุดฤทธิ์ จะว่าไปถ้าไม่นับเรื่องลีลาคืนนั้น ไอ้ปีศาจหมูนี่ก็ดูเหมือนเด็กผู้ชายจริงๆ น่ะแหละ
ซองมินฟังคำถามนั้น ก่อนจะยิ้มเผล่ ดวงตากลมโตหยีลงเพราะความดีใจที่อีกฝ่ายเหมือนจะให้ความสนใจกับตัวเขา
ซองมินให้คยูเดาก่อน ถ้าไม่ถูก เดี๋ยวซองมินเฉลยเอง
งั้นเดาว่า... ยี่สิบ
พอได้ยินคำพูดน่ารักซุกซนแบบนั้น คยูฮยอนก็อดเล่นด้วยไม่ได้ ยอมรับเลยว่าเวลาซองมินยิ้ม มันทำให้เขารู้สึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ม่ายช่าย ซองมินส่ายหัว คำตอบที่ผิดทำเอาคนเดาขมวดคิ้วมุ่น
งั้น... ยี่สิบสองตอบออกไปด้วยความมั่นใจ แต่...
โหย ซองมินหน้าแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ซองมินหน้ามุ่ย
อ้าว แล้วตกลงอายุเท่าไหร่ล่ะ บอกมาเหอะ ถ้าให้เดา ฉันก็จะเดาไปถึงอายุ 52 โน่นแหละ คยูฮยอนแกล้งพลางกลั้นยิ้มเพราะปีศาจหมูที่หน้าบูดสนิทไปแล้วเรียบร้อย ซองมินตาโต ก่อนจะตอบเสียงดัง




คยูฮยอนคนบ้า ซองมินอายุ 16 ต่างหากล่ะ!”




คนอวบไม่พอใจ ผิดกับคยูฮยอนที่นิ่งค้างไปแทบจะทันที
สิบหก? เสียงนุ่มครางอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาคมไล่มองร่างอวบตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัวอยู่สองสามรอบ
เอาจริงดิ? คนแก่กว่าถามซ้ำ ซองมินพยักหน้า
ใช่ ซองมินอายุสิบหก แต่อีกไม่กี่เดือนก็จะสิบเจ็ดแล้วล่ะ แล้วก็อีกสามปีก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย คิกๆ ซองมินพูดพลางหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกได้ว่าพอเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ต่อไปนี้พี่ชายก็จะมีความลับกับเขาอีกไม่ได้แล้ว ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่ซองมินชอบใจสุดๆ ไปเลยล่ะ
เฮ้ย ซองมิน นี่ไม่ตลกนะเว้ย นายอายุ 16 จริงๆ เหรอ? คยูฮยอนผุดลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนก มือทั้งสองยกขึ้นกุมศีรษะไว้แน่น
ไอ้เชี่ย ชิบหายแล้วววววววววววววววว
ก็จริงน่ะสิ! ซองมินไม่ใช่เด็กขี้โกหกซักหน่อย หรือคยูหาว่าซองมินโกหก!?!” เด็กอายุสิบหกสาวเท้าเข้าหาอย่างไม่พอใจ หากคยูฮยอนกลับทำหน้าเหมือนเห็นผี ร่างสูงรีบปรี่ไปยืนหลบอยู่ตรงมุมห้องพร้อมชี้นิ้วสกัดเอาไว้
อย่าเข้ามานะเฟ้ย! ถ้าเข้ามาฉันจะโดดตึกตายให้ดู
ไอ้สาดดดดดดดดดดด พรากผู้เยาว์! มึงโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ อีโจววววววว T[]T
คยูฮยอนเป็นอะไรไปอ่ะ ไม่ต้องกลัวนะ ซองมินไม่ทำอะไรหรอกซองมินดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นคยูฮยอนสติแตกกะทันหัน แต่เด็กหนุ่มก็ยังควบคุมสติได้ดี แถมยังค่อยๆ เดินเข้าไปหาคนตรงหน้าอย่างไม่หวาดหวั่น
ม่ายยยยยยยย อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะเฟ้ย!” ร่างสูงกรีดร้องโหยหวน มองหน้าซองมินแล้วเหมือนมีภาพหลอนเห็นตะรางเหล็กเป็นซี่ๆ ลอยเข้ามา
ไอ้เฟรี้ย ติดคุกหัวโตแน่มึง โฮรววววววววววว~ TOT
คยูฮยอน! นี่ซองมินนะ คยูกลัวอะไร ซองมินไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เด็กอวบชักอารมณ์เสีย มือทั้งสองข้างเท้าสะเอวมองคนอายุมากกว่าด้วยความหงุดหงิด
ก็... ก็...คยูฮยอนเบะปาก ท่าทางหงอขึ้นมาทันที ไม่ได้กลัวนะ แต่เห็นอีเด็กอ้วนมันทำหน้าขึงขังแบบนี้แล้วกูใจไม่ดีแปลกๆ เดี๋ยวแม่งเรียกพี่มาฆ่ากูทำไง T^T
ไหนเป็นอะไรไป บอกซองมินซิ โอ๋ๆ พอเห็นคนตรงหน้าทำท่าผวา หน้าตาเหมือนจะร้องไห้แล้ว ซองมินก็อดใจอ่อนไม่ได้ แขนเล็กอ้ากว้าง ก่อนจะก้าวไปหาพร้อมดึงตัวร่างสูงลงมากอดแนบอก มือข้างหนึ่งลูบหลังกว้างไปมา ส่วนอีกข้างก็ลูบผมคยูฮยอนเบาๆ
ให้อารมณ์คุณแม่กับลูกน้อยสุดๆ =_=
คยูฮยอนเป็นแฟนซองมินแล้วนะ มีอะไรก็บอกซองมินได้ทุกเรื่องเลยนะ เข้าใจมั้ย? เสียงใสบอกอย่างปลอบประโลม คยูฮยอนกะพริบตาปริบๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ
กูไปตกลงเป็นแฟนกับมึงตอนไหนไม่ทราบครับ? -_-
ซองมินถามว่าเข้าใจหรือเปล่า?
พอเขาไม่ตอบ อีปีศาจหมูก็กดเสียงถาม คยูฮยอนแอบจิ๊ปากเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น แขนแกร่งกลับกอดรัดรอบลำตัวนุ่มนิ่ม ฉวยโอกาสซุกจมูกลงกับอกนุ่ม ถูไถไปมาสูดดมกลิ่นแป้งเด็กจนชื่นใจ
อื้อ เข้าใจแล้ว แน่ะ แล้วมีหลวมตัวตอบรับอย่างว่าง่ายอีกนะ คยูฮยอนเด็กดีมากมั้ยล่ะ?
น่ารักมาก เสียงเล็กพูดอย่างพอใจ มืออวบยังลูบหัวคยูฮยอนไม่หยุด คนตัวใหญ่ครางงึมงำ นาทีนี้โดนกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหมูตัวอ้วนฉุดสติไปหมดแล้วครับ คุกเคิกอะไรไม่อยู่ในหัวแล้ว ณ จุดนี้บอกได้คำเดียวว่า... โคตรเคลิ้ม~
ว่าแต่เราเป็นแฟนกันแบบนี้ คยูจะถูกตำรวจจับหรือเปล่าอ่ะ?
...!!” แล้วจะพูดให้กูสะดุ้งทำหอกอะร๊ายยยยยยยยยย
ก็ซองมินเพิ่งอายุ 16 เอง ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ เราห่างกันตั้งหลายปีงี้ คยูจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์มั้ยอ่ะ
คนพูดนับนิ้ว ก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดหนัก แต่คยูฮยอนนี่ตายไปแล้วครับทุกท่าน ตระกูลคิมต้องล่มจมเพราะกูแน่ๆ ชื่อเสียงที่บรรพบุรุษสร้างสมมามันจะสูญสลายไปเพราะหลานคนเล็กอย่างกูติดคุก ข้อหาพรากผู้เยาว์ สัด คิดแล้วปวดใจ
ปีศาจหมู มึงเป็นต้นเหตุ! T_T
แต่ไม่เป็นไร คยูไม่พูด ซองมินไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้หรอกเนอะ
ดวงหน้าน่ารักผงกศีรษะหงึกหงักพอใจกับความคิดของตัวเองอยู่คนเดียว คยูฮยอนกลอกตาขึ้นมอง สบรอยยิ้มหวานแล้วก็ต้องทำใจ ชาตินี้คงได้ตกเป็นทาสปีศาจหมูแน่ๆ เลยกู ฮือ
โอ๋ๆ ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคยู ซองมินเก็บความลับเก่งนะ จะบอกให้
ร่างอวบจุ๊ปากประกอบคำพูดให้คนโดนปลอบใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ เพราะประโยคต่อมาที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่มก็ทำเอาคยูฮยอนถึงกับถอนหายใจเฮือกสุดท้ายพร้อมตายในทันที
แต่คยูต้องรับปากก่อนว่าจะเป็นแฟนที่แสนดีของซองมินตลอดชีวิต ไม่งั้นซองมินจะฟ้องคุณตำรวจให้มาจับคยู โอเคนะ ^O^”
“T[]T”
ไอ้สัด หมดสิ้นแล้ว ชีวิตอิสระของท่านโจว คยูฮยอน #RIP

XXXXXXXX

คยู~ กินไอติมกัน
ร่างอวบกระโดดโลดเต้นอย่างเริงร่า แขนข้างหนึ่งเกี่ยวคล้องกับแขนของชายหนุ่มร่างสูงที่เดินตามมาด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก คยูฮยอนสะอื้นในอก ปวดร้าวกับโชคชะตาของตัวเองจนไม่อาจกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้ ใครจะไปนึกว่าความสัมพันธ์แค่คืนเดียว มันจะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้วะ อยู่ดีๆ ก็ได้แฟนเด็กมาโดยไม่สมยอม แถมยังเป็นน้องชายของมาเฟียอีกต่างหาก ถ้ารู้มาก่อนว่ามันจะเป็นแบบนี้ คืนนั้นเขาจะไม่มีทางไปที่ผับนั่นเด็ดขาด ให้ตาย ก็ไม่ไป! T^T
คยูทำหน้าดีๆ หน่อยสิ เดี๋ยวใครไม่รู้ จะนึกว่าซองมินเอาแต่ใจลากคยูมาหรอก
ก็มึงลากกูมาจริงๆ ไม่ใช่เรอะ! พอกูจะไม่มา ก็ขู่ว่าจะฟ้องพี่ ฟ้องตำรวจ โคตรเหี้ยมเลย แม่ง ปีศาจหมูส่งมาเกิดชัดๆ T_T
            เหล่ตามองคนที่กำลังยู่ปากใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวอีกฝ่ายอย่างไม่เบาแรง
            หยุดกินซักนาทีนึงได้ป่ะ นี่อ้วนเป็นหมูแล้วนะ ไม่รู้ตัวเลยรึไง กล่าววาจาร้ายกาจหวังให้คนตัวอวบสำนึกและหยุดยัดขนมเข้าปากซักที หากซองมินกลับทำไม่รู้ไม่ชี้พลางเดินเลี้ยวเข้าไปซื้อไอศกรีมข้างทาง ทั้งที่ในมือยังเต็มไปด้วยถุงขนมที่เจ้าตัวยังกินไม่หมด อาการที่ทำให้คยูฮยอนได้แต่ส่ายหน้ามองอย่างเอือมๆ
            กินให้ท้องแตกตายตามชูชกไปเลยนะหมู กูจะได้หลุดพ้นจากมึงเร็วๆ -_-
            คยูกินป่าว?
            ไอศกรีมแท่งถูกยื่นมาตรงหน้า ซองมินยิ้มหวานให้คนที่หรี่ตามองเขาอย่างเบื่อหน่าย
            ไม่อ่ะ ตามสบาย คิดจะเอาความอ้วนมายัดเยียดให้คนหุ่นดีอย่างกู ไม่มีทางซะหรอก ฮึ! (แหม อีคนมีซิกซ์แพ็ค -_-)
            ซองมินให้คยูกินก่อนเลยนะ ไม่เอาเหรอ? ซองมินเอียงคอถาม
            ไม่ ปฏิเสธหนักแน่น
            จริงอ่ะ อร่อยน้า เด็กอวบกะพริบตาปริบๆ พยายามเชิญชวนเต็มที่ แต่คยูฮยอนก็เชิดหน้าหนี
            ไม่!” หนักแน่น มั่นคง ดุจหินผา
            ไม่ได้แอ้มกูหรอก ฮึ คนอย่างโจว คยูฮยอนไม่มีทางหลงไปกับความน่ารักของปีศาจหมูแน่นอน ฟันธง!
            อ่า... คนมีน้ำใจมีท่าทีผิดหวังนิดหน่อย แต่แค่นิดเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นรอยยิ้มหวานก็เผยถูกเปิดเผยออกมาพร้อมดวงตากลมโตที่หยีลงอย่างน่ารักน่าชัง
            ไม่กินก็ดี ไม่เปลือง ว่าจบ ปีศาจหมูตัวน้อยก็ยัดไอติมแท่งเข้าปากอย่างไม่เกรงใจคนข้างๆ อีกต่อไปทำเอาคยูฮยอนถึงกับเหวอ มึงจะง้อกูอีกนิดก็ได้นะครับ กูไม่ว่า
            เฮ้ กินดีๆ หน่อยสิ คนมองกันหมดแล้ว ย่าห์ รีบเอ่ยปากเตือนอีกฝ่ายที่กำลังแลบลิ้นเลียไอติมแท่งยาวด้วยความเอร็ดอร่อย ซองมินชะงัก นัยน์ตากลมเหลือบมองร่างสูง ก่อนจะหันมาเต็มตัวและ...
            อื้มม~”
            ยัดไอติมเข้าปากไปทั้งอันอีกรอบแถมยังส่งเสียงอืออาในลำคอให้คนที่อยู่แถวนั้นหน้าแดงไปตามๆ กัน
            ซี้ด... อาส์ อร่อยจังเลย สูดปากเสียงดังพร้อมยกยิ้มหวานอย่างพอใจ ลิ้นเล็กแลบเลียไปตามความยาวอีกครั้ง โดยที่สายตาก็จ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังนิ่งค้างมองเขาอยู่อย่างอึ้งๆ คยูฮยอนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความทรงจำในค่ำคืนเร่าร้อนลอยเข้ามาในหัว
            ไอ้ห่าฝรัด! เหมือนกับตอนกินลูกชายกูไม่มีผิด ฮือออออ ซี้ดเหี้ยๆ T_T
            มองแบบนี้ อยากกินใช่มั้ยล่ะ คนตัวอวบเชิดปากถาม ไอศกรีมในมือถูกดึงให้พ้นสายตาของคนตรงหน้าอย่างหวงแหน คยูฮยอนสูดลมหายใจลึก พยายามระงับสติอารมณ์เอาไว้ แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะร่างอวบที่ยังดูดอมเลียไอศกรีมไม่หยุด ทำราวกับกำลังจะแกล้งเขาอย่างนั้นแหละ
นี่จะยั่วให้กูอยากกินไอติมหรือจะยั่วให้กูอยากกินมึงกันแน่ครับ ขอถาม =_=
            ถ้าคยูอยากกิน เดี๋ยวเราเดินไปซื้ออันใหม่มาให้ก็ได้นะ
            เงยหน้าขึ้นมาจากไอศกรีมที่ตอนนี้เหลือเพียงครึ่งแท่ง ก่อนจะเอ่ยปากเสนอตัวให้อย่างใจดี คยูฮยอนเบือนหน้าหนีพลางจิ๊ปากด้วยอารมณ์หงุดหงิด
            รีบๆ กินไปเหอะน่า แล้วก็หยุดทำเสียงซี้ดซ้าดแบบนั้นซักที มันหนวกหู พูดไปงั้น ทั้งที่ตอนนี้ตัวเองก็ชักจะรู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาบอกไม่ถูก นี่ถ้ายังไม่หยุดแล้วกินดีๆ แบบชาวบ้านชาวช่องเขาล่ะก็ อย่ามาหาว่ากูใช้กำลังก็แล้วกันนะครับหมู
            หมดแล้ว~” เสียงใสดังขึ้น คยูฮยอนพ่นลมหายใจยาว โล่งอกไปที นึกว่าจะได้พรากผู้เยาว์รอบสองซะแล้ว
            กินเสร็จก็ไปกันได้แล้ว
            อื้อ ซองมินพยักหน้าพลางยิ้มแฉ่ง มือเล็กสอดประสานกับมือของคยูฮยอนแนบแน่น โดยที่คยูฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินออกจากนั้นเพื่อตรงไปยังรถที่จอดทิ้งไว้
            คยูๆ
อะไร
พี่ชายคยูหน้าตาเป็นไงอ่ะ
คนไหน?
ก็คนที่หายไปอ่ะ
ก็น่ารัก ถามทำไม คยูฮยอนหันมามอง
เปล่า ก็แค่อยากรู้ เห็นใครๆ ก็พากันเป็นห่วง คนตอบทำแก้มป่อง ตาเหล่มองร่างสูงอย่างครุ่นคิด คยูฮยอนหัวเราะ อีหรอบนี้นี่อย่าบอกว่าหึงกูกับหนูกลางนะครับ ตลกละหมู
แล้วระหว่างซองมินกับพี่ชายของคยูคนนั้น คยูว่าใครน่ารักกว่ากัน
พอเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมเอ่ยอะไรต่อ นอกจากอมยิ้มอย่างเดียว ซองมินก็รีบเอ่ยถามคำถามต่อไปทันที
หนูกลางน่ารักกว่า คยูฮยอนตอบโดยไม่ต้องคิด กลั้นขำนิดหน่อย ตอนเห็นหน้าคนข้างๆ มุ่ยเข้าหากันอย่างขัดใจ หึหึ เด็กเอาแต่ใจนี่หว่า
ไม่มีทางอ่ะ พี่ชายคยูจะน่ารักกว่าซองมินได้ไง โม้เปล่า เด็กอวบหยุดเดินพลางกอดอกป้อม ท่าทางดื้อรั้นน่าดูชมเชียวล่ะ
ไม่ได้โม้ สำหรับฉันแล้วหนูกลางน่ารักมากจริงๆ คยูฮยอนตอบยิ้มๆ ไม่ได้ตั้งใจจะกวนหรือแหย่หมูเล่นนะเออ แต่เขาหมายความตามนั้นจริงๆ สำหรับคยูฮยอนแล้ว พี่ชายทั้งสองคนของเขาน่ารักที่สุดในโลกแล้วล่ะ
แล้วระหว่างพี่ฮีชอลกับพี่หนูกลาง ใครน่ารักกว่ากัน ซองมินตั้งคำถามอย่างไม่ยอมแพ้
หนูกลาง คำตอบรวดเร็วฉับไวเสียจนคนฟังเริ่มหงุดหงิด
งั้นถ้าซองมินกับพี่หนูกลางล่ะ?
ก็ยังเป็นหนูกลางอยู่ดี ร่างสูงยักไหล่ ชักสนุกกับการได้เห็นเด็กหนุ่มเต้นผางเพราะถูกขัดใจขึ้นมาตงิดๆ
ไม่จริงอ่ะ! ซองมินเป็นแฟนคยู ซองมินต้องน่ารักที่สุดสิ คนที่ต้องน่ารักที่สุดเบะปาก ออกอาการต่อต้านคำตอบที่ได้ยินเต็มที่ ตั้งแต่เกิดมาก็มีแต่คนบอกว่าซองมินน่ารักที่สุด แล้วจะมีคนน่ารักกว่าซองมินอีกได้ยังไง ซองมินไม่ยอม!
แต่พี่ชายกับแฟนมันไม่เหมือนกันนะหมูคยูฮยอนตั้งท่าจะอธิบาย ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงใสที่ตวาดแว้ดใส่เต็มหู
ห้ามเรียกว่าหมูนะ!”
โอเคๆ อย่าเสียงดังสิ ไม่เรียกก็ไม่เรียก
ร่างสูงยกมือสองข้างทำนองว่ายอมแพ้ เรียวปากหยักยกยิ้มขำกับสีหน้าของอีกฝ่ายที่เหมือนว่ากำลังงอนเขาอยู่ นิ้วเรียวยกเกลี่ยแก้มขาวเบาๆ จะว่าไป ไอ้ปีศาจหมูตอนงอนก็ดูน่ารักดีเหมือนกันแฮะ
แล้วตกลงว่าใครน่ารักที่สุด ซองมินถามอีกรอบ ดวงตากลมโตช้อนมองคนตรงหน้าอย่างคาดหวัง ต้องบอกว่าซองมินนะ ถ้าไม่ใช่ จะโป้งตลอดชีวิตเลย คอยดู
คยูฮยอนหัวเราะขำอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงสบตากับเด็กหนุ่ม ยกยิ้มหวานให้อีกฝ่ายใจแกว่งกะทันหัน
ก็ต้องเป็น... น้ำเสียงนุ่มรื่นหูลากยาวเหมือนจะแกล้งให้คนฟังร้อนใจ แต่ไม่ใช่ เพราะรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนเรียวปากค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ เมื่อดวงตาคมที่แสร้งเบนมองไปทางอื่นสะดุดเข้ากับคนคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
นั่นมัน... ไอ้ทงเฮกับหนูกลางไม่ใช่เรอะ!?!
ไอ้เชี่ยเอ๊ย!”
ห๊า!?!” ซองมินร้องออกมาอย่างไม่เข้าใจ ไอ้เชี่ยไหนอีกวะที่มันน่ารักกว่าซองมินอ่ะ แงงงงงง~ TOT
ไอ้เหี้ยทง แม่งเจอพี่กูแล้วไม่บอกกูเหรอ หนอยมึง...!!!”
คยูฮยอนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ขายาวก้าวตรงไปหมายจะเข้าไปหาคนทั้งคู่ หากแต่กลับต้องชะงักเพราะภาพของพี่ชายที่รักที่จู่ๆ ก็ชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มไอ้ทงเฮอย่างไม่อายใคร
O_O!!!
อีฟร้าคคคคคคคคคคคคค เมื่อกี้มันอะไรวะ? อะไรวะนั่น! กูตาฝาดไปใช่มั้ย? ไม่จริ๊งงงงงงงงงงง T[]T
ตั้งแต่โตมากูยังไม่โดนหนูกลางหอมแก้มซักช๊อตเลย แล้วไอ้ทงเฮมันเป็นใครถึงได้รับสิทธิ์นั้น หยามหน้ากันสุดๆ กูไม่ยอม กูต้องเข้าไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง!


XXXXXXXX



ดอกกุหลาบหอมจัง ขอบคุณนะทงเฮ
เสียงหวานๆ กับปลายจมูกที่กดลงแก้มเขาแผ่วเบาทำเอายอดชายนายทงเฮถึงกับฉีกยิ้มกว้างไม่หุบ มือหนายกขึ้นเกาแก้มตัวเองแก้เขิน ขณะจ้องมองเจ้านายตัวน้อยที่กำลังก้มลงดมดอกไม้และเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานให้จนใจเขาเต้นแรงไปหมด
บ้าชะมัด อี ฮยอกแจคิดจะอัพเลเวลความน่ารักขึ้นทุกวินาทีเลยรึไงวะ -////-
เอ่อ ตอนนี้ก็กลับบ้านกันเถอะนะครับบอส ทงเฮเอ่ย ร่างหนาทำท่าจะเปิดประตูรถให้ แต่ฮยอกแจกลับรีบส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
อย่าเพิ่งสิ ผมยังไม่ได้เดินเที่ยวเลยนะ พาผมเที่ยวก่อนสิ คนตัวเล็กอ้อน สายตามองไปรอบๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ก็ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา ถ้าไม่นับพวกผับบาร์กับสถานบันเทิงตอนกลางคืน ฮยอกแจก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนอีกเลยนี่นา ไหนๆ วันนี้ก็มีโอกาสทั้งที ให้ทงเฮพาเที่ยวซักหน่อย มันจะเป็นอะไรไป
แต่พี่ฮีชอลกำลังเป็นห่วงบอสอยู่นะครับ กลับไปปรับความเข้าใจกันก่อนแล้วค่อยออกมาเที่ยว จะไม่ดีกว่าเหรอครับ? ทงเฮแย้งเสียงนุ่ม ฮยอกแจมุ่ยหน้า ดวงตาหลุบต่ำ
หรือบอสยังโกรธพี่ฮีชอลอยู่? เอ่ยถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไป
เปล่า ปฏิเสธเสียงเบา ร่องรอยความเสียใจปรากฏบนใบหน้า ไม่ใช่เพราะยังโกรธพี่ชายอยู่ แต่เป็นเพราะความรู้สึกผิดต่างหากที่ทำให้เขาไม่อยากกลับไป ทั้งที่ฮยอกแจก็รู้ว่าพี่ฮีชอลทุ่มเททุกอย่างให้ตระกูล แต่เขากลับทำให้สิ่งที่พี่ฮีชอลลงแรงมาพังทลายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตน เขามันเป็นเด็กไม่ดีที่เอาแต่สร้างเรื่องวุ่นวาย เป็นจุดด่างพร้อยของครอบครัว ฮยอกแจไม่มีความกล้าที่จะสู้หน้าพี่ฮีชอลอีกแล้ว
งั้นก็กลับบ้านกับผมสิครับ ถ้าบอสรู้สึกผิด เราก็ไปขอโทษด้วยกัน ทงเฮพูดพลางเกลี่ยปอยผมทัดหูอีกฝ่ายด้วยกริยาอ่อนโยน ฮยอกแจยืนเงียบ ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและลังเลใจ
ผม...
ไปเถอะครับ ผมมั่นใจว่าพี่ฮีชอลไม่โกรธบอสแน่นอน ทงเฮยิ้มให้คนที่เงยหน้าขึ้นมองเขา ฝ่ามืออุ่นประคองพวงแก้มนิ่มเอาไว้พลางใช้นิ้วโป้งคลึงกลีบปากอิ่มที่ถูกขบเอาไว้จนมันเริ่มกลายเป็นสีแดง
ผม...




เฮ้! นายใช่มั้ยที่ชื่ออี ฮยอกแจ?




ระหว่างที่ฮยอกแจกำลังอ้ำอึ้ง ไม่กล้าตัดสินใจอยู่นั้น จู่ๆ น้ำเสียงหาเรื่องของผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามาหาก็เรียกความสนใจจากคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี
ใช่ มีอะไร? ฮยอกแจตอบรับอย่างไม่เกรงกลัว แม้ว่าขนาดรูปร่างของคนมาใหม่จะแตกต่างจากเขาอยู่มากโข ใบหน้าหวานหันไปมองด้วยท่าทางหยิ่งผยอง ดวงตาเรียวจับจ้องชายหนุ่มร่างกำยำตรงหน้าอย่างพิจารณา
คนแปลกหน้า ท่าทางเอาเรื่องเสียด้วย
ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พวกฉันแค่ได้รับว่าจ้างมา...
ต้องการอะไร? ทงเฮไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบ ร่างหนาขยับก้าวเข้ามายืนบังฮยอกแจเอาไว้ สายตาจ้องมองกดดันชายหนุ่มทั้งสองเขม็ง คนแปลกหน้าชะงักคำพูด ก่อนจะเหลียวมองหน้ากันอย่างไม่มั่นใจ ไม่เห็นมีใครบอกว่าไอ้หนุ่มหน้าหวานมีบอดี้การ์ดด้วย
อี ฮยอกแจ... พวกเราต้องการให้อี ฮยอกแจไปกับพวกเรา อีกคนหนึ่งรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น แม้จะหวั่นกับท่าทีน่ากลัวของทงเฮอยู่บ้าง แต่ยังไงซะพวกเขาก็ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ
หืม มีคนอยากเจอฉันงั้นเหรอ? ฮยอกแจเลิกคิ้ว ขาเรียวทำท่าจะก้าวออกจากหลังทงเฮ แต่ก็โดนคว้าข้อมือเอาไว้
บอสครับ อย่าดีกว่าครับ ทงเฮห้าม เขาไม่ไว้ใจไอ้พวกนี้ แค่หน้าตาท่าทางก็ว่าแปลกแล้ว นี่ยิ่งมีบอกว่ามีคนจ้างมาทำให้ยิ่งไม่น่าไว้ใจเข้าไปใหญ่
บอกได้มั้ยว่าใครจ้างพวกนายมา ฮยอกแจถามอย่างสงสัย ไอ้พวกนี้ทำหน้าตามีพิรุธแปลกๆ ลุกลี้ลุกลน ลับๆ ล่อๆ เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะแค่โดนจ้างมาให้พาตัวเขาไปเฉยๆ แบบนี้
ไม่ได้! ไม่ต้องมาชวนคุยให้เสียเวลา รีบมากับเราก่อนที่ไอ้หนุ่มนี่จะเจ็บตัวดีกว่า ยกเอาตัวทงเฮมาอ้าง เพราะเห็นท่าทีสนิทสนมห่วงใยกันผิดปกติของทั้งสอง มือหยาบยื่นมาหมายจะคว้าตัวฮยอกแจออกไป แต่ก็ถูกทงเฮที่ระวังอยู่ก่อนแล้วยันโครมเข้าให้
พลั่ก!
โอ๊ย!”
หนอย ไอ้นี่!” อีกคนที่ยืนอยู่ข้างกันพอเห็นว่าเพื่อนตัวเองโดนถีบล้มลงไป ก็รีบปรี่เข้ามาหาร่างหนาพลางเหวี่ยงหมัดใส่ใบหน้าหล่อเหลาอย่างแรง ทงเฮยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลซึมตรงมุมปาก ความโมโหพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ชายหนุ่มดันร่างฮยอกแจให้ออกห่าง ก่อนจะพุ่งเข้าไปตะลุมบอนกับนักเลงสองคนด้วยตัวเอง
ทงเฮ ระวัง!” ฮยอกแจที่กำลังจะเข้ามาช่วยตะโกนบอกเสียงดังลั่น เมื่อเหลือบเห็นหนึ่งในสองคนล้วงเอามีดพกออกมา ทงเฮหันขวับ มือใหญ่ยกขึ้นรับอาวุธที่ถูกดันเข้าหาตน ของเหลวสีแดงเข้มไหลย้อยลงมาทันทีที่คมมีดบาดลึกเข้าผิวหนัง พร้อมๆ กับความเจ็บปวดที่กระแทกลงบริเวณท้ายทอยจนทงเฮถึงกับทรุดลงไปไม่รู้ตัว



ผลั๊วะ!



ตุ้บบ!




ทงเฮ!”



ไอ้ทงเฮ!”





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น