วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[8]_____LITTLE EVIL {2}






            “บอส...
ทงเฮ...!!!”
            สองเสียงดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทงเฮอึ้ง ตามองคนตรงหน้าที่เปลือยท่อนบนอย่างตกใจ ก่อนที่ดวงตาคมจะตวัดมองเข้าไปในห้อง และภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหูอื้อตาลายไปหมด
            ผู้ชายห้าคนที่ต่างก็เปลือยกายล้อนจ้อนกับคนแปลกหน้าอีกหนึ่งคนที่ถูกขึงอยู่กลางเตียง...
อ... อ๊า... ซี้ด~”
O_O เยชเขว้!
ไอ้พวกนี้มันอะไรวะ ไอ้ฟร้าคคคคคคคคคคคค!!!
ฮ... ฮยอกแจ... อาห์...
ขวับ!
ยืนตะลึงอยู่ได้ไม่กี่นาที ทงเฮก็เหมือนจะได้สติ เพราะเสียงคนในห้องที่ครางออกมาเป็นชื่อของเจ้านายเขา ดวงตาคมกริบตวัดกลับมาทางเจ้านายหนุ่มที่ยืนหน้าเสีย อารมณ์โมโหพุ่งพรวดขึ้นมาแทบจะทันที
ทงเฮ คือ...
ฟึ่บ
ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา ฮยอกแจก็ต้องหยุดและซุกตัวเองลงกับร่างกำยำที่เคลื่อนกายเข้ามาบังตัวเขาจากสายตาอยากรู้ของคนที่เดินผ่านมา ได้ยินเสียงบดกรามของอีกฝ่ายที่เหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์แล้วก็นึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
            นี่เหรอครับ เรื่องที่บอสต้องคุยกับเพื่อนเก่า
อยู่ๆ ทงเฮก็ถามออกมาเสียงเข้ม ฮยอกแจพูดอะไรไม่ออก ดวงหน้าหวานถอดสีเล็กน้อย เมื่อเห็นแววตาคมจ้องมาด้วยสายตาดุดัน ฝ่ามือบางยกขึ้นดันตัวคนตรงหน้าให้ถอยห่างออกไป แต่กลับถูกฉวยเอาไว้แน่น
ที่ไม่อยากให้ผมมาด้วย เป็นเพราะบอสต้องการมาทำอะไรแบบนี้กับเพื่อนงั้นเหรอครับ? ทงเฮกัดฟันถาม อารมณ์โกรธเข้าครอบงำจนเผลอบีบข้อมือบางอย่างลืมตัว ทั้งที่เมื่อคืนก็ยังนอนกอดอยู่กับเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับอยู่กับคนอื่น
คุณหนูฮยอกแจเป็นคนแบบนี้เองหรอกเหรอ?!
ทงเฮก็เพิ่งรู้...
โอ๊ย ผมเจ็บนะ ฮยอกแจนิ่วหน้า ดวงตาคู่สวยตวัดมองทงเฮอย่างไม่เข้าใจ เขาพยายามบิดมือตัวเองออกจากการเกาะกุม แต่ยิ่งขัดขืน มือใหญ่ก็ยิ่งบีบแน่นมากเข้าไปอีก
โอ๊ย ทงเฮ! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!” ร่างบางเต้นเร่า เจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ทงเฮก็ยังไม่ยอมปล่อยเสียที เป็นบ้าอะไรขึ้นมานะ!!!
ถ้าบอสไม่อยากให้ผมมาเป็นก้างขวางคอ ทำไมไม่บอกผมดีๆ ล่ะครับ ร่างหนาเอ่ยเบาๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกเหมือนถูกคนตรงหน้าหักหลัง กับอีแค่เห็นร่างบางออกมาจากในห้องของใครคนอื่นในสภาพเปลือยท่อนบนแบบนี้
            ทงเฮ ผมบอกให้ปล่อย! โอ๊ย ไอ้บ้า! ปล่อยสิ!!!” เสียงหวานตวาดลั่น ดวงหน้าหวาดบิดเบี้ยวเหยเกไปหมด ฮยอกแจสะอื้นในลำคอ ทั้งตีก็แล้ว ทุบก็แล้ว แต่ไอ้คนดูแลบ้าก็ยังมือเหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้าง ไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบราวกับอยากจะหักแขนเขาทิ้งยังไงยังงั้น
            กล้าดียังไง... กล้าดียังไง!!!
            “ทงเฮ... เจ็บ! ผมเจ็บ!!!” คราวนี้ฮยอกแจตะโกนสุดเสียง หยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาจากหน่วยตาคู่สวย และนั่นก็ทำให้ทงเฮได้สติ ชายหนุ่มรีบถอยห่างแทบจะทันที ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นว่าข้อมือเล็กที่ถูกเขาจับไว้เมื่อครู่นั้น ตอนนี้สั่นระริกและบวมช้ำอย่างน่าตกใจ
            บอสครับ ผม...
            เพี๊ยะ!
            ดวงหน้าหล่อสะบัดไปตามหลังมือที่ฟาดลงมา ฮยอกแจกัดฟันแน่นพลางจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตากรุ่นโกรธอย่างไม่ปิดบัง






            เป็นแค่คนดูแล...



            ...



            มีสิทธิ์อะไรมาทำกับเจ้านายแบบนี้






เสียงหวานแค่นกระซิบ แต่ก็ยังดังมากพอที่ทงเฮจะได้ยิน คนดูแลหนุ่มยืนเงียบ แก้มขาวปรากฏริ้วสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดเริ่มแผ่ซ่าน หากทงเฮกลับไม่ได้สนใจมันเท่าความชาที่แล่นเข้าทำปฏิกิริยากับก้อนเนื้อในอก
             เป็นแค่คนดูแล...


            แค่คนดูแล...


นั่นสินะ เขาลืมไปได้ยังไงว่าตัวเองเป็นแค่คนดูแล ถึงเหตุการณ์เมื่อคืนจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเขาทำเกินเลยหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว แต่ยังไงซะ สถานะระหว่างเขากับร่างบางก็ยังคงเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้อง
แล้วทงเฮจะโมโหถึงขนาดนี้ไปเพื่ออะไร?
แค่นหัวเราะด้วยความสมเพชตัวเองในใจ ก่อนจะก้มมองมือเล็กที่ยังคงสั่นน้อยๆ ดวงตาคมทอแสงอ่อนลง ขณะเหลือบตาขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างสำนึกผิด
บอสครับ ผมขอโทษ น้ำเสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยออกมา ฮยอกแจเบือนหน้าหนี แผ่นอกบางสะอื้นน้อยๆ เพราะความปวดตรงข้อมือที่เริ่มจะทวีขึ้นเรื่อยๆ หากก็ยังไม่ยอมพูดอะไรออกมา ขาเรียวทำท่าว่าจะก้าวหนี แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้โดยทงเฮที่รีบเคลื่อนกายมาขวางทางเขา
            ใส่เสื้อก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมพากลับบ้าน
น้ำเสียงที่เมื่อกลางวันยังเจือไปด้วยกระแสของความอ่อนโยน ในตอนนี้กลับฟังดูเฉยชา ไร้ความรู้สึก ฮยอกแจเม้มปากแน่นกับอากัปกิริยาของคนดูแลที่เปลี่ยนไปกะทันหัน ภายในอกบีบรัดและรู้สึกหน่วงประหลาดๆบอกไม่ถูก แต่เพราะทิฐิที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดจึงทำให้ร่างบางได้แต่ยืนนิ่ง ไม่ตอบสนองและไม่ยอมทำตามคำหวังดีนั่น
กรุณาใส่เสื้อเถอะครับบอส ทงเฮพูดย้ำอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเข้ามาประชิดตัวพร้อมดึงเสื้อไปถือไว้
ผมช่วย...
ไม่ต้อง!” เสียงหวานตวาดใส่อย่างไม่ดังมากนัก ฮยอกแจใช้มืออีกข้างแย่งเสื้อกลับคืนมาและพยายามใส่เสื้อด้วยตัวเอง แต่ก็ทำได้ลำบาก เพราะข้อมือที่ชักจะเจ็บขึ้นทุกที มันทำให้การกระทำของเขาดูขลุกขลักไปหมด
ฮึก... หลุดสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ กระทั่งทงเฮที่ทนมองไม่ไหว จำต้องยื่นมือมาช่วยเหลือ แม้จะถูกอาการต่อต้านจากอีกฝ่าย จนพาลให้จังหวะหัวใจเต้นอ่อนแรงลงไปทีละน้อยก็ตามที
เสร็จแล้ว กลับกันเถอะครับ เชิญครับบอส
หลังจากที่ช่วยคุณเจ้านายสวมเสื้อจนเสร็จเรียบร้อย ทงเฮก็เอ่ยปากบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ฮยอกแจเม้มปากแน่น ขาเรียวก้าวเดินแทบจะทันทีที่ได้ยินประโยคเป็นทางการจากทงเฮ เขาเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างดีและรู้ว่าทงเฮคิดอะไรถึงได้กระทำแบบนั้น หากในเวลานี้ความโกรธและทิฐิที่มีมากกว่าเหตุผลหรืออะไรทั้งหมด มันทำให้ฮยอกแจไม่ยอมใจอ่อนให้อภัยทงเฮได้ง่ายๆ
ตั้งแต่เด็กจนโต เขาถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ทุกคนถนอมเขายิ่งกว่าไข่ในหิน แล้วทงเฮเป็นใคร มาจากไหน อยู่ๆ ถึงมาทำให้เขาเจ็บตัวแบบนี้ หนำซ้ำยังทำประชด ขีดเส้นแบ่งแยกคำว่าลูกน้องกับเจ้านายด้วยคำพูดท่าทางเป็นทางการแบบนั้น คิดว่าฮยอกแจจะแคร์หรือไง
บอกเลยว่าไม่มีทาง!





XXXXXXXXX





            “แล้วเป็นไง ไม่สนใจ ไม่แคร์ แต่มานั่งทำหน้างอ ข้าวปลาไม่กิน
            นิ้วชี้เขี่ยแก้มพี่ชายเล่นเบาๆ คยูฮยอนเท้าคาง มองพี่ชายที่นั่งกอดหมอนพิงหัวเตียงด้วยท่าทางบ่จอยอย่างระอาปนขำ
            ก็โกรธ ฮยอกแจมุ่ยหน้า แขนเรียวรัดหมอนใบโตแน่น ยามกลอกสายตามองไปทางร่างหนาที่กำลังโทรรายงานพฤติกรรมเขาให้พี่ชายคนโตฟัง ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่ที่แน่ๆ ฮยอกแจเห็นทงเฮทำหน้าเครียดตลอดเลย หวังว่าจะไม่ได้บอกพี่ฮีชอลเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนไปนะ TT
            กับอีแค่ถูกขัดใจนิดๆ หน่อยๆ เองนะหนูกลาง คยูฮยอนพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากลางเตียงนอนกว้าง ใช้ตักของพี่ชายตัวเล็กเป็นหมอนหนุนพลางหยิบไอโฟนตัวเองขึ้นมาเล่นเกมแก้ว่าง
เขาถูกเพื่อนรักเรียกมาเป็นกองหนุนเมื่อหลายนาทีก่อน เพราะอี ฮยอกแจ พี่ชายต่างแม่ของเขาทำตัวพยศ ไม่ยอมพูดจา ไม่กินข้าวกินปลา แถมยังไม่ยอมให้ใครเข้ามาในห้อง แม้กระทั่งทงเฮเองก็ตาม ร้อนถึงเขาต้องปลอบต้องกล่อมอยู่ตั้งนานสองนานกว่าที่เจ้าตัวแสบจะยอมให้คนดูแลที่ตอนแรกเหมือนจะถูกใจกันนักหนานั้นเข้ามาใกล้ได้
คยูฮยอนก็ไม่รู้หรอกนะว่าสองคนมีประเด็นอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ เขารู้เพียงแค่ทงเฮเพื่อนรักดันไปทำอะไรขัดใจคุณหนูเอาแต่ใจเข้าให้แล้วล่ะสิ
โฮะๆ เจอความลำบากด่านที่หนึ่งแล้วไง ไอ้ทงเฮ #แอบสะใจเล็กๆ
            ก็แล้วไงล่ะ หนูเล็กก็รู้นี่ว่าพี่ไม่ชอบให้ใครขัดใจ แม้แต่พี่ฮีชอล ป้าซังอา ทุกคน หรือแม้กระทั่งหนูเล็กยังไม่เคยขัดใจพี่เลย แล้วตานั่นเป็นใครถึงมาทำกับพี่แบบนี้!” ระบายอารมณ์ใส่น้องชายโดยที่สายตายังไม่ละไปจากคนตรงระเบียง ปากอิ่มยื่นแล้วยื่นอีก บ่งบอกให้รู้ว่ายังไงซะเจ้าตัวก็จะไม่ยอมหายโกรธง่ายๆ แน่นอน และนั่นก็เป็นนิสัยที่คยูฮยอนรู้ดี
            เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ ทิฐิสูง อวดเก่ง เรื่องพวกนี้ต้องยกให้ฮยอกแจเลยล่ะ
            ไม่ใช่ว่าไม่อยากขัดใจ แต่มันเป็นเพราะพวกเราขัดใจหนูกลางไม่ได้ต่างหากล่ะ คยูฮยอนแย้งขึ้นมานิ่มๆ
            คยูฮยอน!” อี ฮยอกแจหน้าบึ้งกว่าเดิมคูณสิบ หมอนนุ่มถูกยกขึ้นหมายจะฟาดลงกลางหน้าหล่อๆ ของน้องชาย แต่ก็ถูกคยูฮยอนยกมือขึ้นสกัดไว้เสียก่อน
            เอ้า ก็พูดเรื่องจริงนะ มีใครขัดใจหนูกลางได้บ้าง ไม่มีหรอก เพราะต่อให้พี่ฮีชอลหรือผมไม่ยอม หนูกลางก็จะต้องอาละวาดจนพวกเรายอมอยู่ดี ผมพูดถูกมั้ย? ร่างสูงเอ่ยยิ้มๆ ไม่สนใจสีหน้าดื้อรั้นของพี่ชายเลยสักนิด
            ว่าไง น้องพูดถูกหรือเปล่า? ชายหนุ่มถามย้ำพลางยื่นมือไปหยิกปากล่างของฮยอกแจ ดึงเล่นเบาๆ จนถูกคนเป็นพี่ฟาดมือแรงๆ ไปหนึ่งที
            อย่ามาพูดเหมือนพี่เป็นคนดื้อนะ คนไม่ดื้อขมวดคิ้วมุ่น คยูฮยอนหัวเราะ
            ยังไม่ได้พูดงั้นซักคำ
            ก็พูดอยู่เมื่อกี้นี่ไง ฮยอกแจเถียง ท่าทางไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
            พูด แต่ไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่จะบอกว่าที่ไม่มีใครขัดใจหนูกลาง เป็นเพราะทุกคนรักหนูกลางมากจนไม่อยากทำให้หนูกลางอารมณ์เสียต่างหาก
คนเป็นน้องคว้ามือพี่ชายมาบีบเบาๆ คล้ายจะปลอบให้อีกคนอารมณ์เย็นลง ซึ่งก็เหมือนจะได้ผล เพราะฮยอกแจดูนิ่งไปทันทีที่เขาพูดจบ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันไม่ยอมคลาย แต่แววตาเรียวกลับมีความสงสัยผุดเพิ่มเข้ามาให้คนมองอมยิ้มอย่างเอ็นดู
งั้นคนที่ขัดใจพี่ ก็ไม่รักพี่น่ะสิ หลุดปากถามสิ่งที่คิดออกไป ก่อนจะตวัดสายตาไปทางชายหนุ่มที่ยังไม่หมดธุระกับพี่ชายเขา ทำเอาคนที่แอบสังเกตพี่ชายตัวเล็กอยู่แทบจะกลืนน้ำลายลงหลอดลม
อะแฮ่ม เอ่อ มันไม่เกี่ยวกันหรอกนะ คุณพี่ คือพวกเราตามใจหนูกลาง เพราะรักก็จริง แต่คนที่ไม่ตามใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรัก... อ่า... สรุปง่ายๆ คือมันไม่เกี่ยวกันหรอก พี่เข้าใจป่ะ? คยูฮยอนลุกขึ้นนั่งอธิบายอย่างร้อนรน ภาพที่อี ทงเฮแอบหอมแก้มพี่เขาเมื่อวานมันยังติดตาอยู่เลย ได้โปรดอย่าเพิ่งมาตอกย้ำว่าพี่เขากับเพื่อนรักมีซัมติงอะไรกันเลยนะ ขอร้อง คยูฮยอนยังทำใจรับมันไม่ทัน TT
ไม่เกี่ยวกันยังไง ก็คยูเพิ่งบอกพี่ไปว่าทุกคนตามใจพี่เพราะรัก แสดงว่าคนที่ไม่ตามใจ ก็ไม่ได้รักพี่ ไม่ถูกตรงไหน เอ่ยด้วยน้ำเสียงดื้อดึง แต่ไม่วายเหลือบตามองใบหน้าหล่อที่เหลียวกลับมาสบตาเขาพอดิบพอดี ฮยอกแจกัดปากฉับ อารมณ์ขุ่นเคืองกลับมาอีกรอบ เมื่อทงเฮที่หันมามองตีสีหน้าเย็นชาใส่พร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
ทำแบบนี้หมายความว่าไงห๊ะ อี ทงเฮ!!!
โหย มันไม่ใช่อย่างนั้น หนูกลาง ฟังนะ การที่เราไม่ถูกตามใจมันมีหลายเหตุผล และหนึ่งในเหตุผลนั้น ก็ไม่เกี่ยวว่าคนๆ นั้นต้องรักเรา บางทีอาจจะเป็นแค่ความหวังดี อย่างเช่น เขาเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่ดี ก็เลยไม่สนับสนุน ไม่ยอมทำตามที่เราต้องการอะไรทำนองนี้อ่ะ
แต่พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่!” ริมฝีปากอิ่มบิดโค้งขึ้นอย่างไม่พอใจ คำพูดที่แสดงถึงนิสัยอันดื้อรั้นสุดๆ ของคุณพี่ชายทำเอาคยูฮยอนกุมขมับ ปวดหัวขึ้นมาตงิดๆ อย่าแตกประเด็นสิคร้าบ คุณพี่!
ผมก็แค่ยกตัวอย่าง คยูฮยอนพูดช้าๆ อย่างใจเย็น ก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ตอนเด็กๆ ไม่ดื้อขนาดนี้นี่หว่า ทำไมโตมากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้วะเนี่ย?
ดวงตาคู่คมชำเลืองมองพี่ชายตัวดีที่นั่งกัดปาก กอดอก คิ้วขมวดอย่างนึกเอือม แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากได้รูปกลับเผยรอยยิ้มออกมาบางเบา
หนูกลางนี่ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน ก็ยังน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยวุ้ย >_< #หลงพี่ขั้นสุด
ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิเจ้าหญิง ไม่น่ารักเลย ยื่นมือไปนวดหัวคิ้วให้พี่ชายอย่างทะนุถนอม ฮยอกแจลดสีหน้าตึงเครียดลง นัยน์ตาเรียวทอดมองน้องชายต่างแม่ด้วยความโหยหา
คยูฮยอนรักพี่มั้ย? เอ่ยคำถามที่ทำให้คนฟังเลิกคิ้วมองด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่น้องชายสุดหล่อจะกดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู
รักครับ รักมากๆ ด้วย
แล้วพี่ฮีชอลล่ะ รักพี่หรือเปล่า? ถามอีกครั้งด้วยสีหน้าหงอยเหงาจนคนมองอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นดึงคนตัวเล็กมากอด
รักอยู่แล้ว หนูใหญ่กับหนูเล็กรักหนูกลางที่สุดในโลกเลยนะครับ ตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพลางโยกคนในอ้อมแขนไปมา
แต่ที่โน้นไม่มีใครรักพี่เลย ไม่มีใครสนใจพี่ด้วย พี่เหงามากเลยคยูฮยอน เสียงหวานดังอู้อี้ คำพูดที่ทำให้คยูฮยอนได้แต่นิ่งอึ้งด้วยความรู้สึกจุกในอก อ้อมแขนแกร่งกอดกระชับร่างบางให้แน่นขึ้นอีกนิด
ไม่เอาน่า พูดอะไรอย่างนั้น มาดามรักหนูกลางจะตายไป ใครๆ ก็รู้เอ่ยปลอบพลางลอบถอนหายใจเบาๆ ฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่คยูฮยอนก็สัมผัสได้ถึงความว้าเหว่ในน้ำเสียงและท่าทางของพี่ชายที่แสดงออกมาให้เขาได้รับรู้
ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าฮยอกแจต้องทนปวดร้าวกับปัญหาครอบครัวมานานแค่ไหน ปัญหาที่ผู้ใหญ่เป็นคนก่อ แต่คนที่รับกรรมกลับเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ สิบกว่าปีกับความอึดอัดที่พี่ชายเขาต้องแบกเอาไว้เพียงลำพัง โดยที่เขาและพี่ฮีชอลไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ทำได้เพียงก็แค่ขอร้องให้ทุกคนอนุญาตให้เขาสามคนพี่น้องได้เจอกันทุกช่วงเวลาปิดเทอมเท่านั้นเอง
คยูฮยอน
คยูฮยอนเงยหน้าตามเสียงเรียก ก่อนจะยิ้มแหย เมื่อเจอเข้ากับสีหน้าเคร่งขรึมของเพื่อนเลิฟที่มองมายังเขากับพี่ชาย ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเกรงสายตามันด้วย กับอีแค่พี่น้องกอดกันนี่มองหยั่งกับกูเป็นชายชู้ของเมียมัน ประสาทจริงๆ
เอ่อ... มึง... ส่งเสียงทักเพื่อน แต่เหมือนทงเฮไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ ร่างหนาเลี่ยงเดินไปทางประตูห้อง หมุนลูกบิด หันกลับมามอง ก่อนจะถอนหายใจใส่เขา
เดี๋ยวกูจะลงไปข้างล่าง
อ่าฮะ แล้ว? คยูฮยอนเลิกคิ้ว รู้สึกถึงแรงขยุกขยิกของคนในอ้อมแขนนิดหน่อย ก่อนที่หัวกลมๆ ของฮยอกแจจะมุดออกมาจากแขนเขา (คยูฮยอนว่าเขารัดตัวพี่ชายไว้แน่นแล้วนะ แม่ง)
ไปไหน ฮยอกแจถามเสียงห้วน ทงเฮสบตากับคนถาม ก่อนจะตอบ
ข้างล่างครับ
รู้แล้วว่าไปข้างล่าง แต่จะไปทำอะไร ฮยอกแจหน้าบึ้ง
...
ไม่ตอบก็ไม่ต้องไป นายเป็นคนดูแลของผม หน้าที่คือดูแลผมเท่านั้น อย่างอื่นถ้าผมไม่สั่ง ก็ไม่ต้องทำ!”
คำพูดเอาแต่ใจอย่างที่ทำให้คนฟังทั้งสองได้แต่เงียบและมองหน้ากันปริบๆ
เอ่อ หนูกลาง...
ขอโทษนะครับ แต่บอสเข้าใจคำว่าคนดูแลผิดไปหรือเปล่า?
ก่อนที่คยูฮยอนจะทันได้พูดอะไรออกมา ทงเฮก็เอ่ยแทรกคยูฮยอนขึ้นมาเสียก่อน คนหล่อกดยิ้มมุมปาก มองคนที่ขมวดคิ้วจ้องตากับเขาด้วยท่าทางเหนือกว่า
หน้าที่ที่ผมได้รับมอบหมายมาจากพี่ฮีชอล มันไม่ได้หมายถึงการที่ผมต้องอยู่ในคำสั่งของบอสหรอกนะครับ...เว้นช่วงนิดหน่อย ขณะยังสบสายตากับฮยอกแจด้วยท่าทางสบายใจ
??
แต่มันหมายถึงบอสต่างหากที่ต้องอยู่ในความดูแลของผม
...!!!”
เป็นคนที่ต้องทำตามสิ่งที่ผมเห็นสมควรเท่านั้น เข้าใจนะครับ
ทงเฮยิ้มหล่อให้คนที่นั่งอ้าปากหวอ มองเขาตาค้างอย่างไม่เชื่อหู ฮยอกแจทำท่าจะลงจากเตียงมาหาเขา แต่ก็ติดตรงที่ถูกคยูฮยอนกอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ว่าไอ้หน้าหลุมดูเหมือนจะอึ้งๆ ไปกับคำพูดเขาเหมือนพี่ชายมันก็เถอะนะ
ถ้าไม่เชื่อที่ผมพูด จะโทรถามพี่ฮีชอลดูก็ได้นะครับ พี่ฮีชอลเป็นคนบอกผมเอง อ้อ แล้วก็...
ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็หันกลับมาอีกพร้อมรอยยิ้มเป็นต่อ
...
อยู่แต่ในห้องนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาอาหารกลางวันขึ้นมาให้ และอย่าอาละวาดให้ผมต้องปวดหัวเหมือนเมื่อเช้าอีกนะครับ เตือนไว้ก่อน
“-O-”
เดี๋ยวผมมานะครับ โปรยยิ้มหล่อให้อีกรอบ ก่อนจะหายออกไปจากห้องที่มีแต่ความนิ่งงัน ฮยอกแจอ้าปากพะงาบๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่ๆ อีตาคนดูแลจะเปลี่ยนท่าทีไปได้มากถึงขนาดนี้ ขณะที่คยูฮยอนเองก็อึ้งตาค้างไม่แพ้กัน
เหยดโด้ชะมดเช็ด! ไอ้ทงเฮแม่งเจ๋งเป้ง สุดยอดที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงอยู่กับหนูกลางได้ คยูฮยอนภูมิใจสุดๆ คิดถูกละที่โยนภาระนี้ให้มัน T^T
หนูเล็ก!!”
นึกภาคภูมิใจในตัวเพื่อนรักได้ไม่ถึงนาที คยูฮยอนก็ต้องสะดุ้งกับเสียงพี่ชายที่ตะโกนเรียกเขาดังลั่น อยู่ใกล้กันแค่นี้จะตะโกนทำด๋อยไรคร้าบ คุณพี่ T-T
ต่อสายหาพี่ฮีชอลเดี๋ยวนี้! แบบนี้พี่ไม่ยอมนะ พี่จะเปลี่ยนคนดูแล!!!” ฮยอกแจโวยวาย เฮ้ยยยยยยยยยยยยย ได้ไง!!” คยูฮยอนเหวอพลางตั้งท่าจะถอยหนี
ทำไมจะไม่ได้! เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวนี้นะ!” ฮยอกแจพุ่งเข้าใส่
ไม่ได้นะเว้ยยยยยยยยยยยย อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้กูสิ คุณพี่
หนูเล็ก บอกให้เอาโทรศัพท์มาาาาาาา!!!”
อ๊ากกกกกกกกกกก ไม่ได้โว้ย อั่ก! อย่าบีบคอสิฟะ!”
เอามา!!!!!!!!!!!”
ม่ายเอา ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ใครก็ได้ช่วยกูที~~ T[]T




XXXXXXXX




กว่าที่คยูฮยอนจะรอดพ้นจากมารร้ายที่ชื่อฮยอกแจ ชายหนุ่มก็แทบจะน่วมไปทั้งตัว เพราะพี่ชายทั้งสองที่ดันก่อสงครามข้ามประเทศกันผ่านสายโทรศัพท์ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าไอ้คนกลางไม่ยอมให้คนดูแลมีอำนาจเหนือกว่า ตรงข้ามกับไอ้คนโตที่สนับสนุนและยินยอมให้เพื่อนเขาควบคุมพี่ฮยอกแจได้อย่างเต็มที่ตามแต่ที่ไอ้ทงเฮจะเห็นสมควร และนั่นก็อาจหมายความรวมได้ถึงอิสรเสรีภาพทุกอย่างของหนูกลางที่เคยได้รับจะต้องอยู่ในขอบเขตที่ไอ้ทงเฮอนุญาตเท่านั้น
พูดง่ายๆ ก็คือตอนนี้ไอ้ทงเฮมีหน้าที่เหมือนกับผู้ปกครองของพี่ชายเขาก็ไม่ปาน (แฮ่ๆ สะจายยย~)
แต่กว่าจะได้ออกมาปลดปล่อยความสะใจตามประสาน้องชายผู้รักพี่ (ที่รักตัวเองมากกว่านิดนึง) คยูฮยอนก็แทบจะตายคาฝ่าเท้าคนขี้โมโหเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจชอบเหวี่ยงชอบวีนอย่างฮยอกแจที่เอาความโกรธทั้งหมดมาลงที่เขา (ไม่อยากจะบอกว่าตอนนั้นคยูฮยอนแอบเห็นแสงสีขาวที่ปลายอุโมงค์แล้วด้วยล่ะ ฮึก)
โชคดีที่ได้ทงเฮมาช่วยไว้ทันเสียก่อน คยูฮยอนจึงรอดจากการเป็นผีน้อยเฝ้าห้องนอนของพี่ชายไปอย่างหวุดหวิด
กริ๊ก
เสียงน้ำแข็งกระทบกับแก้วเหล้าเบาๆ ยามที่ถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากของชายหนุ่มเชิ๊ตดำ น้ำสีอำพันไหลลงคอไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะถูกเติมลงไปใหม่อีกครั้ง คยูฮยอนถอนหายใจยาวกับความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวมาตั้งแต่ที่ได้เห็นวิธีปราบเซียนของเพื่อนรักเมื่อตอนกลางวัน
มันจะมีลูกน้องที่ไหนจับเจ้านายทุ่มลงเตียงแล้วตามไปคร่อมอย่างไอ้ทงเฮบ้างวะ เขาขอถามหน่อย คือมันก็ดีอ่ะนะที่เห็นไอ้ทงเฮปรามพี่ชายเขาได้ (หลังจากที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน) แต่ว่าเขาก็ยังคิดไม่ตกกับการกระทำของสองคนนั่นที่ดูเหมือนจะมากกว่าฐานะของเจ้านายกับลูกน้อง จะพูดยังไงดีล่ะ แบบว่าคยูฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนวิตกจริตไปแล้ว ตั้งแต่ที่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจของเมื่อวาน
ยอมรับเลยว่าในชีวิตนี้ทั้งชีวิต เขาหวงฮยอกแจกับพี่ฮีชอลแบบสุดๆ เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด ถึงจะเป็นน้องเล็ก แต่เขาก็รักและคอยดูแลพี่ชายมาตั้งแต่จำความได้ อาทิเช่น ถ้าใครมารังแกฮ็อกแจน้อยของคูยอนล่ะก็ เขาจะด่ามันจนสะใจแล้วค่อยวิ่งไปฟ้องฮีฮีให้มาจัดการเด็กพวกนั้นอีกทีนึง พอฮีฮีจัดการไอ้พวกเด็กเกเรเรียบร้อยแล้ว คูยอนถึงจะวิ่งกลับไปเอาหน้ากับฮ็อกแจ โดยบอกว่าเขานี่แหละเป็นคนจัดการกับไอ้เด็กพวกนั้นด้วยตัวเอง วะฮ่ะฮ่า~
อาจจะดูเป็นการกระทำที่เจ้าเล่ห์เกินตัวไปหน่อยสำหรับเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เพราะคยูฮยอนอยากเห็นรอยยิ้มหวานน่ารักกับเสียงหัวเราะสดใสของนางฟ้าที่ชื่อฮยอกแจมากนี่นา เขาถึงได้ขโมยความดีความชอบของพี่ฮีชอลมาไว้ที่ตัวเองจนหมด (สำนึกผิดตอนนี้จะทันมั้ย? T-T) ซึ่งแน่นอนว่ามันวิธีที่ได้ผลและสุดยอดที่สุดแล้ว เพราะหลังจากหยุดร้องไห้ นางฟ้าของคยูฮยอนก็จะให้รางวัลเขาเป็นกอดอุ่นๆ กับปากนุ่มๆ จุ๊บลงบนแก้มเขา
ฮือ แค่นึกถึงก็มีความสุข T_____________T
แต่ ณ ปัจจุบันนี้ นางฟ้าของเขา (ที่กลายพันธุ์เป็นนางมารไปแล้ว) กำลังจะถูกแย่งไปซึ่งๆ หน้าด้วยฝีมือของไอ้เพื่อนรักที่ไล่เตะตูดกันมาตั้งแต่ตอนที่หัดดูหนังโป๊ใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับและจะกีดกัน เพียงแต่เขายังทำใจไม่ได้ หากจะยอมปล่อยให้พี่ชายสุดที่รักตกเป็นของเพื่อนที่แม่งเคยจีบหญิงตัดหน้าเขามาแล้วครั้งหนึ่ง (ยังเจ็บใจมาถึงทุกวันนี้ บอกเลย)
เฮ้อ ขอถอนหายใจยาวๆ อีกซักรอบ พร้อมกับกระดกเหล้าย้อมใจอีกซักหน เสียงเพลงและแสงสีที่รายล้อมอยู่รอบตัวไม่ได้ทำให้ทายาทคนเล็กของตระกูลคิมให้ความสนใจกับมันซักเท่าไหร่ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววกลัดกลุ้ม คิดไม่ตกว่าควรทำยังไงต่อไปดี
หวงพี่ก็หวง แต่นั่นก็เพื่อน จะฟ้องพี่ฮีชอลให้กลับมาจัดการไอ้ทงเฮเลยก็ไม่ได้ กลัวว่าจะสูญเสียเพื่อนรักไปตลอดกาล ดีไม่ดี กูจะถูกลูกหลงข้อหาสมรู้ร่วมคิดไปด้วย
แม่งๆๆๆๆๆกระซวกเหล้าลงแก้วไม่ยั้ง ก่อนจะยกขึ้นซดเหมือนดื่มน้ำเปล่า นี่เครียดมากถึงขนาดยอมทิ้งเกมมาข้างนอกเลยนะ จะบอกให้
นั่งดื่ม นั่งคิดอยู่คนเดียวได้ไม่นาน ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก็ทำให้คนรูปหล่อจำต้องลุกขึ้นลากสังขารพาตัวเองไปห้องน้ำอย่างด่วนจี๋ แม้จะเริ่มมึนขึ้นมาหน่อย แต่ขึ้นชื่อว่าโจว คยูฮยอนแล้ว เรื่องแค่นี้ซำบายมาก!
พลั่ก!
จุดหมายอยู่ไม่ไกลก็จริง หากแต่ยังเดินไปไม่ถึง ร่างสูงก็ต้องเซไปข้างๆ เพราะแรงปะทะจากใครคนหนึ่งที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนเขาเข้าเสียได้ ถึงแรงที่ชนจะทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหมูสะกิดก็เหอะ แต่คิ้วหนาก็ยังขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจอยู่ดี
นี่คุณ...
เท่าหรายยยยย~”
หา?
นาย... อึ่ก ราคาเท่าหรายยย...
ก็กะว่าจะเอาเรื่องซักหน่อยอ่ะนะ แต่เพียงแค่หันไปมอง มือนุ่มๆ ของคู่กรณีก็จับหมับเข้าตรงหัวไหล่เขาพร้อมน้ำเสียงอ้อแอ้ยานคางที่ฟังดูก็รู้ว่าคงกินเข้าไปไม่ใช่น้อย คยูฮยอนมุ่นคิ้วแน่นขึ้นไปอีก มือใหญ่คว้าตัวคนตรงหน้าที่ทำท่าจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ให้ยืนตรงๆ ก่อนจะตีหน้าเครียดใส่
นี่น้อง ถ้าเมามากแล้วก็กลับบ้านไปนอนเหอะไป ว่าพลางผลักร่างอวบๆ ออกห่าง ดวงตาคมจ้องมองคนที่ก้มหน้าก้มตายืนโงนเงนอย่างนึกรำคาญ แหม ถามมาได้ว่ากูราคาเท่าไหร่ ถึงกูขาย มึงก็ไม่มีปัญญาซื้อกูหรอกครับ ค่าตัวกูแพงเหมือนผลงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ ดูดี หายาก เพราะมีชิ้นเดียวในโลก รู้ไว้ซะ ฮี่โธ่
อื้อ ครายมาว... ม่ายมาวซ้ากหน่อย... เอื๊อก~” คนเมาส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ก่อนจะพุ่งเข้ามาจับเสื้อเขาไว้อีกรอบ นี่กะจะเอากูให้ได้เลยใช่มั้ยครับ -_-
ปายด้วยกานสิ... น้า... อยากอ่ะ...
วงแขนนิ่มเลื่อนขึ้นคล้องรอบลำคอเขา คยูฮยอนกลอกตาไปมา มือทั้งสองข้างพยายามดันเอวอวบออกอย่างสุภาพ หากอีกคนกลับขืนตัวเอาไว้
ถ้าอยากก็ไปหาคนอื่นเหอะคุณ ผมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น ผมสนองให้คุณไม่ได้หรอก
อึ่ก... ม่ายอาว! จาอาวโคนนี้... อื้อ... อาวโคนนี้แหละ... หอม... น้ำเสียงยานคางเอ่ยอย่างเอาแต่ใจพลางซุกหน้าไปมากับอกกว้าง เรือนร่างที่ถึงแม้จะอวบไปหน่อยแต่ก็นุ่มนิ่มน่าจับดีพิลึกเบียดเข้าหาอย่างเชิญชวนทำเอาคยูฮยอนถึงกับหวิวในอกบอกไม่ถูก
            แต่ผม... เฮ้ๆๆ คุณ! ใจเย็นสิ... คู้ณณณณณณ...
            กำลังจะเล่นตัวอีกซักหน่อย แต่แล้วคยูฮยอนกลับต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะถูกคนที่ใจร้อนกว่าดันให้เดินถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับกดล็อคประตูไม่ให้ใครเข้ามาได้แม้แต่คนเดียว
            เพิ่งรู้ว่าหมูมีแรงมากกว่าคนก็ตอนนี้แหละ T_T
เฮ้ย คุณอย่า... อื้มม... อย่าสิ... อื้มมม... ริมฝีปากหยักส่งเสียงห้ามพร้อมกับพยายามเบี่ยงหลบเรียวปากนุ่มที่ตามมาประกบปล้นจูบเขาเป็นพัลวัน
แฮ่กๆ หยุด! ถ้าไม่หยุด ผมต่อยจริงๆ นะ!” ออกแรงผลักคนตัวเล็กกว่าให้ออกห่าง ใบหน้าคมร้อนวูบวาบกับสายตาฉ่ำเยิ้มของอีกฝ่าย ลิ้นเล็กค่อยๆ เลียริมฝีปากตัวเองอย่างกระหาย ผิวกายสีขาวกระจ่างส่องกระทบกับแสงไฟ เพิ่มความเย้ายวนให้คนขี้เมาแปลกหน้า น่ามองจนแทบละสายตาไม่ได้
โอเค บอกไว้ก่อนว่าคยูฮยอนไม่ใช่คนอ่อนหัดและไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธโอกาสที่มาสนองถึงที่ แต่ทุกอย่างมันต้องเกิดขึ้นในกรณีกูสมยอมสิเฟ้ยยยยยยย!!!
จะทำผม... อึ่ก... ได้ลงคอเลย... เหรอ? คนเมาถามน้ำเสียงเซ็กซี่ ขณะค่อยๆ ปลดกางเกงตัวเองลงไปกองกับพื้น ท่วงท่ายั่วยวนนั้นทำเอาคยูฮยอนถึงกับอดกลืนน้ำลายดังเอื๊อกไม่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่โดนหมูยั่วแล้วมีอารมณ์นะครับ
อ... อื้อ... จะทำ... จริงๆ เหรอ... ไม่รู้ว่าคนถามตั้งใจถามแค่ไหน เพราะตอนนี้มือเล็กนั่นกำลังสอดเข้าไปขยำส่วนอ่อนไหวของตัวเองต่อหน้าต่อตาเขา!
เยชเขว้ หมูช่วยตัวเอง คุณพระคุณเจ้า เซ็กซี่เหี้ยๆ TwwwwwwwwwwT
อ๊ะ... ทำมั้ย... ซี้ด... เดี๋ยวช่วย... คนเมาหยุดมือที่ทำอยู่ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเขาที่ได้แต่ยืนตัวเกร็งไม่กล้าขยับ (ถ้าขยับนิดเดียว มีหวังตบะแตกกูแตกแน่ๆ T^T)
เดี๋ยวช่วยน้า~” เสียงหวานกระเส่าบอกเบาๆ พร้อมกับเลื่อนมือลงไปรูดซิปกางเกงเขาออก ท่ามกลางอาการลุ้นระทึกของคยูฮยอนที่กำลังตบตีกับตัวเองอยู่ในใจ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นและความชื้นที่กำลังโอบล้อมส่วนแข็งขึงของเขา พอก้มลงมอง ศีรษะกลมที่โยกเข้าออกอยู่ตรงหน้าก็ทำเอาสติของชายหนุ่มขาดผึง




ถ้าจะยั่วกูขนาดนี้...




ซี้ด... อื้มมมม...





มาเลย! กูทำก็ได้ครับ!!!






SEXY_BOSS_____[7]_____LITTLE EVIL {1}






          ตลอดทั้งวัน ทงเฮปล่อยให้บอสคนสวยพักผ่อนอยู่แต่ในห้อง โดยที่เขาก็เทียวเข้าเทียวออกเพื่อคอยดูแลอำนวยความสะดวก ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ฮยอกแจอยากได้สิ่งไหน ต้องการอะไร ทงเฮจัดให้ทุกอย่าง แถมยังรวดเร็วยิ่งกว่าขีปนาวุธขององค์การนาซ่าเสียอีก แน่นอนว่ามันอาจเหนื่อยหน่อยกับการต้องคอยตามใจคุณหนูกลางของตระกูลคิม หากแต่ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นมีค่าน้อยกว่ารอยยิ้มหวานและพื้นที่สีแดงบนแก้มขาวนุ่มนิ่มของคนบนเตียงหลายเท่านัก
            อะแฮ่มๆ อย่าเข้าใจผิด ทงเฮไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคุณเจ้านายเลยนะ ไม่เล้ยยยยยยยยยยย ทุกอย่างที่ทำไปวันนี้ ทงเฮก็แค่อยากชดเชยให้กับการกระทำของเขาที่เผลอตัวทำรุนแรงไปกับคนตัวเล็กเมื่อคืนก็เท่านั้นเอ๊งงงงง (แล้วเอ็งจะเสียงสูงทำไมไม่ทราบ)
            ทงเฮไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ เชื่อกันสิ *ทำหน้าขึงขัง*
            “ทงเฮ~”
            ครับ ตอบรับคนบนเตียงเสียงนุ่ม นัยน์ตาคมเงยขึ้นจากหนังสือในมือทอดมองร่างขาวในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นโชว์ต้นขาเนียนและเต็มไปด้วยรอยแดงประปรายที่ล้วนมาจากฝีปากเขาทั้งสิ้น (ไม่อยากจะคุย อิ___อิ)
            ฮยอกแจกัดปากพลางเอียงคอมองเขาด้วยสายตาสงสัยระคนเขินอายนิดๆ ซึ่งนั่นก็เรียกสายตาเอ็นดูจากทงเฮได้มากโข ไม่รู้ว่าสถานการณ์ระหว่างเขากับฮยอกแจเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ทงเฮก็แปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นนิสัยอีกด้านหนึ่งของเจ้านายตัวเองที่ดูน่ารัก อ่อนหวาน ผิดกับลุคแม่เสือสาวยั่วสวาทที่วันก่อนๆ ยังคอยแต่จะยั่วให้เขาตบะแตกได้ตลอดเวลา แตกต่างจากวันแรกที่เขาได้เจอกับฮยอกแจ ราวกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
จะบอกว่ามันเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนงั้นเหรอที่ทำให้ฮยอกแจเปลี่ยนไปในเวลาอันรวดเร็ว อันนี้ทงเฮก็ไม่ทราบได้และไม่คิดจะไปถามถึงนิสัยที่แท้จริงของคุณบอสจากใครด้วย เนื่องด้วยเขาคิดว่ามันคงไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เขาฟันคุณหนูคนโปรดของบ้านไปแล้ว ทงเฮก็คิดว่าการทำตัวให้เป็นปกติและไม่ทำอะไรที่ส่อพิรุธ มันอาจจะทำให้เขามีชีวิตรอดต่อไปได้ โดยไม่ต้องสละชีพในหน้าที่ (แน่นอนว่าถ้ามีคนรู้ พี่ฮีชอลคงไม่เก็บเขาไว้) ถึงแม้ว่าจิตใต้สำนึกจะบอกให้เขาแสดงความรับผิดชอบก็ตามทีเถอะ
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟากลางห้องเดินตรงเข้าไปหาร่างบางที่นอนคว่ำเล่นโน้ตบุ๊กอยู่บนเตียง ก่อนจะก้มตัวลงไปหาพลางส่งยิ้มอบอุ่นไปให้
บอสมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?
ถามไปแล้ว ทงเฮก็แอบประหลาดใจกับตัวเองเหมือนกันที่สามารถใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้นได้ ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อมันคุ้มจะตายไปกับการที่ได้เห็นแก้มขาวๆ นั่นซับเลือดฝาด แดงระเรื่อ น่ามองเป็นที่สุด
ถ้าบอสจะน่ารักแบบนี้บ่อยๆ ทงเฮว่าอีกไม่นาน เขาคงหลงบอสหัวปักหัวปำแน่ๆ -////- (เป็นโรคชอบคนตัวเล็ก แก้มแดง ปากน่าจูบน่ะ)
ฮยอกแจกลอกตาหลุกหลิก กลบเกลื่อนอาการเขินที่พุ่งพรวดเข้ามาปะทะเขาเป็นรอบที่ 98 ของวัน ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ว่าหลังจากเรื่องราวเมื่อคืนผ่านไป คนตรงหน้าอาจคิดอะไรกับเขามากกว่าฐานะของเจ้านายกับลูกน้อง แต่ว่าไอ้การกระทำที่โคตรจะอ่อนโยน เอาใจใส่เขาแทบทุกฝีก้าว มันทำให้ใจดวงน้อยๆ สั่นไหว แถมยังเหวี่ยงโลกแสนมั่นของฮยอกแจให้โคลงเคลงไปมาได้รุนแรงกว่าปกติอีกต่างหาก
ก็ใครจะไปนึกล่ะว่าทงเฮจะเป็นผู้ชายแสนดีขนาดนี้ ฮือ ฮยอกแจเขินตัวจะระเบิดแล้วน้า~ T///v///T
ไม่... ไม่มีอะไร ผมแค่จะถามว่านายไม่มีหน้าที่อะไรต้องไปทำหรือไง ถึงได้มานั่งเฝ้าผมทั้งวันแบบนี้น่ะ เอ่ยถามเสียงหยิ่งๆ พลางพยายามบังคับสายตาตัวเองให้หันกลับไปจดจ่ออยู่กับหน้าจอโน๊ตบุ๊กแทนหน้าหล่อๆ ของคนบางคนแถวนี้
            ไม่มีครับ ทงเฮตอบสั้นๆ พร้อมอมยิ้มให้กับคำพูดกลบเกลื่อนของเจ้านายคนสวย ดูก็รู้ว่ากำลังเขินมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดี ไล่ทางตรง ทงเฮก็ไม่ไป จะไล่ทางอ้อม ทงเฮก็ไม่ยอมไปอีกแหละ น่าหนักใจแทนจริงๆ เลยน้า~ คึคึคึ
            ตะ... แต่นายไม่อยากกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองบ้างหรือไง เมื่อคืน... กว่าจะได้นอนก็... เกือบเช้าไม่ใช่เหรอ? ประโยคสุดท้ายฟังดูตะกุกตะกักแถมยังเบามากซะจนทงเฮเกือบไม่ได้ยิน แต่เพราะในห้องเงียบมาก มันเลยไม่เป็นอุปสรรคกับทงเฮเท่าไหร่นัก ริมฝีปากหยักวาดยิ้มกว้าง ก่อนจะโน้มตัวลงไปหาคนบนเตียงพลางใช้สายตาแบบที่ทำให้ฮยอกแจอยากจะมุดหน้าลงไปบนหมอนใบโตที่เขากอดอยู่
            โอ๊ยยยยยยยยยยยย เกิดมาเพิ่งเคยเจอแบบนี้ คนบ้าอะไร เห็นเขาเขินก็แกล้งอยู่ได้ ฮือ
            บอสเป็นห่วงผมเหรอครับ? เอ่ยถามเสียงนุ่ม พอใจนักแหละกับการได้เอาคืนเจ้านายคนเก่งที่เมื่อสองวันก่อนยังทำตัวซ่าส์ใส่เขาอยู่ แหม ถ้ารู้ว่าจับฟัดแล้วจะเป็นอย่างนี้ รู้งี้ทงเฮจัดการตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วล่ะ ^^ (ใครบอกว่ามันเป็นสุภาพบุรุษฟะ! ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงง)
            เปล่าซักหน่อย... เสียงหวานดังอู้อี้ นัยน์ตาเรียวเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างจากเขาไม่มาก ก่อนจะเบนไปทางอื่น เมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ลามไปทั้งผิวหน้า
            ผมแค่กลัวว่านายจะทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ต่างหาก เพราะวันนี้... ผมมีนัดต้องออกไปข้างนอก ถ้านายไปด้วย นายอาจจะขับรถไม่ไหว
            ไปข้างนอก? ทงเฮทวนคำถาม ฮยอกแจพยักหน้า
            อื้อ แต่จริงๆ นายไม่ต้องไปด้วยก็ได้นะ ผมแค่จะไปเจอเพื่อนเก่าซักหน่อยน่ะ พอดีมีเรื่องต้องคุยกันพูดแล้วก็ส่งยิ้มบางให้เหมือนไม่มีอะไร แต่มันกลับทำให้ทงเฮเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ถ้าตาไม่ฝาด ทงเฮคิดว่าเขาเห็นดวงตาของฮยอกแจส่องประกายวาววับเอาเรื่องไม่ใช่น้อยเลยนะ
            น่าสงสัย...
            เพื่อนเก่าเหรอครับ?ทงเฮถามอีกครั้ง
            ก็เป็นเพื่อน...


            RRRrrrrrr~


          ฮยอกแจยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เสียงเรียกเข้าจากมือถือเครื่องหรูที่เจ้าตัววางทิ้งไว้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก็ดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งสองในทันที ไม่ต้องรอให้บอสออกคำสั่ง ทงเฮก็เดินไปหยิบมาพร้อมมองดูหน้าจอโทรศัพท์ คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นว่ารูปของคนที่โทรเข้ามานั้น... เป็นผู้ชาย

            Jinki

ใคร?
            ใครเหรอ? ฮยอกแจลุกขึ้นนั่ง เมื่อเห็นว่าทงเฮยืนจ้องหน้าจอไอโฟนเขานานผิดปกติ ร่างหนาไม่พูดอะไร นอกจากเดินมาใกล้และยื่นมือถือส่งให้เขา ฮยอกแจรับมาดู พอเห็นว่าใครโทรมาก็รีบกดรับและเดินลงจากเตียงไปยังระเบียงห้องอย่างรวดเร็ว
            ว่าไง จินกิ...
เสียงหวานดังแว่วมาให้ได้ยิน ทงเฮยืนนิ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเสียเฉยๆ กับอีแค่เห็นเจ้านายคุยโทรศัพท์กับคนอื่นด้วยท่าทางมีลับลมคมในแบบนั้น ดวงตาคมชำเลืองมองร่างบางที่ยืนหันหลังให้กับเขา ก่อนจะหันกลับมาและฉวยโอกาสนั้นก้มมองหน้าจอโน้ตบุ๊กที่ปรากฏรูปภาพผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งพร้อมข้อความบอกสถานที่ขึ้นอยู่ใต้ภาพ


Tonight @ Epic Lounge 11.00 pm


...
โอเค ขอบคุณมากนะ ไว้เจอกัน
ร่างหนายืดตัวยืนตรงทันทีที่ได้ยินบทจบสนทนาจากคนนอกระเบียง มองใบหน้าหวานที่เรียบเฉย ไม่แสดงท่าทีใดๆ ด้วยสายตาครุ่นคิด ถ้าเดาไม่ผิด ทงเฮมั่นใจว่าบอสของเขามีนัดกับเพื่อนที่ผับ Epic Lounge แน่นอน แต่ที่เข้าใจคือทำไมต้องแนบรูปผู้ชายคนนี้มาด้วย เรื่องที่บอกว่าต้องไปคุยมันคือเรื่องอะไรงั้นเหรอ?
บอสครับเอ่ยเรียกคนที่เดินกลับมาและกำลังวุ่นวายอยู่กับตู้เสื้อผ้า ฮยอกแจครางรับในลำคอ หากก็ไม่ได้หันมาทางเขาแต่อย่างใด
            ถ้าบอสจะไปหาเพื่อน ผมคงต้องไปด้วย ทงเฮพูดพลางสังเกตเห็นอาการของคนตัวเล็กที่ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด
            ไม่เป็นไรหรอก ผมไปไม่นาน เดี๋ยวเดียวก็กลับ ฮยอกแจตอบ นัยน์ตาเรียวกลอกไปมา พยายามคิดหาหนทางที่จะไปข้างนอกเพียงลำพัง
            แต่ผมปล่อยให้บอสไปคนเดียวไม่ได้หรอกนะครับ
            อย่าดีกว่า ผมแค่ไปหาเพื่อนเอง ไม่ได้ไปเที่ยวไหนซักหน่อยพยายามพูดให้อีกฝ่ายวางใจ แต่กลับไม่ทำให้ทงเฮคลายความสงสัยเลยแม้แต่น้อย
            ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ ร่างกายบอสยังพักผ่อนไม่เพียงพอ อันที่จริงยังไม่ควรออกไปไหนด้วยซ้ำทงเฮแย้งอย่างไม่เห็นด้วย
            พอสิ ผมพักพอแล้ว วันนี้ผมนอนแทบทั้งวัน นายก็เห็น ฮยอกแจหันมาเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ใบหน้าหวานแสดงออกชัดว่ากำลังหงุดหงิด เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ฮยอกแจต้องการสิ่งใดหรืออยากทำอะไร ไม่เคยมีใครห้ามหรือออกคำสั่งกับเขาได้เลยซักครั้ง ดังนั้นพอมาเจอแบบนี้ ร่างบางจึงอดขัดใจขึ้นมาไม่ได้
            “แต่...
            ไม่มีแต่ ผมจะออกไปข้างนอกคนเดียว... แค่คนเดียว นายจะรายงานพี่ฮีชอลก็ได้ ผมไม่ว่า แต่ไม่ต้องตามไป โอเค้? กอดอกเชิดหน้าพูดเสียงเข้ม ใบหน้าหวานบึ้งตึงตามประสาคนเอาแต่ใจ ผิดกับทงเฮที่กำลังจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาดุ ก่อนจะเอ่ยคำตอบที่ทำให้อารมณ์คนฟังพุ่งสูงมากขึ้นไปอีก
            ไม่โอเคครับ ยังไงผมก็จะไปด้วยพูดพลางเดินเข้ามาหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้
            “แต่ผมไม่ให้ไป!”
ฮยอกแจชักโมโห มือเรียวดันผ้าเช็ดตัวสีขาวให้พ้นตัว ออกอาการต่อต้านเต็มที่
            ผมจะไปทงเฮยิ้มเย็น ท่าทางไม่ยอมลงให้ง่ายๆ เหมือนกัน
            ไม่ให้ไป!”
            เสียใจด้วยครับ ผมต้องไป... บอสไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะให้แม่บ้านจัดอาหารเย็นขึ้นมาให้บนห้อง แล้วหลังจากนั้น ค่อยมาเลือกชุดที่จะใส่ไปคืนนี้กันดีกว่านะครับ บอกจบก็โอบเอวคนตัวเล็กไปทางห้องน้ำ อมยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยายามจะขัดขืน แต่คงเป็นเพราะสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ เลยทำให้ฮยอกแจทำได้แค่ส่งเสียงฮึดฮัดและใช้มือปัดป้องผลักไสเขาออกเท่านั้น
            ดูเอาเถอะ เดินตูดบิดขนาดนี้แล้วยังจะอวดเก่งอีก
อาบเองไหวไหมครับ? ปล่อยให้คุณเจ้านายยืนกอดอกทำคอตั้ง ระหว่างที่ตัวเองจัดการผสมน้ำอุ่นให้อย่างเอาใจ ฮยอกแจเม้มปากแน่นพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่ยอมสบตา ไม่ยอมตอบคำถาม ท่าทีที่ทำให้คนใจเย็นอย่างทงเฮได้แต่ทอดสายตามองด้วยความเอ็นดูระคนขบขัน
บทจะยั่ว ก็ทำซะจนเขาคลั่งแทบตาย แต่บทจะดื้อ ก็ดื้อได้น่ารักน่าชังดีชะมัด
บอสครับ ทงเฮเรียกอีกหน ฮยอกแจหน้างอ ก่อนจะหันกลับมาจิกตาใส่
ผมจะอาบเอง!” พูดจบก็ถอดเสื้อผ้า โชว์เรือนร่างขาวกระจ่างที่เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำประปรายโดยไม่นึกอายเลยแม้แต่น้อย ต่างจากคนมองที่เผลอกลืนน้ำลายดังเอื้อก แค่นึกถึงสัมผัสนุ่มนิ่มและความเย้ายวนที่ตนได้ลิ้มลองเมื่อคืน ทงเฮก็รู้สึกร้อนผ่าวไปหมดทั้งกาย
ไม่เอาน่า เย็นไว้ลูก เย็นไว้
            มองอะไร ผมจะอาบน้ำ ออกไปสิ เสียงหวานแหวใส่ ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวเข้าไปในอ่างจากุชชี่สุดหรู ทงเฮลอบถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้าทำตามคำสั่ง
            “โอเคครับ งั้นผมจะไปรอข้างนอก ถ้าบอสมีอะไรให้ช่วยก็เรียกได้เลยนะครับเสนอตัวอย่างหวังดี แต่กลับได้รับสีหน้าบูดบึ้งตอบแทน
            ไม่เป็นไร ขอบคุณ ร่างบางเอ่ยเสียงห้วน ดวงตาเรียวเบือนมองไปทางอื่น กระทั่งได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง แววเคร่งเครียดจึงปรากฏบนใบหน้าหวาน เขามีธุระสำคัญมากที่จะต้องไปจัดการ ซึ่งแน่นอนว่าจะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นถ้าเรื่องเข้าหูพี่ฮีชอลล่ะก็ มีหวังฮยอกแจโดนเละแน่
            ตาบ้าเอ๊ย จะตามไปทำไมกันนะ บ้าจริง
           



XXXXXXXX




            ดวงตาคมเลื่อนมองนาฬิกาติดผนังอย่างครุ่นคิด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ความกังวลที่ฉายชัดบนสีหน้าไม่ได้ทำให้ใครอีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ารู้สึกตามไปด้วยเลยแม้แต่น้อย ร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำถูกผูกไว้อย่างหลวมๆ สาบเสื้อที่แยกออกจากกันเล็กน้อย เปิดเผยผิวขาวกระจ่างตรงบริเวณช่วงลำคอเรื่อยลงมาถึงแผ่นอกเรียบเนียน แลดูเหมือนจะยั่วยวน แต่จะผิดไปก็ตรงที่ใบหน้าหวานเชิดมองไปทางอื่น แขนทั้งสองข้างยกขึ้นกอดอก ริมฝีปากล่างยื่นออกบอกให้รู้ถึงอาการงอนของร่างบางที่ยังไม่จางไป และมันก็ทำให้คนดูแลหนุ่มรู้สึกหนักใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
            เพราะตั้งแต่ที่ออกจากห้องน้ำมา คุณเจ้านายคนเก่งของทงเฮดูเหมือนจะรั้นขึ้นกว่าเดิมถึงสิบเท่า แถมยังแสดงท่าทีต่อต้านจนทงเฮไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้ว
            อยากร้องไห้จริงๆ เลยโว้ยยยยยย T_T
            “บอสครับ ทำเถอะนะครับ ผมขอร้อง น้ำเสียงนุ่มนวลสุภาพเอ่ยออกมาอีกครั้ง หลังจากที่เพียรพยายามกล่อมเด็กดื้อรอบแล้วรอบเล่า แต่ก็ไม่ได้ผลซักที
            ไม่เอา! ไม่ทำ!” เสียงใสแว้ดมาอย่างไม่ยอม มือเล็กรวบสาบเสื้อคลุมไว้แน่นพลางขยับตัวหนีร่างหนาที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า
            แต่ว่าถ้าไม่ทำ ก็จะไม่หายเจ็บนะครับ เพราะงั้นทายาเถอะครับ... นะครับพูดแล้วก็เอื้อมหยิบตลับยามายื่นให้ หากกลับถูกดวงตาเรียวถลึงมองอย่างเอาเรื่องเสียก่อน 
            ก็บอกว่าไม่ไง! ไปห่างๆ ผมเลยนะ!”
ไม่ได้หรอกครับ ยังไงก็ต้องทายา เชื่อผมเถอะนะครับบอส
ทงเฮเองก็ไม่ยอมเช่นกัน ร่างหนาพูดเสียงเข้มพลางขยับเข้าไปใกล้เตียงนอน เล่นเอาคนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงถึงกับต้องเขยิบตัวหนีอย่างตื่นตระหนกพร้อมกำเสื้อให้แน่นมากขึ้นไปอีก
นี่ อย่าเข้ามานะ! ถ้านายเข้ามา ผม... ผมจะโกรธจริงๆ ด้วย ว่าพลางทำปากยื่นให้รู้ว่ากำลังโกรธอยู่จริงๆ ทงเฮมองท่าทีแบบนั้น ก่อนจะถอนหายใจยาวด้วยความอ่อนใจ
โธ่ บอส ก็แค่ทายาเอง บอสอย่าดื้อมากสิครับเอ่ยประโยคจี้ใจดำที่ทำให้คนฟังออกอาการตาโต อ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหู
ดะ... ดื้อเหรอ? หนอย ตาบ้า กล้าดียังไงมาว่าฮยอกแจคนนี้ดื้อ!!!
ผมไม่ได้ดื้อซักหน่อย!!!” ร่างบางเถียงเสียงดังลั่น สีหน้าท่าทางบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจกับคำพูดของทงเฮอย่างแรง!
งั้นก็ยอมทายาสิครับ ทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะครับบอส ทงเฮพูดอย่างเป็นต่อ มองท่าทางอยากเอาชนะของคนตรงหน้าด้วยแววตาเหนือกว่า เรื่องปราบเด็กดื้อน่ะ งานถนัดของทงเฮเลยล่ะ จะบอกให้ หึๆ
ไม่มีบทตอบโต้อะไรอีก มีเพียงสายตาสองคู่ที่มองสบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ฮยอกแจเองก็เงียบ เขากำลังไม่พอใจและขัดใจที่ถูกกล่าวหาว่าทำตัวเหมือนเด็ก อี ทงเฮเป็นใครมาจากไหน คิดว่าตัวเองเป็นคนดูแลแล้วจะพูดจาแบบนี้กับเขาได้หรือไง หึ รู้จักอี ฮยอกแจน้อยไปซะแล้ว เอาสิ ในเมื่ออยากแสดงความเป็นห่วงกับร่างกายเขานัก งั้นฮยอกแจก็จะไม่ขอปฏิเสธอีกแล้วกัน
ก็ได้~” เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาๆ มือเรียวหยิบตลับยามาจากทงเฮ ริมฝีปากอิ่มวาดรอยยิ้มหวานหยด ขณะนิ่งมองของในมือด้วยแววตาเป็นประกายวาววับ ลิ้นเล็กแลบเลียกลีบปากนุ่มเบาๆ ก่อนที่ตลับยาอันเล็กจะถูกโยนคืนกลับให้ร่างหนา พร้อมๆ กับประโยคคำพูดที่ทำเอาคนฟังรู้สึกเสียววูบไปทั้งหัวใจ
ผมจะยอม ถ้านาย... เป็นคนทาให้ผมด้วยตัวเอง
...!!!”
ตึ๊ง! ตึง! ตึ้ง!
อึ้งสิพะย่ะค่ะ -O-
ฮยอกแจกระตุกยิ้มมุมปาก มองท่าทางนิ่งค้างของทงเฮด้วยความพึงพอใจอย่างที่สุด แขนเรียวเหยียดเท้าไปข้างหลัง เช่นเดียวกับขาทั้งสองข้างที่ตอนแรกขยับหนี ในตอนนี้กลับค่อยๆ ยกตั้งฉากอยู่บนเตียงนิ่มพลางแยกกว้าง ชายชุดคลุมอาบน้ำเลื่อนหลุด เปิดเปลือยช่วงล่างให้อีกฝ่ายจ้องมองได้เต็มตา
บะ... บอส ทงเฮครางเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว แทบไม่อยากเชื่อว่าฮยอกแจจะกล้าถึงขนาดนี้ ดวงตาคมเลื่อนมองใบหน้าหวานที่จ้องกลับมาอย่างท้าทาย นี่ถ้าไม่ติดตรงที่ว่ารอยบวมช้ำที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า มันมาจากฝีมือเขา ทงเฮสาบานได้เลยว่างานนี้ได้มีโกรธเคืองกันแหงๆ (หราาาาาาาาา)
ทำสิ กล้าทำมั้ยล่ะ?
เอ่อ...ทงเฮอึกอัก
หึ ฮยอกแจหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นทงเฮยังลังเล ไม่กล้าลงมือทำ ฝ่ามือนุ่มลูบไล้ต้นขาด้านในของตัวเอง ราวกับกำลังเชิญชวน แต่ก็เพียงแค่แป๊บเดียว ก่อนที่ร่างบางจะตวัดชายเสื้อคลุมปิดบังเนื้อตัวไว้ตามเดิม
โอเค ถ้านายไม่กล้า ก็ไม่ต้องทำ
เหยียดยิ้มคล้ายดูถูกพลางแย่งเอาตลับยากลับคืนมาอีกครั้งและลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้ทงเฮนั่งรออยู่ข้างนอกตามลำพัง
ไอ้บ้าเอ๊ย ยกมือขึ้นลูบใบหน้าพลางก่นด่าตัวเองด้วยความเจ็บใจ ยอมรับว่าเมื่อกี้เขาไม่กล้าทำจริงๆ อย่างที่ฮยอกแจว่า ก็จะให้ทำได้ยังไง ในเมื่อสถานะที่เป็นอยู่ตอนนี้มันค้ำคออยู่ ฮยอกแจเป็นถึงเจ้านาย ส่วนเขาก็เป็นเพียงลูกน้องที่บังเอิญทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป ทงเฮไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างเมื่อคืนเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง เพียงเพราะแค่เขายับยั้งห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้
อีกอย่าง การที่ฮยอกแจทำแบบนี้ ถือได้ว่ากำลังดูถูกเขาชัดๆ และนั่นก็เป็นการกระทำที่ทำให้ทงเฮรู้สึกไม่ชอบใจและโมโหอย่างที่สุด!
            แอ๊ด
            ประตูห้องน้ำเปิดออก ดวงตาคมหันไปมองเจ้าของห้องที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางเชิดหยิ่งที่ไม่แม้แต่จะปรายตามองมาทางเขา ยิ่งทำให้ตะกอนขุ่นเคืองในใจของทงเฮเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ทั้งที่เพิ่งแสดงอาการดูถูกเขาไปหยกๆ แต่ฮยอกแจกลับไม่มีท่าทีรู้สึกผิดหรือกระทั่งยอมเอ่ยคำขอโทษเขา นิสัยเสียจริงๆ
จ้องมองคนดื้อด้านได้เพียงครู่ ทงเฮก็ต้องระงับอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองด้วยการลุกเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เสียงประตูห้องที่ปิดลงทำให้ฮยอกแจที่พยายามตีหน้านิ่งมองตามด้วยความรู้สึกเป็นกังวลและว้าวุ่น แม้จะรู้ตัวอยู่บ้างว่าไม่ควรแสดงกริยาแบบนั้นใส่ทงเฮ แต่เพราะทิฐิในตัวที่มีมากจนติดเป็นนิสัย ก็ทำให้ฮยอกแจไม่กล้าที่จะเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา อีกทั้งตอนนี้เขายังก็นึกหาหนทางที่จะทำให้ทงเฮไม่ต้องตามไปที่ผับไม่ออก มันเลยยิ่งทำให้ฮยอกแจกลัดกลุ้มและลืมตัวเคืองคนดูแลสุดหล่อเข้าอีกหน
            จริงๆ มันก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าจะให้ทงเฮไปด้วย เพราะไหนๆ ทงเฮก็ถือได้ว่าเป็นคนดูแลเขาแล้ว ก็สามารถที่จะติดตามเขาไปได้ทุกที่ เพียงแต่ฮยอกแจไม่มั่นใจนี่นาว่าทงเฮจะรับตัวตนอีกด้านหนึ่งของเขาไหว
            ยืนครุ่นคิดหาทางออกอยู่พักใหญ่ นัยน์ตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่สมองอันชาญฉลาดนึกอะไรขึ้นมาได้ ไม่รอช้า ฮยอกแจรีบปราดเข้าไปหยิบพลางกดหาเบอร์โทรเข้าล่าสุด
            ในเมื่อหาวิธีอื่นไม่ได้ งั้นก็เอาแบบนี้แหละ!
            “ฮัลโหล จินกิ นายช่วยมารับพี่ที่บ้านทีสิ




XXXXXXXX






            สี่ทุ่มสี่สิบห้านาที...
ฮยอกแจยืนกระสับกระส่ายอยู่ในห้องนอนตัวเองมาเกือบชั่วโมงแล้ว เข็มนาฬิกายังเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่คนที่เขานัดไว้ก็ยังไม่มาซักที ไหนจะต้องคอยกันไม่ให้ใครอีกคนเข้ามาในห้อง แล้วไหนจะต้องคอยเช็คความคืบหน้าของเป้าหมายที่เขากำลังจะไปหาอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้คลาดกันไปง่ายๆ รูปถ่ายผู้ชายคนหนึ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือเรียกรอยยิ้มหยันจากฮยอกแจได้ทุกครั้งที่มอง
เขาจำผู้ชายคนนี้ได้ดี ทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อทุกชนิดในเกาหลี หน้าตาดี โปรไฟล์ดี ฐานะทางบ้านดีพร้อม แต่เสียอย่างเดียวคือสมองที่โง่ต่ำกว่ามาตรฐานไปหน่อย หมอนี่ชอบเขา ฮยอกแจดูออกตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน เพียงแต่คนๆ นี้ไม่ได้ถูกใจฮยอกแจมากจนจะพาควงไปไหนมาไหนด้วยได้ เขาจึงทำแค่โปรยเสน่ห์และหยิบยื่นความหวังให้นิดหน่อย แต่ไม่นึกว่าผลที่ได้รับมันจะเกินคาดมากถึงขนาดนี้
ปิ๊บ ปิ๊บ
เสียงข้อความเข้าทำให้ฮยอกแจยกยิ้มด้วยความดีใจ ขาเรียวรีบก้าวออกจากห้องลงมาข้างล่าง ก่อนจะชะงักไปเพราะภาพคนดูแลหนุ่มที่ถูกรุมล้อมไปด้วยสาวใช้มากมาย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นธรรมชาติของทงเฮทำเอาคนที่มองอยู่ห่างๆ เผลอขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่จะเข้าไปขัดจังหวะตอนนี้ก็ใช่ที่ ในเมื่อเขาเองก็มีธุระที่ต้องรีบไปจัดการเหมือนกัน
งั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไปก่อนแล้วกันนะ ฮึ
บรื้น
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มรออยู่หน้าบ้าน ทำให้วงสนทนาเงียบลงได้ในทันที ฮยอกแจเหลียวมองบริเวณหน้าบ้านที่มีรถสปอร์ตจอดรออยู่ ก่อนจะหันกลับไปทางทงเฮที่หันมาสบตาเขาอยู่พอดีเช่นกัน
บอส...
ไม่ต้องรอให้ทงเฮเรียกเป็นครั้งที่สอง ฮยอกแจเร่งสาวเท้าออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
พี่ฮยอกแจ...
จินกิ ออกรถ เร็ว!” ออกคำสั่งกับหนุ่มรุ่นน้องที่ทำหน้างวยงง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านใน โดยไม่สนใจกับเสียงร้องเรียกของทงเฮที่ดังไล่หลังมาเลยแม้แต่น้อย
อะไรกันพี่...
ไม่ต้องถาม ออกรถเลย เร็วสิ ฮยอกแจเร่ง จินกิทำหน้าเหลอหลา ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเร่งกันขนาดนั้น หากชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย นอกจากยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี
บรื้นๆ
บอสครับ... บอสอย่าเพิ่งไป บอส!”
รถสปอร์ตสีดำค่อยๆ เคลื่อนออกจากบริเวณคฤหาสน์ตระกูลลี ทงเฮที่วิ่งมาถึงหยุดยืนมองตามหลังด้วยความเจ็บใจเล็กๆ
ไม่อยากให้เขาไปด้วยขนาดนี้เลยหรือไงวะ?
บ้าชิบ!” สบถเบาๆ อย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาและกดโทรออก
ไอ้คยู ในฐานะที่กูเป็นคนดูแลพี่มึง กูใช้รถคันไหนในบ้านมึงได้บ้าง... ไม่ต้องถาม บอกมาว่ากูใช้คันไหนได้บ้าง เร็ว!” ส่งเสียงเร่งเร้า ก่อนจะกดวางสายทันทีที่ได้คำตอบกลับมา
เท้าหนาก้าวตรงไปยังโรงจอดรถที่อยู่ห่างออกไป หมายมั่นไว้ในใจว่าหากตามไปทันแล้วพบฮยอกแจทำอะไรไม่สมควรอยู่ล่ะก็ อี ทงเฮคนนี้จะขอใช้สิทธิ์คนดูแลสั่งสอนเจ้านายให้หลาบจำดูสักที ฮึ่ม!





XXXXXXXX





ร่างบอบบางในชุดสีดำล้วนรัดรูปก้าวเข้ามาหยุดยืนภายในผับหรูชื่อดัง ดวงตาเรียวที่วันนี้ถูกแต่งให้ดูสวยเฉี่ยวกวาดมองไปรอบตัว ก่อนจะสะดุดเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนัวเนียอยู่กับหนุ่มน้อยแปลกหน้าอย่างไม่สนใจใคร
เห็นแล้วใช่ไหมพี่ หนุ่มรุ่นน้องที่เดินมาตามหลังกระซิบถาม ฮยอกแจพยักหน้าเบาๆ รอยยิ้มหวานจุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม ยั่วยวนหลอกล่อให้ใครหลายคนลุ่มหลงในเสน่ห์ของเขา ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเพียงแค่ฮยอกแจแกล้งสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาที่นั่งว่าง หนุ่มๆ แถวนั้นก็พากันเสนอตัวลุกขึ้นจากโต๊ะกันเป็นแถว
หว่านเสน่ห์ตลอด คนข้างหลังบ่น
พูดมากน่า ของที่บอกให้เตรียม จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ฮยอกแจถาม
แน่นอน พี่จะขึ้นไปรอข้างบนเลยหรือเปล่าล่ะ? จินกิถามกลับ สายตาจ้องมองไปยังมุมมืดของผับ ตำแหน่งเดียวกับที่ฮยอกแจมองไปเมื่อครู่ มุมปากแค่นยิ้มสมเพช เมื่อเห็นร่างเล็กที่กำลังถูกกอดจูบแอบหย่อนอะไรบางอย่างลงในแก้วเหล้าของอีกฝ่าย
นับถอยหลังห้านาทีได้เลย ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
แรงสุดแล้วใช่ไหม? ฮยอกแจถามเสียงเรียบ ขณะเดินนำจินกิไปยังชั้นสองของผับที่ถูกแบ่งสัดส่วนให้เป็นห้องพักสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
สุดๆ เลยล่ะ จินกิตอบยิ้มๆ หันไปสบตากับรุ่นพี่ที่เหลียวกลับมายิ้มกับเขาด้วยแววตาสะใจ
ดี งั้นก็พาขึ้นมาได้เลย อยากเล่นอะไรสนุกๆ จะแย่อยู่แล้ว
ฮยอกแจหัวเราะในลำคอ มือเรียวผลักบานประตูห้องที่ถูกจองไว้เพื่อคืนนี้โดยเฉพาะเข้าไป ก่อนที่ประตูจะถูกปิดและล็อคด้วยมือของจินกิ ชายหนุ่มผิวปากหวือ ยามเดินกลับลงไปข้างล่างอีกครั้ง ส่งยิ้มให้หญิงสาวหลายคนที่มองมาทางเขาอย่างเชิญชวน
ก็อยากจะเข้าไปสานสัมพันธ์ด้วยอยู่หรอกนะ แต่นาทีนี้ จินกิให้เรื่องของพี่ชายมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะงั้นก็เสียใจด้วยนะสาวๆ
อะ... อา ใจเย็นสิฮะ... อื้ม...
เย็นไม่ไหวแล้ว... บ้าชิบ ไม่รู้ว่าฉันกินอะไรเข้าไป... ซี้ด... รู้สึกเหมือนตัวเองใกล้คลั่งยังไงยังงั้นเลย...
คิก... สงสัยเพราะคุณอยากรักผมมากล่ะมั้งฮะ... อยากรัก อยากใส่ อยาก... จนแทบจะทนไม่ไหว ใช่มั้ยฮะ?
หึ รู้ดีนักนะ! งั้นมานี่เลยมา ถ้าจะยั่วกันแบบนี้ คืนนี้ฉันจะกระแทกนายให้ขาดใจตายไปเลย
ร่างสองร่างที่กอดรัดฟัดกันนัวเนียกันอยู่ไม่ไกลทำให้จินกิลอบยิ้มอย่างสมใจ ดวงตาสีนิลเลื่อนสบกับร่างเล็กในอ้อมกอดอย่างรู้กัน กุญแจห้องถูกยัดใส่มือนุ่มที่ยื่นมาทางด้านหลัง ก่อนที่ทั้งสองคนจะโอบประคองกันขึ้นไปด้านบน โดยมีจินกิมองตามไม่วางตา
หวังว่าจะมีความสุขทั้งคืนอย่างที่นายชอบนะ ยูน ชียุน หึๆ





XXXXXXXX





แกร๊ก
บานประตูห้องเดิมถูกเปิดออกอีกครั้ง ชายหนุ่มสองคนที่ฟัดจูบกันอย่างเร่าร้อนก้าวเข้ามาด้านใน เสื้อผ้าที่เริ่มหลุดลุ่ย บอกให้รู้ว่ากิจกรรมร้อนของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ทันถึงห้อง เสียงจูบดังปะปนกับเสียงหอบหายใจ มือไม้ทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันลูบไล้นวดเฟ้นเนื้อตัวของอีกฝ่ายตามแรงปรารถนาที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
ต้องการผมขนาดนี้เลยเหรอครับ คุณชียุน น้ำเสียงหวานกระเส่าเอ่ยถามพลางผลักคนตัวโตกว่าให้ล้มลงไปนอนบนเตียงกว้าง ชียุนหัวเราะเสียงแหบพร่า มือใหญ่กดสะโพกนิ่มของเด็กหนุ่มให้ลงมาแนบชิดกับบางอย่างที่ตึงแน่นอยู่ภายใต้กางเกงเขา
ต้องการสิ... ต้องการมากจนแทบทนไม่ไหวเลยล่ะ
ดีใจจังที่ได้ยินแบบนั้น งั้นเรามาสนุกกันเลยนะฮะ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนกระซิบริมหู บั้นท้ายเนียนบดคลึงช่วงล่างของชียุน จงใจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียววาบจนแทบคลั่ง ก่อนที่จะ...
กริ๊ก
จู่ๆ ข้อมือหนาก็ถูกใส่กุญแจมือโดยไม่ทันตั้งตัว ชียุนนิ่วหน้า มองใบหน้าน่ารักที่กำลังส่งรอยยิ้มซุกซนมาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เท้าทั้งสองข้างก็ถูกล่ามโซ่เอาไว้พร้อมกับร่างเล็กที่ถอยลงไปยืนข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
ทำอะไรน่ะ... ถอดออกเดี๋ยวนี้นะ!” ร่างสูงตะโกนอย่างไม่พอใจ ก่อนจะขยับตัวอย่างอึดอัด เพราะความร้อนรุ่มในกายที่เริ่มมากขึ้นทุกขณะ

ถ้าทำอย่างนั้น ก็ไม่สนุกน่ะสิ ชียุน

เสียงของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา ก่อนที่เรือนร่างบอบบางจะลุกเดินออกมาจากโซฟาที่ตั้งอยู่ในมุมมืดของห้อง ดวงหน้าหวานระบายยิ้ม พอใจกับสภาพของเพลย์บอยหนุ่มที่ถูกจองจำไร้หนทางหนี
ฮ... ฮยอกแจ... คุณมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไงน่ะ!?!” ชียุนตะโกนลั่นพลางเบิกตากว้างมองร่างบางที่อยู่ๆ ก็โผล่มาด้วยความตกใจ ฮยอกแจยิ้มเย็น
ผมอยู่ในห้องนี้มาก่อนแล้ว ชียุน แต่คุณไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่ทำอะไรๆ กับหนุ่มน้อยคนนี้อยู่ ฮยอกแจพูดพลางปรายตาไปทางคนข้างๆ ชียุนทำหน้ากระอักกระอ่วน แต่จะแก้ตัวอะไรก็ไม่ได้ เพราะในตอนนี้เขาเริ่มจะทรมานกับความร้อนที่ไหลเวียนในร่างกายอย่างไม่รู้สาเหตุ
ฮยอกแจ... ผม... อึ่ก... คุณช่วยออกไปก่อนได้ไหม... ผม... ซี้ด...พูดยังไม่ทันจบ ชียุนก็ถึงกับต้องครางซี้ดออกมา เพราะถูกกระตุ้นส่วนไวต่อการสัมผัสโดยฝีมือของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ฮะ... ฮยอกแจ... อา...
มีอารมณ์เหรอ ชียุน ฮยอกแจถามยิ้มๆ พลางบดปลายเท้าลงบนเป้ากางเกงที่นูนขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ชียุนครางผะแผ่ว ยอมรับว่าตอนนี้ถึงจะทรมานมากก็จริง แต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นกับการกระทำของฮยอกแจมากกว่า
คนที่เล็งเอาไว้วันแรกที่เจอกัน หวังเอาไว้อยู่นานว่าจะได้สัมผัสเนื้อตัวหอมนุ่มนิ่มของทายาทตระกูลเก่าแก่ ทำทุกวิถีทางให้ได้ใกล้ชิด แต่ไม่นึกเลยว่าจะมาสมหวังเอาวันนี้ แถมอี ฮยอกแจยังดูเหมือนจะเต็มใจซะด้วยสิ
โชคดีจริงๆ ยูน ชียุน
ไปกินอะไรมา ทำไมถึงได้มีอารมณ์ขนาดนี้ล่ะ หืม? ฮยอกแจถามอีกครั้ง เรียวปากอิ่มวาดรอยยิ้มยั่วยวนเช่นเดียวกับเรือนร่างบางที่ย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมบนหน้าท้องแกร่ง นิ้วเรียวลากไล้ทั่วแผงอกเปลือยเปล่า สะกิดยอดอกที่มันชูชันเพราะความต้องการ หัวเราะเบาๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการสะท้านของอีกฝ่าย
ฮยอกแจ... ผม... อา... ยูน ชียุนแทบพูดไม่เป็นภาษา เพราะปลายลิ้นเล็กที่แลบเลียแถวใบหู มันทำให้เขารู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งกาย แล้วไหนจะกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาจากคนข้างบนที่ปลุกเร้าอารมณ์เขาจนแทบบ้าอีกล่ะ ให้ตายเหอะ เห็นลีลาแค่นี้ ชียุนก็รู้แล้วว่าหากได้จัดเต็มซักครั้ง ฮยอกแจจะทำให้เขามีความสุขได้แค่ไหน
ดูท่าคุณจะไม่ไหวแล้วนี่ อา... น่าสงสารจังเลยนะ
ร่างบางผละออกมากดยิ้มยั่วพลางแกล้งเบียดบั้นท้ายลงกับส่วนแข็งขืนเรียกเสียงครางจากชายหนุ่มได้ในทันที
อืม ผม... ซี้ด... จะไม่ไหวแล้ว... มันร้อนไปหมด... เหมือน... อึ่ก... เหมือน...
เหมือนถูกวางยาใช่ไหมล่ะ? ฮยอกแจก้มลงไปกระซิบริมหู มือเรียวลูบแก้มสากของอีกคนแผ่วเบา ขณะยืดตัวตรงและทอดสายตามองด้วยความเห็นใจ
ตอนผมโดนวางยา ผมก็รู้สึกทรมานเหมือนคุณนี่แหละ
...!!!”
มันทั้งร้อน ทั้งอยาก ทั้งอึดอัดไปหมด แล้วก็ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ผมโดนวางยาหรอกนะ ชียุน
...อึ่ก...
ผมโดนตั้งสองครั้งแน่ะ เสียงหวานกระซิบบอกเบาๆ ลมหายใจร้อนเป่ารดไปตามแนวสันกราม สร้างความเสียวกระสันปนผวาให้ชียุนได้เป็นอย่างดี
ละ... แล้วคุณมาบอกผมทำไม... อึ่ก ชียุนถามเสียงสั่น เขากำลังระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเอง เพราะเริ่มไม่ชอบมาพากลในคำพูดของคนตัวเล็ก ทำไมอยู่ๆ ฮยอกแจถึงมาพูดแบบนี้กับเขา หรือว่า...
แกร๊ง!
คุณวางยาผม!”
ชายหนุ่มเบิกตากว้างกับความจริงที่ได้รับรู้ โซ่และกุญแจมือถูกกระชากทึ้งอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่อาจทำให้ชียุนหลุดออกมาได้ ฮยอกแจยกยิ้มหวาน ลิ้นเล็กเลียกลีบปากตัวเองอย่างยั่วเย้า
ก็เหมือนกับที่คุณวางยาผมนั่นแหละ ครั้งแรกยังพอให้อภัยได้ แต่ครั้งที่สอง... คุณวางยาผมมากเกินไป จนผมเกือบจะเอาตัวเองไม่รอด แต่โชคดีที่คนดูแลของผมมาพาผมออกไปได้ทัน ไม่งั้นวันนั้นผมคงนอนทอดกายให้คุณเชยชมอย่างที่คุณฝันไปนานแล้ว ผมพูดถูกมั้ย?ฮยอกแจเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า รอยยิ้มหวานที่คราแรกชียุนมองว่ามันสวยงาม แต่ตอนนี้กลับแฝงไว้ด้วยยาพิษ ทั้งร้ายกาจและน่ากลัวไปในเวลาเดียวกัน
ผม...
อย่าปฏิเสธความผิดของตัวเองเลย ชียุน ลูกผู้ชายทำผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ คุณหวังในตัวผม พลาดครั้งแรกไปแล้ว ก็ยังพยายามทำให้มีครั้งที่สอง ตรงนี้ผมต้องขอนับถือความพยายามของคุณ แต่ว่าผมต้องเสียใจด้วยจริงๆ ที่ไม่อาจตอบสนองความฝันของคุณได้ และต้องเสียใจด้วยอย่างมากที่วันนี้ผมต้องการที่จะเอาคืนคุณ เพื่อที่ว่าวันหลังคุณจะได้หลาบจำ ไม่ทำอะไรแบบนี้กับใครอีก!” พูดจบ ฮยอกแจก็ลุกขึ้นยืนบนเตียง ใบหน้าหวานเรียบนิ่ง ผิดกับดวงตาที่ส่องประกายแข็งกร้าวเย็นชา
พาพวกนั้นเข้ามา ร่างบางหันไปสั่งเด็กหนุ่มที่ยังอยู่ด้วยในห้องไม่ไปไหน ก่อนจะแสยะยิ้มมองคนที่เริ่มดิ้นรนขัดขืนพร้อมโวยวายเสียงดัง
ไม่! อึ่ก... ปล่อยนะโว้ย... แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ อี ฮยอกแจ! ฉันลูกใคร... แกรู้หรือเปล่า!?! ถ้าแกทำอะไรฉัน... ครอบครัวแกมีปัญหาแน่!!!”
งั้นเหรอ? แล้วแกรู้จักฉันหรือเปล่าล่ะ ยูน ชียุน... แกรู้จักตระกูลคิมดีไม่ใช่เหรอ! งั้นแกก็ควรจะรู้สิว่าคนตระกูลคิม ไม่ใช่คนที่แกจะมาล้อเล่นด้วยได้ง่ายๆ ฮยอกแจตวาดเสียงดัง ก่อนจะเตะเข้ากลางลำตัวชียุนอย่างแรง จนชายหนุ่มนอนตัวงอ
อั่ก... ฮยอกแจ... แก...
สิ่งที่แกทำกับฉัน ฉันจะถือว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะฉันไม่ได้เสียให้กับคนที่ฉันไม่เต็มใจ แต่ยังไงซะ ฉันก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก่อนที่แกจะเอาสันดานแบบนี้ไปทำกับคนอื่นคุณหนูกลางของตระกูลคิมเอ่ยเสียงแข็ง ดวงตาเรียวตวัดมองชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ห้าคนที่เข้ามายืนอยู่ด้านหลังตัวเองด้วยสายตาเรียบเฉย เช่นเดียวกับคนที่นอนสั่นอยู่บนเตียงกว้างที่กำลังจ้องมองคนแปลกหน้าด้วยแววตาตื่นกลัว
ฮะ... ฮยอกแจ แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ... ชียุนพูดเสียงสั่น เมื่อนึกได้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ฮยอกแจก้มมองชายหนุ่มด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ร่างบางหันกลับมานั่งคร่อมชียุนเอาไว้พลางถอดเสื้อตัวเองออก เปิดเผยเนื้อตัวขาวกระจ่างที่ยังคงมีรอยแดงจางๆ ปรากฏอยู่
จุ๊ๆ ทั้งที่ตัวเองก็อยากขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังจะกล้าปฏิเสธความหวังดีของฉันอยู่อีก ไม่สนใจซักนิดเลยหรือไง คนพวกนี้มาเพื่อจะทำให้นายมีความสุขนะ
มะ... ไม่... อา... เผลอหลุดเสียงครางออกมา เพราะบั้นท้ายกลมแน่นที่บดคลึงลงบนลูกชายเขาอย่างหนักหน่วง ชียุนหลับตาพริ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับปลายจมูกโด่งรั้นที่ลากไล้ไปทั่วร่างกายเขา ยิ่งรู้สึกถึงลมหายใจร้อนจากคนด้านบนมากเท่าไหร่ สติสัมปชัญญะของชายหนุ่มก็ยิ่งเตลิดไปไกลมากขึ้นเท่านั้น
ชียุนเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าอี ฮยอกแจอันตราย... อันตรายไปทุกสัดส่วนที่ได้สัมผัส
ทรมานมากสินะ ชียุน อยากเข้ามาในตัวฉันมั้ย หืม? ฮยอกแจกระซิบถามพลางกดริมฝีปากลงเหนือเนินอกแกร่งแผ่วเบา
อะ... อา... อยาก... ซี้ด... อยากที่สุด ฮยอกแจ...
ดีใจจังที่ได้ยินแบบนั้น แต่ขอโทษทีนะ ข้างในตัวฉันน่ะ... อื้ม ฉันให้เข้าได้แค่คนเดียว
ห๊ะ... อ๊ะ... อา... ไม่นะ... ชียุนเบิกตาโพลง เมื่อจู่ๆ ฮยอกแจก็ผละออกไปจากตัวเขาพร้อมกับชายหนุ่มวัยฉกรรจ์คนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาสัมผัสส่วนอ่อนไหว บดคลึงนวดเฟ้นให้อย่างชำนาญจนคนที่กำลังจะอ้าปากประท้วงได้แต่ครางเสียงสั่นพลางโยกสะโพกรับสัมผัสอย่างไม่เกี่ยงงอน
ฮ... ฮยอกแจ... นาย... อ๊า...
คนถูกเรียกชื่อไม่โต้ตอบอะไร นอกจากยิ้มรับและถอยมาหาอีกสี่คนที่เหลือ มือเรียวยื่นกุญแจห้องพร้อมซองยาเล็กๆ ให้
ตามสบายเลยนะ ฉันเหมาห้องนี้ไว้ให้พวกนายจนถึงพรุ่งนี้เช้า ทำให้เขามีความสุขที่สุด แต่อย่าเล่นข้างหลังเขาเด็ดขาด ถ้าเขาไม่ร้องขอเอง เอ่ยสั่งเสียงเข้ม
ครับ
อ้อ แล้วก็อย่าลืมใช้ยานี่อีกเม็ดด้วยล่ะ หมอนี่ทำฉันไว้แสบตั้งสองครั้ง มันก็ควรจะโดนให้เท่าเทียมกันหน่อย ว่าแล้วก็หันกลับไปมองคนบนเตียง เสียงครวญครางที่ดังก้องห้องทำให้ฮยอกแจกระตุกยิ้มอย่างสาสมใจ
            ยูน ชียุน... ถ้าโดนคราวนี้ไปแล้วยังไม่เข็ดอีกล่ะก็ เจอกันคราวหน้า จะทำให้เจอแบบยกโหลเลย คอยดู หึ
            ฉันไปล่ะ มีความสุขมากๆ นะทุกคน บาย~”
โบกมือบ๊ายบายชายหนุ่มที่เหลือ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองที่วางอยู่บนเตียงมาพาดบ่า กดยิ้มหวานให้คนที่ปรือตามองเขาเล็กน้อย ไม่นำพาต่อเสียงกระเส่าที่พยายามจะก่นด่าเขาแม้แต่น้อย มือเรียวยื่นไปจับลูกบิดประตู หมายจะเปิดออก หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร บานประตูห้องที่ถูกล็อคไว้อย่างดีกลับถูกดึงออกอย่างแรง ด้วยฝีมือของ...






บอส...








ทงเฮ...!!!”