วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[18]_____I'm Sorry




            เช้าวันต่อมา ตระกูลคิมก็ได้ต้อนรับแขกที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมา รถแบรนด์ยุโรปที่จอดเทียบอยู่บริเวณหน้าคฤหาสน์ยังไม่ทำให้ใครหลายคนตกใจได้เท่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ก้าวลงรถมา
            อี ซุนชินเชิดหน้ามองตัวคฤหาสน์ข้างหน้าด้วยรอยยิ้มเหยียด ขาเรียวภายใต้กางเกงสูทเนื้อดีก้าวเข้าไปด้านใน ผ่านห้องนั่งเล่นที่ยังมีสภาพไม่สมบูรณ์ หยุดยืนดูเล็กน้อย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าความพินาศของห้องนี้มาจากฝีมือใคร ในเมื่อคุณแม่ของเธอเล่าให้ฟังหมดแล้ว
            เชิญทางนี้ค่ะ สาวใช้ที่เธอบอกจุดประสงค์ไปก่อนหน้านี้ว่าต้องการพบประมุขของบ้านผายมือ ซุนชินพยักหน้าและเดินตาม ประตูไม้แกะสลักสวยงามปิดสนิท ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาแม้ข้างในจะกำลังถกเถียงกันอยู่ ซุนชินยกมือแตะบานประตู ถอนหายใจเล็กน้อยกับการเผชิญหน้ากับอดีตแม่สามีที่หล่อนไม่เคยถูกชะตาด้วย ก่อนจะผลักมันเข้าไปเบาๆ
            แอ๊ด~
            ทันทีที่ประตูเปิดออก ทุกสายตาในนั้นก็หันมามองหล่อนเป็นตาเดียว ซุนชินปั้นยิ้ม สบสายตากับคนที่นั่งหัวโต๊ะอย่างเย็นชา
            หวังว่าคงไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรใช่มั้ยคะ? น้ำเสียงหวานใสเอ่ย ขณะเดินไปหาหญิงชราที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเธอ จีมินแอบถอนใจเล็กน้อย เธอเองก็ตกใจที่เห็นลูกสาวมาถึงเกาหลีเร็วขนาดนี้ ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่ชุนนาก็ยังดื้อรั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฮยอกแจได้นิสัยแบบนี้มาจากใคร
            เรากำลังตกลงกันอยู่ จีมินบอกลูกสาวเบาๆ ชุนนาเลิกคิ้ว หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่ต้องรอให้ใครเชิญ แม้จะเห็นแววตาวาววับไม่พอใจจากเจ้าของบ้าน แต่เธอก็ไม่สนใจ ปั้นหน้าปั้นตายิ้มแย้มราวกับอยู่ในสถานการณ์ปกติ
            อี ซุนชินเธอมาทำไม โฮยอนถามเสียงเย็น เธอไม่ปลื้มเลยแม้แต่นิดเดียวกับการได้เห็นหน้าอดีตลูกสะใภ้ที่เธอไม่ชอบหน้า อี ซุนชินเย่อหยิ่งจองหองและอวดดี หญิงสาวไม่เคยให้ความเคารพหล่อนเหมือนสะใภ้อีกสองคน และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเกลียดคนของตระกูลอี
            ซุนชินไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวหรือกริ่งเกรงใดๆ เธอยิ้มและยิ้ม ยามหันไปสบตากับแม่สามีด้วยแววตาเหนือกว่า
            มาพาฮยอกแจกลับอเมริกาค่ะ
            ไม่ได้!” โฮยอนตวาดขึ้นมาแทบจะทันที ฮยอกแจเป็นคนของตระกูลคิม เธอคงลืมไปแล้วว่าใครเป็นคนเลี้ยงฮยอกแจมาตั้งแต่เด็ก
            ใช่ค่ะ ดิฉันลืมไปแล้ว แต่ว่าคุณแม่ก็ลืมเหมือนกันนี่คะว่าดิฉันก็มีส่วนได้เลี้ยงฮยอกแจมาอีกสิบปีเหมือนกัน เพราะงั้นเรามีสิทธิ์เสมอกันค่ะ ซุนชินตอบกลับเสียงเรียบ หากสายตาที่มองมากลับเย็นชาเสียจนจีมินหนักใจ ซุนชินไม่เคยยอมใคร ชอบเสียด้วยกับเรื่องถกเถียงพวกนี้และเพราะอย่างนี้แหละถึงได้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโฮยอนมาได้หลายสิบปี
            ซุนชินเกรงใจคุณชเวด้วย หญิงชราปรามลูกสาว ซุนชินเหลียวไปทางผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ริมฝีปากบางแย้มยิ้มอัตโนมัติ
            ขอโทษด้วยนะคะ คุณคงเป็นคุณชเว มินชิก แล้วนี่ก็ชีวอน? หันไปทางชายหนุ่มรุ่นลูก ชีวอนยิ้มรับ เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับแม่ของน้องชายคนสนิท ไม่แปลกใจเลยว่าฮยอกแจสวยเหมือนใคร ไม่ใช่แค่ความสวยที่เหมือนกัน นิสัยยังไม่ต่างกันเท่าไหร่ด้วย ดูท่าแล้วคงจะเซี้ยวพอกันทั้งแม่ทั้งลูก
            ชเว ชีวอนครับ ร่างสูงยื่นมือไปจับกับคนอายุมากกว่าที่ยื่นมือมาให้เขา
            ชีวอนหน้าตาดีขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณแม่ถึงอยากให้ฮยอกแจแต่งงานด้วย
ใบหน้างามหันไปทางโฮยอนที่นั่งเชิดหน้าคอแข็งอยู่ นึกขันกับท่าทางของคนอาวุโสที่ดูจะตั้งแง่กับหล่อนออกนอกหน้าเสียเหลือเกิน
แต่น่าเสียดายที่ดิฉันเลี้ยงฮยอกแจมาแบบอเมริกัน ให้สิทธิ์แก่ลูกเต็มที่ เลยไม่นิยมการคลุมถุงชนซักเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องคัดค้านการแต่งงานนี้ ซุนชินพูดยิ้มๆ คำพูดที่ทำให้ชเวคนพ่อและคนลูกลอบยิ้มให้กับความตรงไปตรงมาของหญิงสาวตรงหน้า พวกเขาเข้ามานั่งในห้องนี้ตั้งนานยังตกลงกันไม่ได้เลย แต่ซุนชินเข้ามาได้แป๊บเดียวก็ทำให้โฮยอนเงียบได้ เก่งจริงๆ
แต่ฉันอยากให้หลานแต่ง! ฮยอกแจกับชีวอนนอนด้วยกันแล้ว เธอก็รู้ โฮยอนเอ่ยเสียงแข็ง ชีวอนอ้าปากจะปฏิเสธ แต่ซุนชินกลับส่งสายตาปราม แม่สามีอย่างคิม โฮยอนต้องเจอกับเธอ ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่
ฮยอกแจบอกดิฉันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่...
ดิฉันเชื่อลูกค่ะ ฮยอกแจไม่เคยโกหก คุณแม่เลี้ยงฮยอกแจมาแต่เด็กไม่รู้จักนิสัยของหลานเลยเหรอคะ?
คำถามที่ทำให้โฮยอนได้แต่เงียบไป
ในเมื่อฮยอกแจกับชีวอนไม่ได้มีอะไรกัน เพราะงั้นก็ไม่ควรมีงานแต่งงานเกิดขึ้น หรือถ้าคุณแม่อยากจะดองกับตระกูลชเวนัก หลานคนโตของคุณแม่ก็ยังอยู่นี่คะ ซุนชินเสนอทางเลือก ชีวอนร้องเยสในใจ แหงล่ะ ในเมื่อเขาต้องการแบบนั้นอยู่พอดี ตีตราจองฮีชอลไว้ก่อน ไอ้มาเฟียนั่นจะได้ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับราชินีของเขา
แต่...
อย่าทำร้ายหลานอีกเลยค่ะ คุณแม่ก็รู้ว่าฮีชอลรักกับชีวอน แต่คุณแม่ก็ยังจับฮยอกแจใส่พานตัดหน้าหลานคนโปรดของตัวเอง ทำแบบนี้มันถูกแล้วเหรอคะ?
อย่ามาสอนฉัน อี ซุนชิน!” โฮยอนไม่พอใจ ซุนชินพูดจาสั่งสอนเธอต่อหน้าแขก กล้าดียังไง!
ดิฉันไม่ได้สอนค่ะ แค่อยากเตือนสติคุณแม่ คุณแม่ไม่ชอบดิฉันก็ควรมาลงที่ดิฉัน เด็กๆ ไม่เกี่ยว หวังว่าคุณแม่จะเข้าใจนะคะ พูดจบก็ระบายยิ้มหวานที่ทำให้คนมองคลั่งในอก ความเกลียดชังเพิ่มพูนขึ้นทบทวี
ซุนชินมองอาการเคียดแค้นของคนอาวุโสด้วยความพอใจ ในเมื่อเธอเองก็ไม่ชอบอีกฝ่ายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะขอร้องให้คุณแม่สามีละทิ้งความรู้สึกทั้งหมด เธอพร้อมจะสู้ แค่อย่าให้อีกฝ่ายเอาความเกลียดชังไปลงกับหลานๆ ก็พอ แค่นี้แหละที่ซุนชินต้องการ
เอาเป็นว่าเข้าใจถูกต้องตรงกันแล้วนะคะ จะไม่มีงานแต่งงานของฮยอกแจและชีวอนเกิดขึ้น ต้องขออภัยคุณชเวด้วยนะคะ หากเหตุการณ์วันนี้ทำให้คุณเสียความรู้สึก แต่ยังไงดิฉันก็ให้ฮยอกแจแต่งกับชีวอนไม่ได้จริงๆ
ไม่เป็นไรครับ ชีวอนโพล่งออกมาด้วยความยินดี ก่อนจะถูกคนเป็นพ่อถลึงตาใส่
เก็บอาการหน่อยไอ้นี่ มินชิกเอ็ดลูกชายเบาๆ ชีวอนหัวเราะเสียงแห้ง
แหม ก็มันดีใจอ่ะเนอะ เลยลืมตัวไปนิดนึง -.-
เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ... ไปเถอะค่ะคุณแม่ หนูอยากเจอลูก
ประโยคสุดท้าย ซุนชินหันไปพูดกับแม่ของตัวเอง ก่อนจะพากันเดินออกไปโดยไม่ลาเจ้าของบ้านซักคำ โฮยอนกำมือแน่น เธอพยายามระงับอารมณ์เพราะยังอยู่ต่อหน้าคุณชเวและชีวอน แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน อี ซุนชินเข้ามาหยามเธอถึงในบ้าน ไม่ไว้หน้ากันซักนิด แล้วอย่างนี้จะให้เธอหายเกลียดยัยเด็กนี่ได้ยังไง!
ไหนๆ งานแต่งของหนูฮยอกแจกับเจ้าชีวอนก็ไม่มีแล้ว งั้นผมขอพูดธุระของตัวเองเลยก็แล้วกันนะครับ มินชิกพูดยิ้มๆ รู้สึกโล่งอกบอกไม่ถูก ถ้าไม่มีงานแต่งงานของฮยอกแจกับชีวอน เขาก็จะได้ไม่ต้องผิดข้อตกลงกับไอ้ลูกชายตัวแสบที่คิดจะรวบเอารายได้จากธุรกิจทั้งหมดของตระกูลมาบริจาคให้เด็กๆ ทั่วโลก แหม มันคิดว่าเงินที่พ่อมันหามาง่ายนักสินะไอ้นี่!
ธุระเรื่องอะไรคะ? โฮยอนหันไปทางคุณชเวด้วยสายตาประหลาดใจ ชเวคนพ่อกับคนลูกลอบมองหน้ากันพลางยิ้ม ก่อนจะเอ่ยธุระของตัวเองที่ทำให้โฮยอนนิ่งอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง
ผมอยากจะสู่ขอหนูฮีชอลให้เจ้าชีวอนครับ
ตั้งแต่เกิดมา ชีวอนนึกอยากจูบพ่อก็ตอนนี้แหละโว้ยยยยยยยย!!

XXXXXXXX

การปรากฏตัวของซุนชินสร้างความประหลาดใจให้ฮยอกแจพอสมควร ร่างบางถูกรั้งเข้าไปกอดเสียแน่นแถมยังโดนต่อว่าต่างๆ นานาเพราะไม่ยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มาดามฟัง ซุนชินรู้ตัวว่าเธอเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง เธอไม่ได้เลี้ยงฮยอกแจอย่างใกล้ชิดอย่างที่แม่ทั่วไปควรกระทำ เธอเลือกงานและทอดทิ้งให้ฮยอกแจใช้ชีวิตตามลำพัง ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ลูกจะประชดเธอด้วยการเรียกเธอว่ามาดามแทนคำว่าแม่
มาดามไม่ทำงานเหรอครับ?
นั่นเป็นคำแรกที่ฮยอกแจทักเธอ ซุนชินสะเทือนใจเล็กน้อย แต่เธอก็เลือกที่จะปัดมันไป
แม่ให้ไมค์ช่วยดูแลแทนแล้วจ๊ะ เธอหมายถึงเลขาส่วนตัวของตัวเอง ฮยอกแจพยักหน้ารับรู้แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาไม่สนิทกับแม่อยู่แล้ว แม้จะดีใจอยู่บ้างที่มาดามเลือกทิ้งงานมาหาเขา แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดออกไป เขาเหนื่อยแล้วกับการเรียกร้องความสนใจเพื่อให้ได้รับความรักจากคนรอบข้าง ต่อให้มาดามจะมาทำทีว่ารักเขาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
คุณยายบอกว่าลูกจะกลับอเมริกา? ซุนชินถาม ฮยอกแจพยักหน้า
ครับ ตอบรับแล้วก็เงียบไปอีก
งั้นกลับพร้อมแม่นะ ซุนชินพยายามทำให้ลูกสนใจ ฮยอกแจมีสีหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย ก่อนจะหันมาทางมารดา
มาดามจะกลับเมื่อไหร่ครับ?
พรุ่งนี้จ๊ะ ซุนชินยิ้ม ดีใจล่วงหน้าว่าลูกอาจจะกลับกับหล่อน ฮยอกแจนิ่ง ก้มมองมือที่ถูกมารดากุมเอาไว้อย่างชั่งใจ
ก็ได้ครับ ผมจะกลับพร้อมมาดาม บอกพลางยิ้มน้อยๆ ซุนชินยิ้มกว้าง โผเข้ากอดลูกชายอีกรอบหนึ่ง
งั้นก็ไปเถอะ เก็บของแล้วกลับบ้านกัน เธอพูดน้ำเสียงยินดี แต่ฮยอกแจกลับส่ายหน้า
มาดามกลับไปก่อนเถอะครับ แล้วผมจะตามไป
เอ๋? ซุนชินฉงน แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอสงสัยมากนัก ร่างบางลุกขึ้นคว้ามือเธอและพาออกไปนอกห้อง
ผมรู้ว่ามาดามมีงานที่ต้องทำ ผมเองก็มีของที่ต้องเก็บอีกมาก เอาไว้ยังไงค่อยส่งรถมารับผมพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะครับ ฮยอกแจบอก แขนเรียวโอบกอดมารดาครู่หนึ่ง ก่อนจะผละออกมาส่งยิ้มให้เล่นเอาคนเป็นแม่ดีใจจนน้ำตาคลอกับอ้อมกอดแรกที่ลูกชายมอบให้ก่อน
ก็ได้ งั้นแม่กลับก่อนแล้วพรุ่งนี้แม่จะส่งคนมารับนะจ๊ะ ซุนชินย้ำ ฮยอกแจพยักหน้าน้อยๆ พลางหลับตาลงรับสัมผัสจากเรียวปากสีสวยที่กดลงบนแก้มเขาเบาๆ ซุนชินปาดน้ำตาที่ทำท่าว่าจะไหลออกจากใบหน้า ก่อนจะบอกลาและเดินลงบันไดไปอย่างว่าง่าย
ฮยอกแจยืนรอกระทั่งได้ยินเสียงรถของมารดาแล่นออกจากบ้านไป ร่างบางจึงหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง ความรู้สึกเขาตอนนี้ทั้งโล่งใจและหน่วงในอกไปพร้อมๆ กัน โล่งเพราะทุกอย่างที่ทำท่าเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็หน่วงที่ต้องจากใครบางคนไป
บอสครับ เสียงร้องเรียกจากคนที่เพิ่งเปิดประตูออกมาทำให้ฮยอกแจหยุดชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูโทรมกว่าวันก่อนๆ ทำให้ร่างบางเผลอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หากพอนึกได้ว่าอีกคนทำอะไรไว้ ฮยอกแจจึงมองเมินทงเฮทำราวกับอีกฝ่ายไม่มีตัวตน
ทงเฮถอนใจกับท่าทางของคนตรงหน้า คืนที่ผ่านมาเขาไม่ได้หลับเลยแม้แต่น้อย ในหัวมีแต่ความคิดหาทางหยุดยั้งไม่ให้เจ้านายจากไป แม้จะรู้ดีว่าสถานะของตัวเองนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเอ่ยคำนั้น แต่ทงเฮก็ยังแอบหวัง... หวังว่าฮยอกแจอาจจะไม่ทิ้งเขาไป
บอสครับ เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนที่เดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง ทงเฮถือวิสาสะตามเจ้านายเข้าไปและกดล็อคประตู ดวงตาเรียวหันมามองครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหนีไปอีกครั้ง หากแต่ถึงอย่างนั้นทงเฮก็ยังทันเห็นร่องรอยของความเสียใจปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น ความรู้สึกบางอย่างทำให้ทงเฮรู้สึกว่าฮยอกแจยังรอคอยที่จะฟังคำขอโทษจากเขา
ไม่แน่ บางที... ทงเฮอาจจะมีหวัง
เขาคิดอย่างนั้น ขณะทำใจกล้าเดินเข้าไปหาคนที่แกล้งทำว่ายุ่งอยู่กับการเก็บของบนโต๊ะเครื่องแป้ง สอดแขนรอบเอวเล็กจากทางด้านหลัง รับรู้ได้ว่าฮยอกแจกำลังเกร็งเพราะสัมผัสของเขา
ฮยอกแจเม้มปากเข้าหากัน ใบหน้าหวานเงยสบกับดวงตาคมที่จ้องมองมาอย่างสำนึกผิด ร่างทั้งร่างถูกรั้งเข้าหาแผงอกแกร่ง เขาไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดอุ่น ไม่ได้เอนตัวหนีปลายจมูกโด่งที่ปัดไล้อยู่แถวขมับพลางเคลื่อนต่ำลงมาหาพวงแก้มใส
ฮยอกแจรู้ว่าทงเฮกำลังง้อ แม้ไม่ได้อยากยอมรับ แต่ฮยอกแจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองกำลังหวั่นไหว
ไหนว่าเขาร้ายกาจ แล้วมาใกล้เขาทำไมล่ะ?
คิดว่าเขาเป็นคนโกหกไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาง้อเขาทำไม?
ฝ่ามือนุ่มแตะลงบนท่อนแขนแกร่ง ความรู้สึกลังเลเกิดขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฮยอกแจอยากจะดันตัวออกห่างจากคนด้านหลัง แต่อีกใจกลับสั่งให้รอฟัง... รอคำนั้นที่เขาเองก็อยากได้ยิน




ผมขอโทษครับ




วาจาโอนอ่อนมาพร้อมกับแรงกอดรัดที่เพิ่มมากขึ้น ฮยอกแจห่อตัวเล็กๆ แก้มใสร้อนฉ่าเพราะคำกระซิบริมหู ใครบอกว่าคุณหนูฮยอกแจเข้มแข็งมาตลอด มันไม่จริงเลย ฮยอกแจอ่อนแอมาก ยิ่งกับในเวลานี้ด้วยแล้ว
ผมรู้ตัวว่าทำผิดไว้มาก ผมจะไม่ขอให้บอสยกโทษให้ แต่อย่าไปได้มั้ยครับ...
...
อย่าไปเลย ทงเฮหลับตา คางสากวางเกยบนไหล่ลาด พร่ำคำพูดอ้อนวอนหวังให้คนฟังใจอ่อน ฮยอกแจหลุบตาลงต่ำ คำขอของทงเฮมีมากกว่าที่เขาอยากได้ยิน เขาอยากฟังคำขอโทษแต่ไม่ได้อยากฟังคำรั้ง ฮยอกแจอยากจะไป เขาไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว
ผมตัดสินใจไปแล้ว ริมฝีปากอิ่มกระซิบบอกเบาๆ รับรู้ได้ถึงแรงกอดที่คลายออกช้าๆ ทงเฮลืมตาขึ้น กระจกใสสะท้อนภาพดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความเศร้าทำให้ฮยอกแจต้องเบือนหน้ามองไปทางอื่นด้วยกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน
เปลี่ยนใจไม่ได้เหรอครับ? ทงเฮถาม ฮยอกแจเงียบ ร่างบางหันกลับมาและดันตัวทงเฮออกห่าง ดวงหน้าหวานส่ายเบาๆ แทนคำตอบ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ทงเฮรู้สึกราวกับสิ้นไร้เรี่ยวแรง
ที่ผ่านมาเขาคงสำคัญตัวเองผิดไปสินะ เขาไม่มีค่าพอที่จะรั้งร่างบางเอาไว้ได้เลยสินะ
โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว ริมฝีปากหยักยกยิ้มบางพลางนึกสมเพชตัวเองอยู่ลึกๆ ใบหน้าหล่อแลดูหม่นหมองยามที่เจ้าตัวถอยออกมาจากเจ้านายตัวเล็ก ขณะที่ฮยอกแจก็ยืนมองอาการเศร้าซึมของทงเฮอย่างไม่สบอารมณ์
ง้ออีกนิดมันจะตายมั้ยห๊า!!
ทำไมชอบคิดเองเออเองอยู่เรื่อย ฮยอกแจกอดอก หน้าตาบึ้งตึง คำถามที่ดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มทำให้ทงเฮเงยหน้ามองสบกับเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ
อะไรนะครับ?
ผมถามว่าทำไมนายชอบคิดเองเออเอง... ทำไมชอบมองผมเป็นตัวร้าย... ทำไมชอบว่าผม... ทำไมไม่เคยถาม... ทำไมต้อง...
หมับ!
ผมขอโทษ
เสียงพูดหายไปเพราะร่างบางโดนรวบไปกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ทงเฮกดจมูกลงบนขมับของอีกฝ่าย ความรู้สึกผิดตีตื้นเข้ามาในอก ริมฝีปากหลักเลื่อนลงมากระซิบคำขอโทษให้ฮยอกแจฟังซ้ำๆ อีกครั้ง
ผมขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ
ฮยอกแจยืนนิ่ง ลอบเบะปากกับน้ำเสียงสั่นๆ ของเจ้าของอ้อมแขน อย่าร้องไห้นะ ถ้าร้องไห้เขาไม่ช่วยเช็ดน้ำตานะเออ
นายชอบทำผิดซ้ำซาก ฮยอกแจว่า ครั้งก่อนที่ซื้อดอกไม้มาง้อก็เพราะเข้าใจเขาผิดไปตั้งสองครั้งไม่ใช่หรือไง คราวนี้ก็ขอโทษอีกแล้ว ให้ตาย ทำไมคนดูแลของเขาถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ
ครับ ผมรู้ ทงเฮยอมรับ
สัญญามาว่านายจะไม่ทำผิดแบบนี้อีกแล้ว เสียงหวานออกคำสั่ง ทงเฮชะงักก่อนจะถอนกอดออกอย่างไม่เชื่อหู
บอสหมายความว่า...
สัญญามา!” ฮยอกแจถลึงตาใส่ ทำเป็นไม่เห็นความยินดีในแววตาของคนตรงหน้า อย่าเพิ่งดีใจไป อี ฮยอกแจไม่ใช่คนใจดีนักหรอกนะ ฮึ! =w=
ถ้าผมสัญญาแล้วบอสจะไม่ไปอเมริกาล่ะก็... ผมสัญญาครับ ทงเฮพูดอย่างหนักแน่น เขาอยากจะยิ้ม แต่ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ ฮยอกแจอาจจะแค่ล้อเขาเล่นก็ได้
ดี ฮยอกแจมีสีหน้าพอใจพลางทำท่าจะผละออกไป แต่ก็ถูกทงเฮคว้าข้อมือเอาไว้
บอสจะไม่กลับอเมริกาใช่ไหมครับ? เอ่ยถามน้ำเสียงคาดหวังเต็มที่ ฮยอกแจแสร้งเอียงคอมองกลับด้วยความงุนงง
ผมไม่ได้พูดแบบนั้นซักคำ ว่าแล้วก็ดึงข้อมือให้หลุดจากมือใหญ่ ร่างบางหันหลังเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ สะใจมากที่ได้เห็นคนดูแลสุดหล่อทำหน้าสลดแบบนั้น ช่วยไม่ได้ ใครบอกให้ทำฮยอกแจเสียใจก่อนละ เฮอะ
อย่าลืมสิว่าผมเป็นใคร นายเป็นใคร นายไม่มีสิทธิ์ขอร้องหรือรั้งผมไว้ รู้ไม่ใช่เหรอ? พูดพลางเตรียมเก็บของใส่กระเป๋า โดยไม่หันมามองคนที่ยืนอึ้งเพราะถูกคำพูดของตัวเองย้อนเข้าให้
ผมรู้ครับ ทงเฮตอบรับอย่างว่าง่าย นั่นสินะ ฮยอกแจพูดถูก คนดูแลอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ในตัวเจ้านายทั้งนั้น แต่ว่า...
ผมรู้ว่าในฐานะคนดูแล ผมไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวบอสทั้งนั้น แต่บอสครับ...
หืม? ร่างบางแสร้งขานรับในลำคอเหมือนไม่ใส่ใจ หากมือเรียวกลับเคลื่อนไหวช้าลง ฟันคมขบริมฝีปากล่างเอาไว้ ยามรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากตัวของคนที่เข้ามายืนซ้อนเขาจากทางด้านหลัง
ผมไม่ได้ขอร้องบอสในฐานะคนดูแลนะครับ
            เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเนิบช้าทำเอาฮยอกแจแทบจะกลั้นหายใจรอฟัง หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอยู่ในอก ถ้าเดาไม่ผิด ฮยอกแจคิดว่าเขารู้ว่าทงเฮจะพูดอะไร
            ละ... แล้วนายจะขอร้องผมในฐานะอะไร? สาบานได้ว่าฮยอกแจพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นแล้วนะ แต่ให้ตายเถอะ ทำไมทงเฮต้องทำให้เรื่องนี้มันน่าตื่นเต้นแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ T^T
            บอสไม่รู้จริงๆ เหรอครับ... ทงเฮถาม ขณะเดียวกันก็อดนึกค่อนขอดเจ้าของแก้มใสที่กำลังซับเลือดฝาดไม่ได้ ฮยอกแจชอบทำให้เขานึกเข้าข้างตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เขาก็ขี้เกียจนับ รู้แต่ว่าทุกครั้งที่เห็นอาการเขินอายของคนๆ นี้ ก้อนเนื้อในอกก็เอาแต่เต้นรัว ไม่รู้จักหลาบจำซักที
            ว่าไงครับ บอสไม่รู้หรือไม่ได้คิดเหมือนผมกันแน่ บอกผมหน่อยสิครับ... บอกผม... อย่าปล่อยให้ผมคิดไปเองคนเดียว... นะครับบอสน้ำเสียงอ้อนวอนที่ดังอยู่ไม่ห่างทำเอาฮยอกแจทั้งเครียดทั้งเขิน ไม่เข้าใจว่าทำไมสถานการณ์มันถึงกลับตาลปัตรไปได้ เขาอยากให้ทงเฮเป็นคนเริ่มก่อนนะ ไม่ได้อยากเป็นคนพูดเองแบบนี้
            บอสครับ ร่างหนาเขยิบเข้ามาใกล้อีกนิด ฝ่ามือร้อนที่แตะเบาๆ ตรงบริเวณเอวคอดทำให้ฮยอกแจชักเอนเอียง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนใจเย็นเท่าไหร่อยู่แล้วนะ ออกจะเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย กล้าพูดกล้าทำด้วยซ้ำ ยิ่งมาโดนเร่งเร้าแบบนี้ บอกเลย ฮยอกแจไม่ทนก็ได้!
            นายมันบ้า เสียงหวานดังอุบอิบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังกลับไปกอดทงเฮไว้แน่น
            ผมยอมขนาดนี้แล้วยังคิดว่าตัวเองคิดไปเองคนเดียวได้ยังไง ว่าพลางโขกหน้าผากตัวเองลงกับบ่าอีกฝ่ายเบาๆ
            ก็บอสชอบยั่ว... ผมก็เลยนึกว่าบอสแค่เล่นๆ... ทงเฮเอ่ยเสียงอ่อย ยังตั้งตัวไม่ติดกับคำพูดจากปากของคุณเจ้านายตัวแสบ เขาอาจจะกำลังหูฝาดหรือฝันอยู่แน่ๆ ถึงได้ยินบอสพูดเหมือนกำลังสารภาพรักกับเขาอยู่...
            สารภาพรัก?
            เฮ้ย!?!
            ทงเฮไอ้บ้า! พูดงี้หมายความว่าไง! เห็นผมเป็นคนแบบนั้นมาตลอดใช่มั้ย! ปล่อยเลยนะ! ไม่ต้องมากอดแล้ว!”
            ยังไม่ทันหายอึ้งก็ถูกคุณเจ้านายว่าเอายกใหญ่ ร่างเล็กทำท่าจะผละออกห่างเพราะไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ถูกทงเฮรวบตัวเอาไว้ได้ทัน
            ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ร่างหนารีบบอกด้วยกลัวว่าคุณเจ้านายจะโมโหขั้นสุดแล้วหนีไปอเมริกาเสียตั้งแต่วันนี้ ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนแก้มนวลที่ป่องน้อยๆ ก่อนจะโดนฟันคมงับเข้าตรงไหล่เต็มแรง
            นายมันนิสัยไม่ดี ผมเคยบอกแล้วไงว่าผมจะทำกับคนที่ผมพอใจ แล้วผมก็ทำกับนายคนเดียวตลอด แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเล่นๆ อีกเหรอห๊ะ!?!” ฮยอกแจโวยวายหน้าตาแดงก่ำ นี่เขาไม่พอใจจริงๆ นะ ไม่พอใจมากด้วย
            ทงเฮฟังคำพูดทั้งหมดแล้วก็ได้แต่ยิ้มกว้าง ความดีใจเอ่อล้นจนต้องกอดกระชับคนที่กำลังดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดให้อยู่นิ่งๆ
            แสดงว่าบอสก็คิดเหมือนผมใช่มั้ยครับ? ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ แต่กลับถูกร่างบางตีหน้ายักษ์ใส่
            ไม่ ได้ คิด ตอบเสียงดังฟังชัด
            โกหก ทงเฮหัวเราะหึหึในลำคอ ฮยอกแจชักสีหน้า
            เอ๊ะ ไม่ได้โกหก ก็บอกว่าไม่ได้คิ... อื้อ!”
เสียงหวานประท้วงอย่างไม่พอใจกับจมูกโด่งที่แอบขโมยหอมแก้มเขาเสียฟอดใหญ่ ดวงตาเรียวตวัดมองคนฉวยโอกาสพลางอ้าปากจะต่อว่าซักหน่อย แต่พอสบเข้ากับดวงตาคมที่กำลังฉายแววอ่อนโยนแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำ ฮยอกแจก็จำต้องหุบปากเงียบพร้อมอาการร้อนวูบวาบบนใบหน้าที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
นี่โกรธอยู่นะ คนตัวเล็กพูดเสียงเบา ทงเฮหัวเราะ ชอบใจกับอาการเขินอายของคุณเจ้านาย จมูกโด่งกดลงบนแก้มขาวอีกข้าง
ผมขอโทษครับ
นายก็พูดเป็นแต่คำนี้ เบื่อแล้ว ฮยอกแจทำทีว่างอนอยู่ หากกลับปิดรอยยิ้มไว้ไม่มิด ร่างกายโอนอ่อนให้อีกคนกอดรัดฟัดจูบได้ตามใจ
ตกลงว่าบอสจะไปอเมริกาอยู่หรือเปล่าครับ? มัวแต่หลงไปกับความนุ่มนิ่มของผิวเนื้อหอม พอนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีอีกเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ ทงเฮจึงรีบเอ่ยถาม อ้อมแขนโอบรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม ริมฝีปากอิ่มคลอเคลียแถวแก้มขาวและแตะแผ่วเรื่อยมาจนถึงมุมปากอิ่ม ฮยอกแจแสร้งหรี่ตาลงท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะคิกคักเพราะฟันคมที่แกล้งขบเบาๆ บริเวณซอกคอเขา
วงแขนเล็กยกคล้องรอบลำคอแกร่ง ปลายนิ้วลูบไล้แผ่นหลังหนา อุทานเล็กน้อยยามถูกคนตัวใหญ่กว่ายกขึ้นจนลอยจากพื้น ขาเรียวตวัดรัดรอบเอวสอบอัตโนมัติ
อะไร? ฮยอกแจแกล้งถาม ริมฝีปากอิ่มพรายยิ้ม แพขนตางอนหลุบต่ำ มองเห็นเพียงปลายจมูกโด่งของอีกฝ่ายที่ปัดผ่านอย่างหยอกล้อ
ผมไม่อยากให้บอสกลับอเมริกา พูดพลางวางร่างบางลงบนเตียงนอนนุ่ม ฮยอกแจเลิกคิ้วสูง ลิ้นร้อนเลียรอบกลีบปากนุ่ม ดวงตาจ้องมองคนข้างบนที่ค่อยๆ ถอดเสื้อออกจากทางหัวอย่างใจเย็น ท่วงท่าเซ็กซี่เร้าอารมณ์ที่ฮยอกแจนอนมองด้วยความพอใจ
ทำไมถึงไม่อยากให้ผมกลับ กลัวตกงานเหรอ? ร่างบางถามเสียงพร่า ไฟในตัวถูกจุดติดอย่างง่ายดาย
ไม่ใช่ครับ ผมกลัวไม่ได้อยู่กับบอสต่างหาก เสียงทุ้มกระซิบตอบ ฮยอกแจหัวเราะแผ่ว สะโพกมนยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายถอดกางเกงให้ เรือนร่างงามส่ายไปมายั่วเย้าให้คนมองอยากทาบตัวเองลงไปแนบจูบร้อนลงบนผิวเนียนขาว
งั้นถ้าไม่อยากให้ผมไป...
เสียงหวานหยุดลงพร้อมกับเรียวขาที่ยกชันและแยกกว้างออกจากกัน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนยกยิ้มยั่วยวนเปิดเผย
ถ้าไม่อยากให้ไป นายก็ขอร้องผมสิ ทงเฮ~”
ทงเฮมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาวาววับ ก็ถ้าคุณบอสของเขาจะเล่นแบบนี้...
            ไม่ต้องห่วงครับ... ร่างหนากระซิบ มือใหญ่ลูบไล้ท่อนขาเรียวเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะค่อยๆ บรรจงกดจูบลงบนบริเวณข้อเท้าเล็กพร้อมกับสายตาที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว

ผมจะขอร้อง...จนบอสร้องขอผมไม่หยุดเลย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น