วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[20]_____You're My Sexy Boss. END




            หลังจากวันนั้น ชีวิตของทงเฮก็กลับเข้าสู่วงจรเดิมๆ อีกครั้ง ชายหนุ่มได้งานใหม่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในโซล ตำแหน่งไม่สูงมากเท่ากับที่พี่ฮีชอลเสนอให้ แต่ก็ยังโอเคกว่าการต้องไปนั่งให้พวกคนเก่าค่อนแคะนินทาว่าใช้เส้น อีกอย่างทำงานแบบนี้เขายังมีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่ตัวเองเรียนมาอย่างเต็มที่ด้วย
            น้องทงเฮคะ ยังไงน้องทงเฮช่วยพี่ดูแฟ้มนี้อีกที ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็แก้ไขให้พี่ด้วยนะคะ
            ได้ครับ ทงเฮเงยหน้ามองหัวหน้าแผนกคนสวยที่เดินเข้ามายื่นแฟ้มเอกสารให้เขา มือใหญ่ยื่นไปรับแฟ้มสีดำอย่างว่าง่าย ฉีกยิ้มหล่อให้สาวเจ้าที่ยังอยู่มองอยู่ที่เดิมแทนคำขอบคุณที่อุตส่าห์เดินเอามาให้นิดหน่อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานตัวเองต่อไป หูแว่วเสียงกรี๊ดกร๊าดจากพี่สาวคนเมื่อกี้ดังมาให้ได้ยินทำนองว่า น้องทงเฮยิ้มให้ฉัน น้องทงเฮหล่อมาก บลาๆๆ
            ก็ไม่เข้าใจ เขาหล่อมากถึงขั้นที่ทำให้ใครต่อใครหลงใหลได้ขนาดนั้นเชียว?
            น้องทงเฮคะ เที่ยงแล้ว เราไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ
เข็มนาฬิกาเพิ่งเคลื่อนตรงเลข 12 ได้ไม่ถึงสามวินาที ร่างเพรียวปลิวลมของหญิงสาวรุ่นพี่แถวนั้นก็วิ่งกรูกันเข้ามาหา ต่างคนต่างชวนให้เขาไปทานข้าวร้านนั้นร้านนี้ สมัครสมานสามัคคีเต็มใจเลี้ยงกันสุดๆ แต่ทงเฮก็เพียงแค่กระตุกยิ้มหล่อและกล่าวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
วันนี้ผมห่อข้าวมากินครับ
จบ... เป็นอันรู้กันว่าวันนี้น้องทงเฮจะกินกับข้าวฝีมือเมีย (เพื่อน) ทงเฮแย้มยิ้มขำมองสาวน้อยสาวใหญ่แตกกระจัดกระจายกันไปคนละทาง ห่อข้าวขนาดกลางผูกด้วยโบว์สีชมพูสดใสน่ารักตามสไตล์ของคนทำทำให้ทงเฮได้แต่นิ่งมองด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากกิน แต่ไอ้คยูฮยอนเล่นหอบเอากับข้าวฝีมือเมียเด็กของมันมาประเคนเขาทุกวันแบบนี้ มันน่าเบื่อน้อยซะที่ไหนล่ะ

ถือว่าช่วยเพื่อนช่วยฝูงเหอะ ตั้งแต่กูบอกว่าชอบคนทำอาหารเป็น ไอ้หมูมันก็คึกเข้าครัวฝึกฝีมือตลอด กูก็ต้องยอมเป็นหนูทดลองชิมให้จนซิกซ์แพ็คกูจะหายหมดแล้ว

คิดๆ ดูแล้วก็เคือง มันกลัวซิกซ์แพ็คมันหาย แต่มันไม่กลัวของเพื่อนมันจะหายบ้างเลยเนอะ
ส่ายหัวอย่างระอากับความบ้าบอของคู่รักท้ามฤตยู (ของกฎหมายและกระสุนปืน) คู่นี้ ก่อนจะเปิดห่อข้าวออกมาดูสีสันที่สดใสไม่แพ้โบว์สีชมพู
เอาเหอะ ถือว่าใช้เวรใช้กรรมบ่นพึมพำจบ ทงเฮก็หยิบตะเกียบขึ้นมา คิดเอาไว้ว่าจะหลับหูหลับตากินให้มันหมดๆ ไป แต่จู่ๆ สัมผัสบางอย่างที่แตะไล้บริเวณท่อนแขนก็ทำให้เขาชะงักและรีบหันไปมอง ก่อนจะพบกับใบหน้าสะสวยของใครคนหนึ่งส่งยิ้มมา
อยู่คนเดียวเหรอจ๊ะทงเฮ น้ำเสียงที่ถูกดัดให้หวานกว่าปกติเอ่ยถาม ทงเฮขยับกายด้วยความอึดอัด เหลียวมองรอบตัวก็เห็นว่าทั้งแผนกเหลือเขาอยู่คนเดียว
ชิบหายละกู
ทำไมนั่งทานข้าวอยู่คนเดียวล่ะ ไม่ไปทานกับรุ่นพี่เหรอจ๊ะ? เสียงหวานหูแบบพิลึกถามอีก ทงเฮสูดลมหายใจลึกเมื่ออีกฝ่ายไม่ถามเปล่าแต่กลับเบียดตัวเข้ามาหาจนเขาแทบจะตัวติดกับกำแพง
คือผม...
หรือถ้าไม่มีเพื่อนทาน งั้นไปทานกับฉันดีมั้ย? คนอายุมากกว่าถามซ้ำ แขนเล็กถือวิสาสะกอดรอบลำคอแกร่งและเพราะทงเฮนั่งบนเก้าอี้ เจ้าหล่อนก็เลยฉวยโอกาสนั่งลงบนตักเขาเสียเลย
เยี่ยม! เยี่ยมมาก! ใครเชิญให้นั่งไม่ทราบครับ!?!
ผมว่าคุณทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ กรุณาลุกขึ้นเถอะครับ
ทงเฮกัดฟันข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้เต็มที่ มือใหญ่จับท่อนแขนเล็กให้ถอนกอดออกได้ก็จริง แต่แม่เจ้าประคุณกลับเลื่อนมือลงมาปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วล้วงเข้าไปด้านในแทนซะนี่ โอ๊ย กูจะบ้า จะให้กูได้ทำงานดีๆ ซักทีไม่ได้เลยหรือไงวะ!?!
ทำไมล่ะ ทงเฮไม่ชอบเหรอ? หรือว่ากลัว? ไม่ต้องกลัวหรอกน่า คนในชั้นนี้ไปทานข้าวกันหมดแล้ว ตอนนี้ที่นี่มีแค่เราสองคน หญิงสาวยิ้มยั่ว พยายามปลุกอารมณ์พนักงานหนุ่มรูปหล่อให้คล้อยตามไปกับหล่อน
หยุดเถอะครับ คุณมีสามีแล้วนะครับ คุณอึนจี ทงเฮเตือนสติ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำรุนแรงกับผู้หญิง แม้ใจจะเริ่มโมโหมากแค่ไหน
ทำไมต้องพูดถึงคนอื่นตอนเราอยู่ด้วยกันด้วยล่ะ ฉันไม่ชอบเลยนะ... อ๊ะ อยู่นิ่งๆ สิ ทงเฮ หญิงสาวอุทานเบาๆ มือที่กำลังจะปลดซิปกางเกงของชายหนุ่มถูกดึงออก
คุณจียอนกรุณาลุกขึ้นจากตัวผมเดี๋ยวนี้ด้วยครับ!”
ใบหน้าหล่อขึงขัง มือใหญ่บีบต้นแขนของอีกฝ่ายไว้แน่น ก่อนจะยกร่างเล็กออกจากตัก ทว่าหญิงสาวกลับไม่ยอมแพ้ มือบางจับสาบเสื้อทงเฮไว้และกระชากออกอย่างแรงเผยให้กล้ามเนื้อแน่นน่าสัมผัส ทงเฮมองคนที่ทำตาวาวใส่เขาอย่างนึกขยะแขยงพลางทำท่าว่าจะผลักเธอไปทางอื่น แต่อยู่ๆ เสียงตะโกนก้องที่ดังมาจากทางประตูก็ทำให้ชายหนุ่มชะงักค้างด้วยความตกใจ และนั่นก็เป็นโอกาสห้หญิงสาวฉวยจังหวะนั้นโผเข้ากอดเขา
ทำอะไรกันน่ะ!!!”
คุณพี่คะ พนักงานคนนี้จะปล้ำดิฉัน!”
ว่าไงนะ!?!
ทงเฮเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน ใบหน้าหล่อหันขวับไปทางต้นเสียงที่ยืนทำหน้าตาถมึงทึงดุดันด้วยความตระหนก
ชิบหาย เมียเจ้านายอีกแล้ว!
คือผม... ทงเฮอ้าปากจะเถียง แต่ก็สู้ยัยผู้หญิงมารยาในอ้อมแขนไม่ได้ ปากบอกว่าเขาปล้ำ แต่แขนนี่เกาะคอกันแน่นยิ่งกว่าปลิงซะอีก
ช่วยด้วยค่ะคุณพี่ ดิฉันกลัว



หนอย... อี ทงเฮ! แกเลวมาก ฉันไล่แกออก!”




“-O-”
ชีวิตกูแม่งเข้าอีหรอบนี้ทุกทีเลย บัดซบเอ๊ยยยยยยยยยย!!!


XXXXXXXX

กูบอกแล้วว่าให้มาทำงานกับพี่ฮีชอล มึงก็ไม่เชื่อ
เสียงคยูฮยอนดังกลั้วหัวเราะอยู่ใกล้ๆ มือใหญ่ผลักหัวเพื่อนที่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุดด้วยความสงสาร ทงเฮครางอืออาในลำคอ ดวงตาคมปรายมองเพื่อนสนิทที่วันนี้ใจดีพาเขามาฉลองการถูกโดนไล่ออกอย่างไม่พอใจ
กูว่าพระเจ้าแม่งต้องเกลียดไรกูซักอย่าง น้ำเสียงทุ้มฟังดูอ้อแอ้เพราะฤทธิ์น้ำเมาที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด คยูฮยอนแค่นหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะแย่งขวดวิสกี้มาจากมือใหญ่
พอแล้วมึง เดี๋ยวก็ขับรถกลับไม่ไหวหรอก ร่างสูงบอก
แค่นี้กูไม่เมาหรอกน่าทงเฮขมวดคิ้ว มองแก้วใสที่ถูกดึงออกไปอย่างหงุดหงิดนิดๆ คยูฮยอนยักไหล่ไม่สนใจ
กูรู้ว่ามึงไม่เมา แต่นี่มันดึกแล้ว กลับบ้านกันเหอะว่ะ เอ่ยชวนพลางดึงร่างหนาให้ลุกขึ้นยืน ทงเฮสะบัดตัวออกจากความหวังดีของเพื่อน มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมตัวเอง ขณะกราดสายตามองไปรอบตัว ริมฝีปากหยักกดยิ้มโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ หลายคนที่มองมาอย่างสนใจ
หยุดยิ้มได้แล้ว รีบไปเหอะ กูจะกลับไปเล่นเกม เสียงนุ่มหูบอกพร้อมกับแขนยาวที่กอดคอเขาและลากไปทางประตู ทงเฮจิ๊ปากเล็กน้อย นึกเสียดายกับสายตาเชิญชวนทั้งหลาย ท่าทางที่คยูฮยอนได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ปกติทงเฮเกลียดสถานที่แบบนี้จะตาย ถ้าแม่งไม่เมา มันไม่เป็นงี้หรอก
มึงขับรถกลับเองไหวป่ะ?
เดินกอดคอกันมาจนถึงลานจอดรถ คยูฮยอนก็หันไปถามร่างหนาด้วยความเป็นห่วง ทงเฮพยักหน้ารับ เขารู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ก็ยังพอไหวอยู่
เฮ้ยๆ ไหวแน่ป่ะไอ้เตี้ย คยูฮยอนร้องเสียงหลง เมื่อคนที่บอกว่าตัวเองไหวเดินไปแงะประตูรถของชาวบ้านหน้าตาเฉย ทงเฮนิ่วหน้าพลางเพ่งมองรถเบนซ์สีดำแปลกตา
อ้าว ไม่ใช่รถกู ว่าแล้วก็เกาหัวตัวเองอย่างงงๆ คยูฮยอนตบหน้าผากตัวเองดังป้าบ หนักใจกับอาการของเพื่อน
กูว่าเดี๋ยวกูไปส่งมึงดีกว่า ทิ้งรถไว้นี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้คนมาเอาไปเอง คยูฮยอนบอก แต่ทงเฮกลับส่ายหน้า
ไม่ต้อง กูจะขับรถกลับเอง กูไหว พูดจบก็เดินไปขึ้นรถตัวเองอย่างมั่นคง รอบนี้ไม่ผิดคัน โอเค คยูฮยอนโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ แต่ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย มึงจะใส่เกียร์ถอยหลังทำพร่อง เดี๋ยวชนกู๊วววววว =[]=
ร่างสูงกระโดดหลบท้ายรถเก๋งสีขาวหม่นที่ถอยมาหา กระจกรถถูกลดต่ำลงพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่แดงเพราะพิษเหล้าโผล่ออกมา
หลบทันแสดงว่าไม่เมา ทงเฮพูดพลางหัวเราะอย่างสะใจ ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์พุ่งออกไปด้วยความเร็วเท่าที่รถเก่าๆ คันหนึ่งจะทำได้ ทิ้งให้คยูฮยอนยืนตาโตเพราะยังตกใจไม่หาย
ไอ้ทงเฮ๊! มึงแกล้งกู ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยย แหกปากยกกำปั้นชูไล่หลังเพื่อนไปอยางโมโห ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่รถตัวเอง จังหวะนั้นที่ดวงตาเขาเหมือนจะมองเห็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ของพี่ชายคนรองนั่งอยู่ในรถคันหนึ่งและกำลังเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถตามทงเฮไป
นั่นมันจินกินี่หว่า มาทำอะไรที่นี่วะ? เสียงนุ่มพึมพำด้วยความสงสัย คยูฮยอนมองตามจนมันลับตา ก่อนที่ชายหนุ่มจะละความสนใจและเตรียมออกรถเพื่อกลับคฤหาสน์ของตนเอง

XXXXXXXX

ค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวสุกสว่างสดใส รถเก๋งสีหม่นคันหนึ่งกำลังแล่นมาบนท้องถนนด้วยความเร็วที่ช้าผิดปกติ คนขับรูปหล่อนิ่วหน้า ยามบังคับพวงมาลัยให้จอดเทียบข้างฟุตบาธที่ไร้ผู้คน ความสงสัยก่อตัวขึ้นเล็กๆ
เป็นอะไรวะ หรือว่าน้ำมันหมด?
คำถามในหัวมาพร้อมกับแรงชักกระตุกของรถคันเล็ก ก่อนที่มันจะดับสนิทจอดนิ่งอยู่ข้างถนนอย่างเดียวดาย ทงเฮเบิกตากว้าง เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังไม่ได้เติมน้ำมันรถ
บ้าเอ๊ย จะมีอะไรซวยกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย? เสียงทุ้มสบถเบาๆ มือใหญ่ตบลงไปบนพวงมาลัยอย่างอารมณ์เสีย ไอโฟนสีขาวถูกกดโทรออกหาเพื่อนสนิท
รับสิวะไอ้คยู ทงเฮบ่น เมื่อปลายสายไม่มีทีท่าว่าจะกดรับ รออยู่นานแสนนานกระทั่งสัญญาณตัดไปมันก็ไม่ยอมรับซักที
พรุ่งนี้เจอหน้า กูจะด่าให้กลับไปมุดพุงเมียมันไม่ทัน ร่างหนาขู่อาฆาตแค้นและโยนไอโฟนทิ้งไปยังเบาะด้านหลัง มือใหญ่ยกขึ้นเท้ากับขอบประตูรถ ครุ่นคิดหาทางออกอย่างหนัก ถ้าไม่มีคนมาช่วย ก็คงต้องโบกแท็กซี่กลับ แต่ว่าดึกขนาดนี้ แท็กซี่ที่ไหนมันจะผ่านมาวะ
เป็นเพราะมึงเลยไอ้รถซังกะบ๊วย พรุ่งนี้กูจะให้ช่างมาโละทิ้งขายเป็นเศษเหล็กให้หมด!”
ปึ่ก!
โอ๊ย!” ข่มขู่ได้แม้กระทั่งรถที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แถมยังฟาดฝ่ามือลงไปบนพวงมาลัยให้เจ็บเล่นๆ อีกต่างหาก ร่างหนาสะบัดมือตัวเองแรงๆ คำสอนของแม่ลอยเข้ามาในหัวทันที เวลาโมโห อย่าโง่เอาไปพาลลงกับสิ่งไม่มีชีวิต เพราะนอกจากแกจะไม่หายโมโหแล้ว แกก็จะยิ่งเจ็บตัวมากเข้าไปอีก!’
จ๊ะแม่ อี ทงเฮรู้ซึ้งก็คราวนี้แหละ -_-
ทงเฮยกฝ่ามือที่แดงน้อยๆ ขึ้นดู ก่อนจะเอนหลังพิงเบาะรถอย่างอ่อนล้า ดวงตาคมมองออกไปนอกรถ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย เหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะตีหนึ่งแล้ว ก็ให้นึกถอนใจอีกรอบ
เหมือนวันนั้นไม่มีผิด...
ริมฝีปากยกยิ้มอ่อน ภาพความทรงจำในวันที่เขาโดนเจ้านายไล่ออกจากที่ทำงานเป็นครั้งที่สามปรากฏชัดเจนในหัว แม้ไม่ใช่ถนนสายนี้ แต่บรรยากาศก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่
โดนไล่ออก... ตกงาน... รถน้ำมันหมด...
แล้วก็เจอฮยอกแจ... ครั้งแรก
หึ ตัวร้าย ทงเฮกระซิบท่ามกลางความเงียบและความมืดสลัวรอบกาย เปลือกตาบางปิดลงช้าๆ หวนนึกถึงใบหน้าหวานของอดีตเจ้านายตัวแสบอย่างคิดถึง ป่านนี้ฮยอกแจคงมีความสุขอยู่ที่อเมริกาจนลืมเขาไปแล้วล่ะมั้ง
บรื้น~
คิ้วเข้มขมวดแน่นทันทีที่ได้ยินเสียงรถดังแว่วมาแต่ไกล หัวใจดวงแกร่งเร่งจังหวะเร็วขึ้นทีละน้อย... ทีละน้อยกระทั่งเสียงที่ได้ยินเริ่มใกล้เข้ามามากขึ้น
บรื้นๆๆ
ทงเฮไม่ได้อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เหตุการณ์มันไม่ผิดแผกไปจากวันนั้นเท่าไหร่นัก เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้เปิดวิทยุและจมจ่อมอยู่กับทำนองเพลงจนลืมสังเกตสิ่งรอบข้าง ทงเฮได้ยินเสียงรถ เขาหลับตาและรอฟังเสียงเบรก
เอี๊ยดด~
ไม่จริงน่า... เขาต้องหูฝาดไปแน่ๆ
ก๊อกๆ
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนทงเฮตั้งตัวไม่ทัน ทั้งเสียงเบรกรถ เสียงเคาะกระจกและใบหน้าหวานของคนที่ยืนยิ้มรออยู่ด้านนอก
พระเจ้าช่วยบอกทีว่าเขากำลังฝันไป...
นายชอบน้ำมันหมดตอนกลางคืนแบบนี้ทุกครั้งเลยเหรอ?
ทันทีที่ทงเฮเปิดประตูลงไป น้ำเสียงหวานใสที่เขาไม่ได้ยินมาเกือบหกเดือนก็ถามขึ้น ทงเฮอยากจะตอบ แต่ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออกแล้ว ชายหนุ่มยื่นปลายนิ้วสัมผัสกับพวงแก้มนิ่มแผ่วเบา อุณหภูมิอุ่นและกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ที่ถูกลมพัดโชยมาทำให้เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
บอส? ทงเฮเรียกอย่างไม่มั่นใจ หากคนตรงหน้ากลับสั่นศีรษะ
ไม่ใช่ซักหน่อย ผมชื่อฮยอกแจต่างหาก แล้วนายล่ะชื่ออะไร? ร่างบางถามกลับ ดวงตาเรียวฉายแววซุกซน ยามมองอีกฝ่ายที่กำลังเผยรอยยิ้มออกมาทีละน้อย
ถึงวันนี้จะไม่รุกขึ้นมาปล้ำเขาเหมือนครั้งนั้น แต่ฮยอกแจก็ยังไม่ลืมคำถามแรกที่เคยถามไว้
ว่าไง... นายชื่ออะไร หืม?
คนตัวเล็กยกยิ้มยั่ว นิ้วเรียวเกี่ยวคอเสื้อร่างหนาเข้ามาใกล้ ก่อนจะถูกวงแขนแกร่งตวัดกอดจนตัวลอย ทงเฮหัวเราะ ริมฝีปากหยักแนบจูบลงไปบนเรียวปากอิ่มหนักๆ อย่างคิดถึง เสียงทุ้มกระซิบตอบกลับไปแผ่วเบา






ทงเฮ... ผมชื่ออี ทงเฮ


XXXXXXXX



สรุปที่กลับมาเกาหลีเป็นเพราะแผลงฤทธิ์จนทางโน้นเค้ารับไม่ไหวอย่างนั้นเหรอครับ?
ทงเฮขมวดคิ้ว สันจมูกโด่งที่กำลังลากไล้ไปทั่วหัวไหล่เนียนผละออกมากดลงบนแก้มนวลอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยิน ฮยอกแจพยักหน้า แผ่นหลังบางเอนพิงอกเปลือยเปล่าของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน
ก็ตอนแรกกะจะไปแค่เดือนเดียวอ่ะ แต่มาดามไม่ยอมให้กลับนี่นา ผมก็เลยเกเรใส่ซะเลย ช่วยไม่ได้
นิสัยไม่ดีนี่ครับ ทงเฮว่า หากริมฝีปากหยักกลับอมยิ้มให้กับความเซี้ยวของร่างบาง ฮยอกแจนิ่วหน้า ดวงตาเรียวตวัดมองเจ้าของอ้อมกอดอย่างไม่สบอารมณ์
หรือว่าไม่อยากให้ผมกลับมา? น้ำเสียงหวานฟังดูหาเรื่อง ทงเฮหัวเราะ ฝ่ามือร้อนลูบไล้หน้าท้องแบนราบของอีกฝ่ายไปมา
ไม่รู้สิครับ อยู่ๆ ก็หนีไปแบบนั้น ผมนึกว่าบอสจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก ทงเฮพูดน้ำเสียงเศร้าสร้อย ยังจำได้ดีถึงวันที่ตื่นมาแล้วเจอว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนเดียว ในขณะที่อีกคนกลับหนีไปอเมริกาซะงั้น
คิดเองเออเองอีกแล้ว ผมไม่ได้บอกซักหน่อยว่าจะไม่กลับ อีกอย่างผมให้คยูฮยอนเอาเบอร์โทรให้นายด้วยไม่ใช่เหรอไง? ฮยอกแจเอี้ยวตัวกลับมามองคนพูด ทงเฮพยักหน้า
แล้วทำไมไม่โทรมาล่ะ ผมรอโทรศัพท์นายทุกวันเลยนะ ฮยอกแจโวย ร่างกายเปลือยเปล่าดิ้นขยุกขยิกออกจากวงแขนแกร่งอย่างโมโห
ผมโทรไปครั้งหนึ่งนี่ครับ เมื่อสามเดือนก่อน คนที่รับโทรศัพท์แทนบอสไม่ได้บอกเหรอ?
ทงเฮขมวดคิ้ว นึกขึ้นมาได้ทันที ประเด็นนี้แหละที่ทำเอาเขาซึมเป็นหมาหงอยอยู่ตั้งหลายวัน กว่าจะตั้งสติได้ว่าไม่ควรคิดไปเองคนเดียว ทงเฮก็เกือบจะกลายสภาพเป็นซากศพนอนอืดตายคาห้องไปซะแล้ว
อย่ามาโกหก ถ้านายโทรมาจริง ไมค์ก็ต้องบอกผมแล้วสิฮยอกแจทำแก้มป่อง ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังเพราะถูกฟันคมงับเข้าที่ซอกคออย่างไม่เบาแรง
ไมค์คือใครครับ? ทงเฮถามเสียงเข้มพอๆ กับแววตา ฮยอกแจยู่ปาก เขาทำท่าจะลุกออกจากตักหนา หากก็โดนทงเฮรู้ทันและถูกจับกดลงกับเตียง ผ้าห่มที่ถูกปิดบังเรือนร่างขาวผ่องเอาไว้ถูกปัดทิ้งไปทางอื่น
ว่าไงครับบอส ไมค์คือใคร?
สีหน้าทงเฮไม่มีแววล้อเล่น เขากำลังหึงและหวงมากเพราะชื่อผู้ชายที่ออกมาจากกลีบปากอิ่มของคนตรงหน้า ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวานที่ไม่แม้แต่จะเกรงกลัวกันซักนิดอย่างหงุดหงิด
อี ฮยอกแจกำลังยั่วโมโหเขา ทงเฮรู้ แต่ขณะเดียวกันก็ยังยั่วยวนอารมณ์เขาด้วยการยกขาเกี่ยวรั้งเอวเขาเข้ามาใกล้ สะโพกมนเบียดชิดกับความเป็นชายที่เริ่มตื่นตัวอีกรอบหลังจากที่เพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
บอสครับ ร่างหนาพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง เขาจะต้องได้คำตอบก่อนที่จะถูกคนช่างยั่วชักจูงปั่นหัวให้เตลิดอีกครั้ง
หืม? ฮยอกแจขานรับในลำคอ ฝ่ามือนุ่มแตะไล้แผงอกแกร่ง ลากต่ำผ่านกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวสวยเรื่อยมาถึงส่วนแข็งขืนที่กำลังเสียดสีอยู่กับปากทางร้อนระอุ ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มลึกทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มครางต่ำแผ่วเบา นิ้วโป้งกดลงบนส่วนปลายยอดของแก่นกายใหญ่บดขยี้เบาๆ จนพรีคัมไหลซึมเปรอะปลายนิ้ว ก่อนที่มันจะถูกลิ้นเล็กแลบเลียจนหมด
บอส ทงเฮไม่อยากจะเชื่อ ขนาดพรีคัมยังไม่เว้น! มันจะเกินไปแล้ว แม่คุณเอ๊ย!
ทงเฮ ผมอยากให้ทงเฮเข้ามา... นะ~” เสียงหวานออดอ้อน ทงเฮสูดลมหายใจลึก มุมปากหยักหยัดยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมฉายประกายร้อนแรง ยามที่ฝ่ามือร้อนกอบกำรอบแก่นกายเล็กพลางรูดรั้งเร่งจังหวะให้อีกคนแบบไม่ทันตั้งตัว
อื้อ... อะ... ทง... อ๊า... ทงเฮ~”
ฮยอกแจถึงกับหลุดครางไม่เป็นภาษา ท่อนขาเรียวหลุดออกจากเอวสอบและตกลงบนเตียงนอนอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรว เรือนร่างบางบิดเร่าเพราะความเสียวที่แล่นเสียดขึ้นมากะทันหัน ทงเฮหัวเราะหึในลำคอ เขาเขยิบตัวถอยออกไปนิดหน่อยเพื่อจะได้ปรนเปรอให้ร่างบางด้วยริมฝีปากและลิ้นของตัวเอง
อ่ะ... อ๊า... อื้อ... ทันทีที่ลงลิ้น ฮยอกแจก็ยิ่งครางดังออกมามากกว่าเก่า มือเรียวสอดขยุ้มเส้นผมของทงเฮไว้พลางกดให้โพรงปากร้อนครอบรับส่วนอ่อนไหวของตัวเองเข้าไปให้หมด สะโพกมนส่ายร่อนตามจังหวะของลิ้นร้อนที่ตวัดปาดตามความยาวอย่างไม่เกรงใจ
ท... ทงเฮ... อา...
ตกลงว่าไมค์คือใครครับ? ทงเฮผละริมฝีปากออกมาพลางถามสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ ฮยอกแจกัดปากครางประท้วง รู้สึกคล้ายกับถูกอีกคนโยนลงเหวแล้วดึงกลับมาอย่างไม่บอกกล่าว
บอสครับ ฝ่ามือหนาลากไล้ตามความยาว ก่อนจะเคลื่อนต่ำและส่งนิ้วสองนิ้วผลุบหายเข้าไปในช่องทางอุ่นที่ยังคงมีน้ำของเขาคั่งค้างอยู่
ฮึ่ก... อ๊า!” ใบหน้าหวานสะบัดขึ้น หยดน้ำตาร่วงหล่นลงบนผ้าปูเตียง รับรู้ได้ถึงนิ้วเรียวที่คว้านลึกอยู่สองสามครั้งก่อนที่มันจะแตะโดนจุดอ่อนไหวข้างในอย่างแรง
ทงเฮ... ทงเฮ... เสียงหวานครวญหาเจ้าของนิ้วที่ยังคงเล่นสนุกกับช่องทางเขาไม่หยุด ทงเฮยิ้มรับคำเรียก ร่างหนาโน้มกายทาบทับคนที่นอนอยู่ กดริมฝีปากลงบนแผ่นอกขาวที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยแดงประปราย ดูดเม้มจนมันขึ้นรอยอีกรอย ก่อนจะขยับขึ้นไปกดจมูกลงบนเนินแก้มแดงปลั่งหนึ่งที
บอกได้หรือยังครับบอสว่าไมค์เป็นใคร? ร่างหนาถาม ไม่สนใจสายตาตัดพ้อของอีกฝ่าย ฮยอกแจเบ้ปาก นาทีนี้เกลียดทงเฮมาก บอกเลย
ไมค์เป็นเลขาฯ ของมาดาม บอกพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ทงเฮพยักหน้ารับรู้ หากยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่เขาพูดภาษาเกาหลีเก่งมากนะครับ เอ่ยแย้งพลางแตะลิ้นลงบนยอดอกเล็กเล่นเบาๆ ฮยอกแจสะดุ้ง มือเรียวฟาดลงบนไหล่กว้างอย่างโมโห
ก็เขาเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลีนี่!” โดนแว้ดใส่จนได้ แต่ก็ตอบได้โอเคดีจนทงเฮวางใจ
แล้วทำไมเขาถึงมารับโทรศัพท์ของบอสได้ล่ะครับ? ยังไม่วายมีคำถามต่อ ฮยอกแจจิ๊ปากด้วยความรำคาญ
ก็เพราะตอนโดนกักบริเวณ ผมโดนยึดโทรศัพท์น่ะสิ! มีอะไรจะถามอีกมั้ย ถ้าไม่มี... ถอย!”
คนตัวเล็กตีหน้าบึ้งพลางดันอกของคนที่อยู่ข้างบนให้ถอยห่าง เอาแต่ใจแถมยังน่ารักมากเสียจนทงเฮอดหัวเราะด้วยความเอ็นดูไม่ได้
โอ๋ อย่าเพิ่งงอนสิครับ ร่างหนารีบรวบตัวคนข้างใต้เข้ามากอด พรมจูบลงบนแก้มนวลและริมฝีปากอิ่มซ้ำๆ อย่างเอาใจ
ผมไม่ได้งอนแล้วผมก็ไม่ใช่เด็กด้วย ไม่ต้องมาโอ๋เลย!” คนไม่ใช่เด็กทำหน้ากระเง้ากระงอด กำปั้นเล็กทุบลงบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ ก่อนจะพลิกกายนอนหันหลังให้อีกฝ่ายเป็นการบอกให้รู้เป็นนัยว่า ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน แต่ต้องง้อ!
โธ่ บอสครับ ทงเฮเรียกเสียงอ่อน หากริมฝีปากกลับไม่ยอมหุบยิ้ม มือใหญ่จัดการบีบแก้มก้นนุ่มของคนที่นอนตะแคงเบาๆ เป็นการหยอกล้อ หลุดยิ้มขำออกมาอีกครั้งหนึ่งเพราะกายบางที่สะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาแยกเขี้ยวข่มขู่เขา
ไปไกลๆ เล... อื้อ!”
เพราะหันหน้ามานั่นแหละ ทงเฮเลยอดไม่ได้ที่จะป้อนจูบรสชาติหวานร้อนให้อีกฝ่ายนอนตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขน มือข้างหนึ่งลูบไล้เอวบางและลากต่ำลงไปหาเรียวขาเนียน ยกมันขึ้นพาดไว้บนท่อนแขน สะโพกสอบกดแนบเสียดสีความเป็นชายไปมากับปากทางนุ่ม เสียงฮยอกแจครางอืออาในลำคอ รู้สึกเสียววาบบอกไม่ถูกยามที่ปลายแก่นกายใหญ่สะกิดเบียดอยู่เพียงภายนอกไม่เข้าไปสักที
อา... ทงเฮ~” ริมฝีปากสีแดงบวมเจ่อเป็นฝ่ายผละออกมาก่อน เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจใกล้หมดลง มือเรียวเอื้อมคว้าหัวไหล่แกร่งไว้แน่น แผ่นอกบางสะท้อนหอบหนัก ขณะปล่อยให้คนด้านหลังซุกไซร้จมูกโด่งลงบนซอกคอ ไหล่ลาด ขบเม้มเบาๆ เพียงให้พอขึ้นรอย
ทงเฮสูดลมหายใจลึกยามที่สะโพกมนเป็นฝ่ายโก่งเข้าหา ในหัวมีแต่คำว่ายั่ว ยั่ว ยั่วอยู่เต็มไปหมด อี ฮยอกแจคงอยากให้เขาคลั่งตายไปจริงๆ แน่ๆ
ทงเฮ... ผมอยากให้ทงเฮเข้ามา... นะ~”
เสียงหวานครวญครางขอร้องเป็นครั้งที่สอง แน่นอนว่าคราวนี้ทงเฮไม่ปฏิเสธ แก่นกายใหญ่ค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปยังช่องทางร้อนช้าๆ ซี้ดปากเสียงดังเพราะความซ่านเสียวกับแรงบีบรัดรุนแรงภายในกายบาง
บ... บอสครับ... อื้ม...
ซ... อา... ทงเฮ... ขยับ...
ยังไม่ทันจะปล่อยให้อีกฝ่ายคุ้นชิน คำสั่งเอาแต่ใจก็ดังขึ้นมาเบาๆ ทงเฮนิ่งไปครู่ ก่อนจะยกยิ้มอย่างเข้าใจ เขารู้ว่าฮยอกแจทนมานานและรู้ว่าตอนนี้ร่างบางคงทนไม่ไหวอีกแล้ว สันจมูกโด่งกดลงบนแก้มนุ่มสูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด บั้นท้ายนิ่มที่เริ่มขยับวนเชิญชวนเขาก่อนทำให้ทงเฮกระชับท่อนขาเรียว ยกขึ้นสูง... และหลังจากนั้นก็ขยับสะโพกกระหน่ำแทงระรัวจนร่างบางหวีดร้องลั่นห้อง
ทงเฮ... อ๊ะ... อา... ส... เสียว... อ๊า...
ใบหน้าหวานส่ายสะบัดกับความร้อนของแก่นกายที่สอดลึกกว่าที่เคย ทุกครั้งที่ทงเฮเคลื่อนไหว สะโพกสอบจะแนบติดกับบั้นท้ายนุ่มจนเกิดเสียงดังผสานไปกับเสียงครวญครางไม่เป็นศัพท์ของคนตัวเล็ก
อื้อๆ... ทงเฮ... อีก... ซี้ด... ล... ลึ... ลึกอีก...
ฮยอกแจไม่พอ... ถึงแม้จะรักกันไปแล้วหลายรอบ แต่ยิ่งถูกกอด ถูกสัมผัส ความรู้สึกว่ายังไม่พอก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นจนล้นอก
อ๊า... ท... ทงเฮ...
อื้ม... บอส... บีบแรงจังเลยนะครับ ทงเฮกัดฟันพูด ลมหายใจร้อนหอบกระชั้น กลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของคนในอ้อมแขนทำให้สติสัมปชัญญะเขาเตลิดจนกู่ไม่กลับ ร่างหนาเบียดตัวติดกับแผ่นหลังบาง ซุกใบหน้าลงกับลาดไหล่ชื้น พรมจูบสะเปะสะปะตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง
ฮยอกแจครางสะอื้น โดนทำให้เสียวแล้วเสียวอีกจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ มือเรียวจิกลงบนบ่ากว้าง สะโพกมนแอ่นร่อนรับจังหวะลงตัวกับคนด้านหลัง นัยน์ตาคู่สวยที่หยาดน้ำเอ่อคลอจนมองทุกอย่างพร่าเบลอไปหมด เสียงสูดลมหายใจหนักของทงเฮปลุกเร้าให้เขาตื่นตัวมากขึ้น น้ำหล่อลื่นสีใสหยดลงจากปลายแก่นกายเล็กร่วงหล่นสู่ผืนเตียง บ่งบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานฮยอกแจก็จะถึงฝั่งฝัน
หากแต่จู่ๆ แรงกระแทกด้านหลังกลับชะลอลง ร่างบางถูกจับพลิกให้นอนคว่ำหน้า แขนทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงทำได้เพียงแค่วางทิ้งไว้กับหมอนใบโตเท่านั้น สะโพกขาวที่ถูกบีบเคล้นจนขึ้นรอยแดงถูกยกสูงตอบสนองแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ สอดลึกเข้ามาอีกหน
อะ... อ๊า~”
ฮยอกแจแนบใบหน้าลงกับเตียงนอน ริมฝีปากสีแดงสดเผยอหอบหนัก เรือนร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นของคนด้านหลังที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดจังหวะลงเลยสักนิด
ซี้ด... บอสครับ... อืมม... ทงเฮครางทุ้ม มือใหญ่บีบกระชับสะโพกกลมแน่นพลางสวนกายเข้าหาช่องทางร้อนระอุที่ขมิบรัดตัวตนเขาแรงกว่าเดิม ดวงหน้าหวานส่ายสะบัดเล็กน้อย เล็บคมจิกลงกับฟูกนอนเพราะความเสียวที่แล่นพราดไปทั่วทั้งกาย
ทงเฮ... อื้อ... ผม... ค... คิดถึงนายนะ... อะ... คิดถึง... อ๊า
คำพร่ำคิดถึงถูกเอ่ยออกมาซ้ำๆ ให้คนฟังตื้นตันไปทั้งใจ ทงเฮโน้มตัวลงทาบทับร่างข้างใต้ ปัดป่ายปลายจมูกและริมฝีปากไปตามขมับและข้างแก้มแดงปลั่ง สะโพกแกร่งกระแทกถี่ขึ้น ก่อนจะสอดลึกหนักหน่วงเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่ฉีดพ่นออกมาเต็มช่องทางรัก เช่นเดียวกับฮยอกแจที่กระตุกตัวปลดปล่อยน้ำสีเดียวกันออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอนไปหมด
ร่างหนากระตุกเกร็งเมื่อช่องทางร้อนยังคงตอดรัดเขาซ้ำๆ คล้ายกับต้องการที่จะบีบเอาทุกหยาดหยดในตัวเขาเข้าไปเก็บไว้ภายใน ใบหน้าหล่อซบลงบนไหล่บางอย่างอ่อนแรง
เหนื่อย... แต่ก็มีความสุขยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
อื้อ~ แฮ่กๆ ร่างบางครางเบาๆ เพราะถูกจับพลิกให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวใหญ่กว่า เสียงหอบหายใจดังผสานกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแผ่วลงทันทีที่ต่างฝ่ายต่างควบคุมจังหวะของตนเองได้ ทงเฮหลับตานิ่งซุกจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มของคนที่ขยับซุกหน้าลงกับอกเขาเช่นกัน
ริมฝีปากหยักพรายยิ้มอย่างมีความสุข บรรยากาศร้อนแรงเมื่อสักครู่คลายลงเหลือไว้เพียงกรุ่นไอของความรู้สึกที่แม้ไม่ต้องเอ่ยปากพูด หากเขากับฮยอกแจก็สัมผัสถึงมันได้... ด้วยหัวใจ
บอสครับ
หืม? เสียงขานรับจากคนที่กำลังเกลี่ยนิ้วเล่นบนยอดอกเขาดังขึ้น ทงเฮยิ้มพลางปัดปอยผมที่ตกระข้างแก้มออกให้อีกฝ่าย
ผมก็คิดถึงบอสเหมือนกันนะครับ
เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาเรียกอาการชะงักงันจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี ดวงตาคมเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน ยามจ้องมองแก้มใสที่กลับมาเป็นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง
รู้แล้วน่า ก็ลองไม่คิดถึงกันดูสิ ผมจะอาละวาดให้ตายกันไปข้างเลย เสียงหวานดังอุบอิบ หากก็ชัดเจนจนทงเฮได้ยินมันเต็มสองหู ริมฝีปากหยักยกยิ้มขำ สันจมูกโด่งก้มลงฟัดแก้มนุ่มแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
สรุปตอนนี้เราเป็นอะไรกันครับ?
ถึงจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ทงเฮก็ยังถามออกไป หวั่นใจเล็กน้อยว่าร่างบางจะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คิด ใบหน้าหวานบิดเบ้ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นตามประสาคนปากแข็ง
เจ้านายกับลูกน้องไง ฮยอกแจตอบ เรื่องแค่นี้ถ้ายังไม่รู้ ฮยอกแจก็จะโกรธ โกรธ โกรธจนไม่ยอมพูดด้วยอีกเลย
แต่ว่าผมไม่ได้ทำงานเป็นคนดูแลบอสแล้วนะครับ ถึงจะหน่วงในใจเล็กน้อย แต่เพราะรู้อยู่แล้วว่าฮยอกแจปากแข็งแค่ไหน ทงเฮเลยไม่ได้ถือสา
อีกอย่างตอนนี้ผมก็มีงานทำเองแล้วด้วย ทงเฮปด ไม่บอกหรอกว่าโดนไล่ออกจากงานด้วยความผิดซ้ำซากไร้สาระแบบนั้น เขาไม่ได้อาย แค่ไม่อยากให้ฮยอกแจโมโหแล้วพุ่งไปตบเมียของอดีตเจ้านายเหมือนคราวก่อนอีก
อย่ามาโกหก นายตกงานแล้ว!” ฮยอกแจเถียง
หือ บอสรู้ได้ไงครับ? ทงเฮประหลาดใจ ฮยอกแจย่นจมูก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสบตาเขา
จินกิบอก
อ่า... อี จินกินี่ชักน่ากลัวแล้วแฮะ -_-
แล้วยังไงครับ ถึงผมตกงานแล้วก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้เป็นลูกน้องบอส... อ่า ตอนนี้ต้องเรียกว่าคุณฮยอกแจถึงจะถูกสินะครับ ทงเฮว่ายิ้มๆ ชอบใจนักกับสีหน้าขัดใจของคนตัวเล็ก
แล้วถ้าผมจ้างนายต่อล่ะ ร่างบางถาม
จ้างด้วยอะไรล่ะครับ? ทงเฮยิ้มเจ้าเล่ห์ มือใหญ่ลูบท่อนขาขาวที่ยกก่ายสะโพกเขาสลับกับบีบแก้มก้นนิ่มเล่นเบาๆ ฮยอกแจครางฮือ ดวงตาฉ่ำหวานช้อนมองทงเฮอย่างรู้ทัน
นั่นสิ จ้างด้วยอะไรดีน้า~”
เสียงหวานลากยาว ร่างบางที่พลิกกายขึ้นมานั่งทับบนหน้าท้องเขาทำเอาทงเฮหายใจติดขัดอีกหน ดวงตาคมกวาดมองเรือนร่างงดงามด้วยความหลงใหล มองจากมุมนี้ ฮยอกแจยิ่งดูเซ็กซี่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทรงผมยุ่งเหยิงหากกลับดูมีเสน่ห์รับกับใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความยั่วยวน ผิวขาวเนียนถูกตีตราประทับแทบทุกตารางผิว ไม่เว้นแม้แต่ต้นขาด้านในจรดปลายเท้า
ทงเฮอยากให้ผมจ้างด้วยอะไร บอกมาสิ ร่างบางโน้มตัวลงมาหา ปลายลิ้นแตะเล็มใบหูขาว ดูดกลืนเบาๆ ก่อนจะผละออกมาสบตากับคนที่นอนอยู่
อะไรก็ได้ครับ อะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาได้อยู่ใกล้ฮยอกแจไปตลอดชีวิต
อะไรก็ได้งั้นเหรอ อ่า... มักน้อยจังนะ ฮยอกแจยิ้มพลางซุกริมฝีปากลงบนซอกคอของอีกฝ่าย กัดเบาๆ ให้พอขึ้นรอย ก่อนจะแลบลิ้นเลียแทนคำปลอบโยน
งั้น... ผมจะจ้างนายด้วยทั้งหมดของผม พูดพลางจับมือใหญ่ขึ้นมาดูดเลียทีละนิ้ว โดยที่สายตาก็ยังคงจับจ้องเพียงดวงหน้าหล่อไม่ละไปไหน ทงเฮนอนนิ่ง ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มลึก
สัญญาตลอดชีวิตหรือเปล่าครับ? น้ำเสียงทุ้มแหบพร่า มองคนที่ลากปลายนิ้วของเขาไปตามร่างกายส่วนต่างๆ อย่างร้อนแรง
สัญญาตลอดชีวิต
คำพูดที่ราวกับเป็นคำสัญญาจากคุณเจ้านายทำให้ทงเฮยกตัวขึ้นเบียดจูบลงไปบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นของทั้งสองสอดรัดกันอยู่ข้างใน ดูดดึงเกี่ยวพันกันอย่างดุเดือดเร่าร้อน กระทั่งฮยอกแจเริ่มไม่ไหว เพราะอีกฝ่ายที่เล่นขยี้ยอดอกเขาไปด้วย เร่งเร้าให้ความต้องการเขาก่อตัวและพุ่งสูงถึงขีดสุด
มือเรียวผลักดันให้ทงเฮทิ้งตัวลงนอนตามเดิม รอยยิ้มร้ายกาจแฝงแววยั่วเย้าฉายชัดบนใบหน้า ฮยอกแจสูดลมหายใจลึกพลางแลบลิ้นเลียปากตัวเองด้วยท่าทางสุดเซ็กซี่ แก่นกายเล็กที่เริ่มตื่นตัวอีกครั้งทำให้ทงเฮได้แต่จ้องกลับไม่วางตา
ทงเฮ... นายรักผมมากมั้ย? เสียงหวานดังกระเส่า มือเรียวเอื้อมไปด้านหลังสัมผัสกับความเป็นชายของอีกฝ่ายแผ่วเบา
รักครับ รักมาก ทงเฮรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเพ้อ อี ฮยอกแจคนร้ายกาจกำลังทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวซึ่งไม่ต่างอะไรกับการหลงทางอยู่ในเขาวงกตที่ไม่มีทางออก
แล้วทงเฮอยากรู้มั้ยว่า... ผม... อื้อ... ร... รักทงเฮมากแค่ไหน?
ร่างบางกระตุกเพราะมือใหญ่ที่เผลอบีบขยี้ยอดอกทั้งสองข้างของเขาอย่างแรงเพราะคำพูดที่เหมือนกับเป็นคำบอกรักนั่น ทั้งที่ทำใจไว้แล้วว่าคนปากแข็งอย่างฮยอกแจคงไม่ยอมพูดออกมาง่ายๆ แต่ว่าตอนนี้มันกลับผิดไปจากที่คิด
ฮยอกแจบอกว่ารักเขา...
อยากสิครับบอส ผมอยากรู้ ทงเฮรีบตอบรับด้วยความยินดี เขาอยากจะลุกขึ้นกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบาง หากก็ติดตรงที่ถูกฮยอกแจกดเอาไว้ คนหน้าหวานยิ้มยั่ว แก้มสีชมพูระเรื่อกลายเป็นสีแดงก่ำเพราะความเขิน แต่ถึงจะเขิน ยังไงซะฮยอกแจก็ยังเป็นคนยั่วเก่งอยู่ดี
งั้นถ้าอยากรู้... ทงเฮก็ต้องรักผมแรงๆ ก่อน ผมถึงจะยอมบอก โอเค้? ร่างบางพูดขณะถอยตัวลงไปเล่นกับส่วนที่กำลังตั้งชันอย่างชอบใจ ทงเฮหยัดกายลุกขึ้นนั่ง มือหนาสอดแทรกเข้าไปใต้เรือนผมนุ่ม นวดคลึงเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ หนักหน่วงขึ้นทีละนิดตามจังหวะที่ฮยอกแจช่วยปรนเปรอให้
อื้มม... บอส... เสียงทุ้มครางพร่าด้วยความเสียวซ่าน มืออีกข้างลูบไล้แผ่นหลังบางพลางค่อยๆ ไล่ต่ำลงไปหาบั้นท้ายแน่น แตะนิ้วคลึงเบาๆ ตรงปากทาง ก่อนจะดันเข้าไปข้างใน ปริมาณของเหลวที่คั่งค้างอยู่มากทำให้คิ้วเข้มขมวดแน่น
บอสครับ... อื้ม... ตรงนี้แฉะหมดแล้วนี่ครับ ทงเฮพูด ฮยอกแจครางฮือ ละริมฝีปากออกมาช้อนตาหวานๆ ใส่
อื้อ~ ทงเฮก็เอาออกให้หน่อยสิครับ ว่าพลางขยับกายขึ้นกอดรอบลำคอแกร่ง แน่นอนว่าทงเฮรู้ดีว่าเจ้าตัวต้องการอะไร มือใหญ่จับบั้นท้ายนิ่มไว้มั่น ก่อนจะลุกขึ้นยืน ซึ่งฮยอกแจก็รู้งานรีบไขว้ขาตวัดรอบเอวอีกฝ่ายไว้ ริมฝีปากอิ่มเข้าคลอเคลียกับเรียวปากหยัก หัวเราะคิกคักยามถูกพาเข้าไปในห้องน้ำหรู ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางสลับกับคำพูดอ้อนวอนน่ารักที่ทำให้คนฟังไม่สามารถทนใจแข็งได้เลย



อา... แรงๆ สิครับทงเฮ... ฮ๊ะ... รักผม... อื้อ... รักผมแรงๆ
ซี้ด... แรงแบบนี้... พอใจหรือยังครับบอส...
อ๊ะๆๆๆ แรงอีก... อ๊า... ทงเฮ~”



ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสัญญาตลอดชีวิตคงทำเขาเหนื่อยไปอีกหลายปี แต่ทำไงได้ ดันไปหลงรักเจ้านายช่างยั่วที่ชอบทำตัวน่ารักน่าฟัดขนาดนี้ ทงเฮก็ต้องยอมอย่างเดียวล่ะวะ เฮ้อ



HAPPY~



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น