วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[19]_____Not Say Goodbye

            
           

            ทงเฮนอนลืมตาอยู่ในห้องนอนของคุณเจ้านายมาได้พักใหญ่แล้ว สภาพของเตียงกว้างยิ่งกว่าผ่านสมรภูมิรบสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งหมอน ผ้าปูที่นอนหรือแม้แต่ผ้าห่มกระจัดกระจายไปคนละทาง บ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อวานเขาใช้พลังไปมากแค่ไหนกับการขอร้องร่างบางให้อยู่ต่อ


แต่สุดท้าย... อี ฮยอกแจก็จากไปอยู่ดี


มือใหญ่กวาดลงบนฟูกนอนข้างกายที่ว่างเปล่า เอียงใบหน้ากดจมูกลงบนหมอนใบโตที่ยังคงมีกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของคนที่เคยนอนอยู่ตรงนี้เข้าเต็มปอด
ใจหาย... แค่คิดว่าคนตัวเล็กนุ่มนิ่มที่เมื่อคืนยังนอนให้เขากอดไม่อยู่แล้ว ทงเฮก็รู้สึกอึดอัดจนอยากจะร้องไห้ออกมา ทั้งที่อุตส่าห์พร่ำขอร้อง แต่ฮยอกแจก็ยังกล้าทิ้งกันได้ลงคอแถมยังไปโดยไม่บอกลาอีกต่างหาก ทงเฮเพิ่งรู้ว่าต่อให้บอกความรู้สึกออกไป ยังไงสุดท้ายเขาก็ยังเป็นแค่คนที่ไม่มีค่าพอจะรั้งใครไว้ได้เลย
หึ ทำไมเป็นคนใจร้ายแบบนี้ก็ไม่รู้ คุณหนูฮยอกแจ
เปลือกตาบางปิดลงช้าๆ ก่อนจะลืมขึ้นใหม่อีกครั้ง ในเมื่อตอนนี้เจ้านายก็ไม่อยู่แล้ว งั้นเขาก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีก ร่างหนาคิดพร้อมกับผุดลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าและเดินกลับห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาจัดการอาบน้ำเก็บข้าวของส่วนตัวทุกอย่าง ก่อนจะลากกระเป๋าเดินลงมาจากชั้นบน
คุณทงเฮจะไปไหนคะ? แชริม เด็กสาวที่เขาจำได้ว่าสนิทกับฮยอกแจพอสมควรเอ่ยถามทันทีที่เห็นเขาลงมา ทงเฮยิ้มน้อยๆ พยายามปั้นหน้าให้สดชื่น
เจ้านายไม่อยู่แล้ว ผมก็กลับบ้านสิครับ
อ่า... แชริมฟังคำตอบแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ในใจนึกสงสารคนดูแลรูปหล่อที่อยู่ๆ ก็ถูกคุณหนูของเธอทิ้งเอาอย่างไม่ไยดี เด็กสาวยืนมองทงเฮที่แวะบอกลาคนนั้นคนนี้ด้วยความหดหู่ ไม่เข้าใจว่าคุณหนูฮยอกแจกล้าทิ้งคนหล่อๆ แสนดีอย่างคุณทงเฮได้ยังไง ดูซิ หน้าตาน่าสงสารออกขนาดนั้น T^T
ทงเฮฝืนยิ้มตลอดเวลาที่เดินผ่านคนอื่น พยายามมองข้ามสายตาสงสารของทุกคน เขาไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้นซักหน่อย ก็แค่ตกงานกะทันหันก็เท่านั้นเอง
ชายหนุ่มก้มหัวน้อยๆ ให้คุณป้าแม่บ้าน ก่อนจะเดินลงมายังหน้าคฤหาสน์ คิ้วหนาเลิกสูง เมื่อมองเห็นรถสปอร์ตคุ้นตากับใครอีกคนยืนรออยู่
ป่ะ เดี๋ยวกูไปส่ง คยูฮยอนบอกยิ้มๆ ทงเฮแค่นหัวเราะ ถ้าไม่เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เขาจะนึกว่ามันมารอทับถมเขาอยู่นะเนี่ย
คิดไงถึงมารอรับกูวะ? ทงเฮถามหลังจากขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว คยูฮยอนหัวเราะเบาๆ
ก็ตอนมา กูเป็นคนพามึงมา เพราะงั้นตอนกลับ กูก็ต้องเป็นคนพามึงกลับสิวะ ถามได้
อืม นั่นสินะ ทงเฮตอบรับสั้นๆ ถึงจะเป็นคนประสาทไปหน่อย แต่อย่างน้อยไอ้คยูก็ยังมีความรับผิดชอบไม่ทิ้งเขาไม่เหมือนใครบางคน (พูดแล้วมันเจ็บ)
หิวข้าวป่ะ แวะทานข้าวกันก่อนมั้ย? คยูฮยอนหันมาถาม หากทงเฮกลับส่ายหน้า
ไม่อ่ะ กูอยากกลับห้องไปนอนมากกว่า
อืม... เอาล่ะ ถึงแล้ว ลง มันพยักหน้าเหมือนจะรับรู้ แต่ไอ้รถที่มันเลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านอาหารนี่... แล้วจะถามกูทำเชี่ยอะไรครับ? -_-
ลงมากินข้าวหน่อยเหอะน่า กูรู้มึงยังไม่ได้กินอะไร คยูฮยอนชวน ทงเฮมองเพื่อนร่างสูงที่ลงจากรถไปยืนรออยู่ข้างฟุตบาธอย่างเสียอารมณ์นิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น ร่างหนาก็ยอมก้าวตามเพื่อนไปอยู่ดี
กินไรดี มันถาม ตามองเมนูด้วยความสนใจ ทงเฮเบือนหน้ามองออกไปนอกร้าน ไม่ตอบ แต่หูได้ยินไอ้เพื่อนตัวแสบสั่งอาหารแทนเรียบร้อย
ทำหน้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งเลยว่ะ มากินข้าวกับกูทั้งที ยิ้มหน่อยมันจะตายป่ะครับ? คล้อยหลังที่พนักงานเดินจากไป ไอ้คยูก็หันมากวนประสาทเขาเล่นทันที ทงเฮถอนหายใจยาว เหลือบตามองเพื่อนที่เอนหลังพิงเก้าอี้พลางเคาะนิ้วลงกับโต๊ะตามจังหวะเพลงอินดี้ที่เปิดในร้านอย่างสงสัย
มึง...เขาเรียก
หืม? คยูฮยอนขานรับ
มึงมีอะไรจะพูดกับกูใช่หรือเปล่า? ทงเฮถาม คยูฮยอนเลิกคิ้ว หน้าตาเหลอหลา
อะไร ไม่มี้ แน่ะ เสียงสูง -_-
ไม่ตลกนะ มีไรก็พูดมา ทงเฮพูดหน้าตาจริงจัง
ก็กูบอกว่าไม่มีไง กูแค่อยากพามึงมาเลี้ยงข้าวเฉยๆ คิดไรมากวะ?
... ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงแววตาเคร่งขรึมน่ากลัวเท่านั้นที่มองจ้องกลับมา ตอนแรกคยูฮยอนก็กะจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นอยู่หรอก แต่พอโดนมันจ้องมากๆ เข้าก็ชักทนไม่ไหว กดดันกูจริงนะไอ้สาด
เออๆ ความจริงกูก็ไม่มีเรื่องไรจะพูดหรอกนะ แต่ในเมื่อมึงอยากรู้ขนาดนี้ กูจะยอมมีเพื่อมึงก็ได้
ไม่วายกวนตีน ทงเฮยกมือกอดอก ตาเขม็งมองเพื่อนที่หยุดพูดไปเพราะอาหารที่มาเสิร์ฟขัดจังหวะ คยูฮยอนมองจานอาหารน่าทานนิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
อย่าลีลา ทงเฮพูดดักไว้ก่อนเล่นเอาคนหล่อเสียเซลฟ์กันเลยทีเดียว รู้ทันกูขนาดนี้มาเป็นพ่อกูเถอะครับ
มึงนี่น้า โกรธที่หนูกลางไปไม่บอกก็อย่ามาพาลลงกับกูสิวะ คยูฮยอนบ่น
มึงรู้?
ทำไมจะไม่รู้ กูไปส่งพี่กูมา หนูกลางบอกกูหมดแหละ
บอกว่าไง? คำถามแฝงแววตื่นเต้น คยูฮยอนฟังแล้วอยากจะเอาตีนทแยงรูหูตัวเองจริงๆ ดูเอาเถอะ ขนาดโดนทิ้งกลางคัน มันยังไม่เข็ด สงสัยจะหลงพี่เขามากจริงๆ
ก็บอกว่ามึงหลับ เขาไม่ได้ปลุกเพราะมึงจะไม่ให้เขาไป แค่นั้นแหละ ร่างสูงยักไหล่พลางมองคนที่ซึมเงียบไปอีกหน
กูคงไม่สำคัญ ทงเฮเข้าโหมดตัดพ้อเล่นเอาคนฟังนี่ชักจะหมั่นไส้
คงงั้นว่ะ มึงเป็นแค่คนดูแลนี่หว่า ส่วนกูเป็นน้องสุดที่รักที่เลิฟเวรี่มัชเลิฟเลิฟ กูต้องสำคัญกว่ามึงอยู่แล้ว ขอทับถมแกมประชดซักหน่อยเถอะขอรับ เห็นหน้ามันแล้วขัดลูกกะตาจริงๆ
มึงจะต่อยกับกูกลางร้านเลยป่ะ? ทงเฮถามเสียงขุ่น ตาขวาง
โหดครับ โหดกับเพื่อนกับฝูงตลอด ทีกับพี่กูนี่หงอยเป็นลูกหมาโดนแม่ทิ้งเลย
ทงเฮไม่ได้ตอบโต้ ร่างหนาเพียงแค่เงียบและมองคยูฮยอนตาขวาง คาดว่าอีกไม่กี่นาทีคงมีมวยสวนลุมเกิดขึ้นกลางร้านอาหารแน่ๆ =_=
ดูแม่งมองกู ก็ได้ กูไม่เล่นแล้วก็ได้ คยูฮยอนยกธงขาว บอกเลยว่าไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากทะเลาะแล้วเสียเพื่อนก็เท่านั้นเอ๊ง (เสียงสูง)
แล้วบอสว่าไงอีก? ทงเฮถาม เขาอยากรู้เรื่องของฮยอกแจมากจริงๆ นะ อยากรู้ว่าคนตัวเล็กจะพูดถึงเขาอีกหรือเปล่า หรือว่าทิ้งแล้วทิ้งเลย
มึงอยากให้พี่กูว่าไงล่ะ? คยูฮยอนงง เขาก็แค่ไปส่งที่สนามบิน ไม่ได้ล่ำลาอะไรกันมากมายซักหน่อย ไอ้ทงเฮจะเอาอะไรนักหนาวะ
กูอยากรู้ว่าเขาพูดอะไรอีกหรือเปล่า?
ไม่อ่ะ ไม่ได้พูดอะไร
ซักนิดก็ไม่มี?
อือ ไม่มี คยูฮยอนส่ายหน้า ทงเฮเงียบ
เห้ย อย่าทำหน้างั้นดิวะ พี่กูไม่ได้พูดอะไรก็จริง แต่พี่กูก็พูดถึงมึงอีกนิดหน่อยนะ คยูฮยอนที่เห็นเพื่อนทำหน้าหมองแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้รีบบอก ทงเฮชะงักก่อนจะตวัดสายตามองคนตรงข้ามอย่างโมโห เดี๋ยวได้มีสปาเก็ตตี้ปลิวติดหน้าไอ้หลุมแถวนี้ เขารับรอง
มองกูงี้ กูไม่บอกแล้ว แต่ถ้ามึงอยากฟัง มึงต้องยิ้มให้กูดูก่อน ยิ้มสวยๆ นะ ดูมัน -_-
มึงเห็นหน้ากูล้อเล่นอยู่เหรอไอ้คยู ทงเฮเค้นเสียง คยูฮยอนหัวเราะ
เออๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้ หนูกลางฝากมาบอกมึงว่า... ขอโทษ
... ทงเฮนิ่งงัน สรุปคือเขาโดนทิ้งจริงๆ แล้วสินะ
อย่างที่มึงรู้ ย่ากูทำร้ายจิตใจหนูกลางมากเกินไป พี่กูก็คงต้องการเวลาเยียวยาตัวเองซักหน่อย เขาก็เลยเลือกที่จะไป
แต่ก็ไม่เห็นจะต้องไปไกลถึงขนาดนั้น ทงเฮคิด
มึงเข้าใจคำว่าต้องการเวลาใช่มั้ยทงเฮ... มันหมายถึงเขาอาจจะกลับมาหรือไม่กลับมาแล้วก็ได้ พี่กูเขาก็คิดอย่างนั้นเลยฝากกูมาขอโทษมึง แล้วก็ฝากมาบอกว่าในเมื่อเขาเป็นคนทิ้งมึงไปเอง เพราะงั้นมึงไม่ต้องรอเขา อยากมีเมียกี่คนก็จัดไปเลย ประโยคสุดท้ายเป็นกลลวงที่คยูฮยอนเสริมเอาเองแหละ สงสัยจะเป็นเพราะโรคหวงพี่แบบเรื้อรัง อิอิ
มึงพูดเหมือนรู้ว่ากูกับบอส...
อืม กูรู้ คยูฮยอนพยักหน้า กูรู้มานานแล้วด้วย แต่ไม่ต้องห่วง กูไม่ได้บอกพี่ฮีชอลหรือใครหรอก กูยังไม่อยากให้มึงตาย พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่ตั้งสั่นเอาไว้ขึ้นมาดู ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะกดรับ
ก็บอกว่าถ้ามาถึงแล้วค่อยโทร นี่จะรีบโทรมาทำไม กินข้าวอยู่ กรอกเสียงลงไปอย่างรำคาญเล็กน้อยๆ หากริมฝีปากกลับหยัดยิ้มเพราะปลายสายที่บ่นงุ้งงิ้งว่าคิดถึงอย่างนั้นคิดถึงอย่างนี้เล่นเอาใจคนฟังร่ำๆ อยากจะบินไปรับกลับมาฟัดด้วยตัวเอง
แน่ใจนะว่าขออนุญาตมาก่อนแล้ว ไม่ใช่ว่าพอฉันไปรับ เจอพี่นายถือปืนรอยิงกบาลอยู่ บอกเลยนะว่าฉันโกรธยันเกิดใหม่แน่ เอ่ยขู่ออกไปแต่ก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มอยู่ดี รู้สึกหัวใจกระชุ่มกระชวยบอกไม่ถูก กรึ๋ยๆ
อืม รู้แล้วน่า ไม่ลืมหรอกครับเมียทั้งคน แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกัน
มึงจะไปรับใคร? ทันทีที่คยูฮยอนวางสาย ทงเฮก็รีบเอ่ยปากถาม ร่างสูงกดยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาแพรวพราว ในหัวมีแต่หน้าเด็กชายตัวอวบที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะลอยมา ตั้งแต่วันที่เจ้าตัวเถียงกับหนูกลางไปวันนั้น คยูฮยอนก็โดนโทรจิกบอกให้ง้ออยู่ทุกวัน ถึงขนาดเอาตัวมาให้ง้อถึงที่ก็มี กว่าจะหายงอนนี่ก็เล่นเอาเขาแทบนอนตายเหมือนกัน เด็กบ้าอะไรก็ไม่รู้ ขยันหาคุกมาใส่หัวกูจริง
ไม่มีไรหรอก ก็แค่หมูอิมพอร์ตมาจากประเทศใกล้เคียงน่ะ บอกปัดไป หากเสียงหัวเราะมีเลศนัยจากเพื่อนสนิทก็ทำให้คยูฮยอนมองกลับอย่างฉงน
ลูกปืนมาเฟียมันไม่อร่อยหรอกนะคุณมึง ทงเฮพูดอย่างรู้ทัน คยูฮยอนชะงัก
มึงรู้?
ไม่ใช่มึงคนเดียวซักหน่อยที่รู้ทุกอย่างของกู ทงเฮยักไหล่ ถ้อยคำที่ตอบรับชัดเจนทำเอาคยูฮยอนได้แต่จิ๊ปากด้วยความขัดใจ ปิดมันไม่เคยได้ซักเรื่องสิน่า
มึงงาบน้องเขา ระวังถ้าเขารู้ เขาจะงาบพี่มึงกลับนะครับทงเฮเตือนด้วยความหวังดี (?)
โทษที พอดีกูมีด่านหน้าชื่อชเว ชีวอนว่ะ ไอ้คุณมาเฟียไม่มีทางฝ่าด่านตัดหน้าไอ้พี่ชีวอนไปได้หรอก ร่างสูงเอ่ยอย่างมั่นใจ ทงเฮหัวเราะในลำคอ นึกๆ ดูก็ตลก พี่ฮีชอลดุปานนั้นแต่ยังเสน่ห์แรงถึงขนาดมีผู้ชายมาตามจีบพร้อมกันถึงสองคน แม้แต่ไอ้คยูที่เห็นติ๊งต๊องงานการทำบ้างไม่ทำบ้างก็ยังอุตส่าห์มีเด็กตัวจ้อยมาหลงเสน่ห์มัน ส่วนอีกคน...
อะแฮ่มๆ มึงไม่ต้องเศร้าไปหรอกน่า คนที่ดีกว่าหนูกลางมีตั้งเยอะแยะ มึงก็เลือกๆ มาดามใจซักคนดิวะ คยูฮยอนที่เห็นเพื่อนทำหน้าหมองไปอีกรอบเอ่ยปากปลอบใจ ทงเฮตวัดตามองอีกฝ่ายตาเขียวปั๊ด
มึงจะบอกว่าพี่มึงไม่ดีว่างั้น?
ไฮ้~ ขอประทานโทษขอรับคุณมึง กูไม่ได้พูดแบบนั้นซักคำ ถ้าพี่กูไม่ดีแล้วโลกนี้จะมีใครดีอีก ฮี่โธ่
คยูฮยอนทำเสียงจิ๊จ๊ะ ไอ้ทงเฮกล้าใส่ร้ายเขาซึ่งหน้า หาว่าเขาบอกว่าหนูกลางไม่ดี ย๊า! คนรักพี่อย่างโจว คยูฮยอนเคยพูดแบบนั้นเหรอ ไม่มี้
เอาเหอะน่า คนเรานะถ้าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก ถ้าหนูกลางเขารักมึงจริง เขาก็ต้องกลับมาหามึงอยู่แล้ว แต่ว่าไอ้ที่ไปแบบไม่ลานี่มันทะแม่งๆ เนอะ ผิดคอนเซปต์เนื้อคู่พรหมลิขิตมาก กูว่ามึงทำใจไว้หน่อยก็ดีว่ะ
นี่กูพูดแบบเห็นใจมึงสุดๆ เลยนะ ขอบอก
ช่างเหอะ ก็ดีแล้วที่เขาไม่ลา เพราะไม่งั้นกูก็คงไม่ให้เขาไป ทงเฮถอนใจ เพิ่งรู้ตัวว่ารักฮยอกแจมากก็ตอนต้องจากกันนี่แหละ แต่อีกคนคงไม่รักเขาเท่ากับที่เขารักล่ะมั้ง ถึงได้ทิ้งกันไปง่ายๆ แบบนี้
ดีแล้ว มึงเป็นคนดีมากเพื่อนรัก คยูฮยอนชูนิ้วโป้ง
เพราะกูไม่ได้สมหวังกับพี่มึงสินะ มึงถึงชมกูแบบนี้ ไอ้ห่า -_- ทงเฮนึกด่าเพื่อนในใจ
ยังไงก็แล้วแต่ กูหวังว่ามึงจะไม่ร้องไห้ น้ำเสียงนุ่มฟังดูเป็นห่วงเป็นใย ทงเฮมองหน้าเพื่อน กำลังจะซึ้งอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่เป็นเพราะประโยคต่อมามันทำให้เขามือกระตุกอย่างอดไม่อยู่
เพราะถ้ามึงร้องไห้ กูคงไม่เสียสละเวลากกเมียเด็กของกูไปเช็ดน้ำตาให้มึง เข้าใจนะ
ตายซะเถอะ ไอ้เพื่อนเวร!

XXXXXXXX

แน่ใจนะว่ามึงโอเคอ่ะ
หลังจากแดกหัวกันในร้านอาหารไปเรียบร้อยแล้ว คยูฮยอนก็มายืนตีหน้ายุ่งอยู่กลางห้องของทงเฮ ร่างสูงมองคนที่เดินเข้าออกสำรวจความเรียบร้อยของห้องอย่างเป็นกังวล ใจจริงเขาก็เป็นห่วงคอาการของมันอยู่หรอก แต่จะให้มานั่งปลอบใจกันเหมือนเพื่อนผู้หญิงมันก็ไม่ใช่ อีกอย่างไอ้ทงเฮก็ไม่ใช่คนประเภทจะเล่าความรู้สึกส่วนตัวให้ใครฟังง่ายๆ ซะด้วย เพราะงั้นคยูฮยอนก็เลยได้แต่เอ่ยปากถามพอให้มันรู้ตัวว่ามันยังมีเขาคอยเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา
อืม กูไม่เป็นไร ทงเฮพยักหน้า ไม่ใช่ว่าทำใจได้แล้ว แต่เพราะทงเฮเข้มแข็งพอที่จะไม่ฟูมฟายบ้าบอไร้สาระ ในเมื่อหัวใจเขายังอยู่ดีเพียงแค่มันถูกขโมยไปอีกซีกโลกก็เท่านั้นเอง
มึงจะไม่ร้องไห้? คยูฮยอนนิ่วหน้า ยังไม่วางใจเท่าไหร่
เออ
มึงจะไม่กินเหล้าประชดรัก?
เออ
มึงจะไม่ทำตัวซึมเศร้าเหมือนผีดิบซอมบี้?
เออ
มึงจะไม่น้อยใจโชคชะตา?
เออ
มึงจะไม่ฆ่าตัวตาย?
เออ กูจะไม่ฆ่าตัวตาย แต่กูจะฆ่ามึงนี่แหละ!” ว่าจบก็ยกเท้าเตะไอ้หลุมนี่ไปแรงๆ หนึ่งที คยูฮยอนแกล้งทำสำออยร้องโอดโอย หน้าตามีจริตจะก้านแบบสุดๆ
มึงทำงี้กับกูเหรอ กูอุตส่าห์เป็นห่วงมึงนะเว้ย!”
            บ้านกูเรียกกวนตีนไอ้สัด ทงเฮด่า คยูฮยอนทำปากยื่น ก่อนจะตวัดค้อนให้วงโต
            เมียมึงรู้ป่ะเนี่ยว่ามึงเป็นตุ๊ดหลบใน? ทงเฮถามอย่างขำๆ อารมณ์หม่นหมองถูกแทนที่ด้วยความสบายใจ บางทีไอ้คยูก็ใช้งานได้เหมือนกันนะเนี่ย
            ปากดีแบบนี้แสดงว่าโอเคแล้วใช่มั้ย? คยูฮยอนไม่ได้โต้กลับ ร่างสูงยิ้มมองทงเฮที่พยักหน้าตอบอย่างเนือยๆ
            กูก็ไม่ได้เป็นไรมากซักหน่อย
            อวดเก่งว่ะ แต่ก็ดีแล้ว กูไม่อยากเห็นมึงเศร้า ขี้เกียจโทรไปโวยใส่หนูกลาง เดี๋ยวแม่งจะหาว่ากูรักเพื่อนมากกว่าพี่อีก ร่างสูงพูด แอบขำนิดหน่อยตอนเห็นดวงตาของคนตรงหน้าวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างสนใจ
            มึงมีเบอร์โทร?
            อ่าฮะ ก็ต้องมีน่ะสิ กูเป็นน้องเขานะ ทำไม มึงอยากได้เหรอ? คยูฮยอนยิ้มกวน
            มึงจะให้ป่ะล่ะ?
            ถึงมึงไม่เอา กูก็ต้องให้ว่ะ เบื้องบนเขาสั่งมาแบบนั้นนี่นา คยูฮยอนว่าพลางหยิบเบอร์โทรที่จดเตรียมไว้ยื่นให้เพื่อน
            ไอ้เหี้ย แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่บอกกู!” ทงเฮดีใจจนแทบบ้า มือใหญ่รับกระดาษแผ่นเล็กมาถือไว้ อยากจะโกรธคยูฮยอนอยู่เหมือนกันที่ทำเงียบปล่อยให้เขาหลงนึกไปเองว่าอีกฝ่ายทิ้งกันแบบไม่มีเยื่อใย เตะแม่งอีกซักทีดีมั้ยเนี่ย
            หมั่นไส้ เหตุผลน่าตบมาก คยูฮยอนมองสีหน้าดีใจของเพื่อนอย่างยินดี เขาหวงพี่ก็จริง แต่ถ้าเพื่อนมันทำให้พี่เขามีความสุข คยูฮยอนก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะให้หวงอีกแล้ว
            แต่มึงมั่นใจได้ยังไงว่าถ้ากูโทรไปแล้วพี่มึงจะยอมรับสาย ทงเฮยังไม่วายเป็นกังวล
            ก็เขาสั่งให้กูเอาเบอร์ให้มึงแบบนี้แล้วทำไมเขาถึงจะไม่รับสายมึงล่ะวะ คยูฮยอนไม่เข้าใจ มึงอย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงอารมณ์แปรปรวนต้องตั้งท้องได้ป่ะวะ กูตามไม่ทันนะเห้ย
            นั่นสินะ ร่างหนาหัวเราะเสียงแผ่ว หากดวงตากลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ
            อย่าคิดมากเลยน่า ถ้าหนูกลางไม่รักมึง เขาคงไปแบบไม่ทิ้งอะไรไว้ให้มึงแบบนี้หรอก คยูฮยอนปลอบ แรกๆ ก็หวงพี่อยู่หรอก แต่ตอนนี้ชักห่วงเพื่อนแทนซะแล้วสิ ปากยิ้มตาเศร้า อาการหนักแล้วนะเนี่ย
เอางี้ ถ้าวันไหนพี่กูกลับมาหามึงจริง วันนั้นกูจะเรียกมึงว่าพี่เขย โอเคป่ะ?
คำพูดที่ทำให้ทงเฮเหล่ตามองเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจ มึงจะมาไม้ไหนอีกล่ะไอ้เด็กหวงพี่
เฮ้ย กูพูดจริง กูท้าพนันกับมึงเลยก็ได้ กูมั่นใจว่าหนูกลางจะต้องกลับมา
...
แล้วถ้าวันไหนที่หนูกลางกลับมา กูจะเรียกมึงว่าพี่เขย มึงจำคำกูไว้เลย!”

XXXXXXXX

            ผ่านไปสามเดือนแล้วที่ทงเฮกลับมาอยู่ที่คอนโดของตัวเอง ชายหนุ่มไล่สายตามองประกาศรับสมัครทำงานในหนังสือพิมพ์ที่ซื้อติดมือมาเมื่อตอนกลางวันอย่างขะมักเขม้น ใบหน้าหล่อแลดูจริงจัง ถึงเงินเดือนคนดูแลจะมากพอที่จะทำให้เขาอยู่แบบสบายๆ ได้อีกหลายเดือน แต่ทงเฮก็ยังอยากจะหางานทำอยู่ดี เขาเบื่อกับการที่จะต้องอยู่เฉยๆ เพราะช่วงเวลาว่างเหล่านั้นมักจะทำให้เขาเผลอนึกถึงคนตัวบางหน้าหวานช่างยั่วคนนั้นอยู่เสมอ
            ดวงตาคมละสายตาจากตัวหนังสือตรงหน้าเหม่อมองกระดาษแข็งแผ่นเล็กที่วางอยู่ไม่เคยห่างกาย หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนนั้นทำให้ใจดวงแกร่งสั่นไหวทุกครั้งที่ได้มอง เขาอยากโทรไปแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีคนรับ หรือถ้ามีคนรับแล้วจะใช่คนที่เขาอยากคุยด้วยหรือเปล่า
            เป็นครั้งแรกที่ทงเฮรู้สึกลังเลมากขนาดนี้
            นิ้วเรียวเลื่อนไปมาบนหน้าจอโทรศัพท์ คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างคนคิดหนัก เขาไม่รู้ข่าวคราวของฮยอกแจอีกเลย พอคิดจะถามไอ้เพื่อนตัวแสบ ทงเฮก็ไม่รู้ว่ามันได้คุยกับพี่มันบ้างหรือเปล่า ทุกวันนี้แม่งติดเมียเด็กยิ่งกว่าอะไรดี
            เฮ้อ เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ ทงเฮมองหน้าจอที่โชว์ว่ากำลังโทรออก ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขากดโทรออกไปตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ นิ้วเรียวทำท่าว่าจะกดวางสาย หากเสียงเรียกร้องในจิตใจกลับสั่งให้หยุด
            ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากัน ยามที่ไอโฟนเครื่องสวยถูกยกขึ้นแนบหู ลมหายใจอุ่นขาดห้วงด้วยความตื่นเต้น ปลายสายไม่มีทีท่าว่าจะกดรับ แต่ทงเฮรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ ถึงไม่ได้เห็นหน้า แต่ขอแค่ได้ยินเสียงหวานๆ ซักครั้งเขาก็พอใจแล้ว
            กึก!
            สัญญาณรอสายหยุดไปบอกให้รู้ว่ามีคนรับแล้ว ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มยินดี แต่ทว่า...
          [Hello~ สวัสดีครับ]
                                                                    
            เสียงผู้ชาย... ร่างหนานิ่งงัน กวาดตามองตัวเลขบนกระดาษ ก่อนจะมองหน้าจอตัวเองอีกครั้ง เขาไม่ได้โทรผิดใช่มั้ย?
            ใช่เบอร์ของฮยอกแจหรือเปล่าครับ? กรอกเสียงลงไปเมื่อได้ยินปลายสายเอ่ยทักทายเป็นภาษาเกาหลีกลับมาอีกหน        

          [ใช่ครับ แต่ว่าตอนนี้เขาหลับอยู่ คุณมีธุระด่วนหรือเปล่า ฝากผมไว้ก่อนก็ได้นะครับ]

            “...

            [Hello~ ยังอยู่หรือเปล่าหรือจะให้ผมปลุก...]

            “ไม่ต้องครับ ไม่เป็นไร ทงเฮปฏิเสธ ลำคอขมปร่าเพราะความผิดหวังที่เข้ามาจุกแน่นอยู่ในอก คนปลายสายตอบรับก่อนจะบอกเวลาที่เขาควรโทรมาใหม่อีกครั้ง ทงเฮฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะตอนนี้จิตใจของเขาล่องลอยไปกับสิ่งที่ได้ยิน
           
            เขาหลับอยู่... ฝากผมไว้ก่อนก็ได้...

หึ ให้ตายเถอะ ทงเฮแค่นหัวเราะพลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแรงๆ รู้สึกได้ว่าขอบตามันร้อนผ่าวไปหมด ถ้าไม่ใช่คนสนิทกันก็คงไม่มีสิทธิ์อยู่ใกล้ชิดและรับโทรศัพท์ส่วนตัวของกันได้ เพราะอย่างนี้สินะ ฮยอกแจถึงอยากกลับอเมริกานัก
 ให้ตาย เขานี่มันบ้าชะมัด หวังแล้วหวังอีก ไม่เข็ดซักที
                       



1 ความคิดเห็น: