วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[5]_____PARTY NIGHT W/ MY SEXY BOSS






            “พี่กูล่ะ?
            คฤหาสน์ตระกูลโจวกว้างใหญ่ไม่แพ้คฤหาสน์อีกสองแห่งที่ตั้งอยู่ในเนื้อที่เดียวกัน โจว คยูฮยอนทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามเพื่อนสนิทของตัวเอง เสื้อผ้าหน้าตาที่ดูสดชื่นกว่าเมื่อตอนเช้ามากนักทำให้รู้ว่าชายหนุ่มร่างสูง ท่าทางทะเล้นคนนี้ได้ใช้เวลาพักผ่อนเต็มที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากทรหดอดทนเล่นเกมออนไลน์ติดต่อกันมานานหลายวัน
            นอน ทงเฮตอบสั้นๆ พลางเผลอนึกไปถึงคุณเจ้านายที่พอได้หาเรื่องกลั่นแกล้งเขาสมใจแล้ว เจ้าตัวก็บอกแค่เพียงว่าจะพักผ่อน ห้ามใครรบกวนและอนุญาตให้เขาทำอะไรก็ได้ตามต้องการ
            คำสั่งที่ไม่เคร่งครัด แถมยังดูสบายเกินควรสำหรับหน้าที่ของเขา ทำให้ทงเฮจำต้องผละออกมา แม้จะมีตัวเควสชั่น มาร์คติดหราอยู่กลางหน้าผากก็เถอะ
            บทจะปล่อย ก็ปล่อยง่ายๆ ซะจนกูไปไม่ถูก แต่บทจะแกล้ง ก็แกล้งซะจนกูแทบจะบ้าตายเหมือนกัน -_- แปลกคนดีจริงๆ ไอ้เจ้านายคนนี้
            อืม คยูฮยอนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะถามต่อ แล้วมึงอ่ะ?
            อะไร? ทงเฮงง
            มึงอ่ะ เป็นไงบ้าง? คยูฮยอนถามย้ำ กระแสเสียงที่แม้จะแฝงแววเป็นห่วงเพื่อน แต่ก็มีความอยากรู้ปะปนอยู่อย่างปิดไม่มิด
            ไม่เป็นไง ก็อย่างที่มึงเห็น ทงเฮยักไหล่ ทำทีว่าตัวเองสบ๊าย สบายมากๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น =_=
            “ห๊า? มึงไม่เป็นอะไรเลยเหรอ? ไม่โดนอะไรเลยเหรอ?
คยูฮยอนตาโต ประหลาดใจที่ทงเฮมีความสามารถพิเศษรับมือพี่ชายของเขาได้อยู่หมัด ปกติ สถิติขับไล่คนดูแลของหนูกลางทำได้เร็วที่สุดใน 3 ชั่วโมงนี่นา แต่กับไอ้ทงเฮ นอกจากจะปลอดภัย (?) ไร้กังวลแล้ว มันยังดูหน้าตาแจ่มใสแปลกๆ อีกต่างหาก
อะไรวะ? หนูกลางถอดใจแล้วงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ด๊ายยยยยยยยยยยยย คยูฮยอนบ่าเจื้อออออออ*
มึงหมายความว่ายังไง?
ทงเฮแกล้งทำสีหน้าสงสัย เขาไม่มีทางบอกไอ้คยูหรอกว่าตัวเองโดนปู้ยี่ปู้ยำยังไงบ้าง ไม่ใช่ว่ากลัวไอ้คยูจะด่าหาว่าเขาปรักปรำพี่มัน แต่เขาแค่ไม่อยากให้ใครรู้ต่างหากว่าตัวเองพลาดพลั้งให้คุณเจ้านายเอาเปรียบ ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่
เสียเชิงชายไม่พอ แถมยังเสียหน้าอีก รู้ถึงไหนอายถึงนั่นอ่ะ! ฮึก T^T
กูก็หมายความว่ามึงไม่โดนหนูกลางไล่ออก หรือแกล้งอะไรเลยหรือไงวะ คยูฮยอนยังคงไม่หายสงสัย ทงเฮสะดุ้งเล็กน้อยกับสายตาเพื่อนที่มองมาเหมือนจับผิด ใบหน้าหล่อเหลาส่ายหวือปฏิเสธทันทีทันใด
ไม่... ไม่โดนนี่... ทำ... ทำไมวะ มึงอยากให้กูโดนพี่มึงไล่ออกเหรอ? ตอบคำถามด้วยอาการร้อนรนแปลกๆ แต่ก็ไม่ลืมกลบเกลื่อนด้วยการถามกลับ คยูฮยอนที่ได้ยินดังนั้น จึงรีบโบกไม้โบกมือเป็นการใหญ่
ม่ายยยยยย ไม่เลย เพื่อนรัก มึงไม่โดนอะไรก็ดีแล้ว กูไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เป็นห่วงมึงที่เมื่อวานมึงโดนหนูกลางดึงตัวไป โธ่ เพื่อนรัก ตอนนั้นอ่ะนะ กูใจหายใจคว่ำหมด มึงรู้ป่าว
คยูฮยอนเอื้อมมือมาตบบ่าเพื่อนดังปุๆ ท่าทางเห็นอกเห็นใจจนทงเฮอดซาบซึ้งไม่ได้
ห่ะ ซาบซึ้ง?
ซาบซึ้งกับแป๊ะอะไรล่ะครับ!
ตอแหลหน้าด้านๆ เลยนะ ไอ้ควาย!” ทงเฮว่าอย่างเคียดแค้น
ทำมาพูดว่าเป็นห่วงกู มึงนั่นแหละที่ดันกูไปหาพี่มึง กูจำได้ ไอ้เชี่ยหลุม!”
ง่า กูเหรอ? คยูฮยอนทำหน้าเหลอหลา อะไร๊ สุดหล่อคยูไม่เคยทำอย่างน้าน สุดหล่อคยูรักเพื่อนห่วงเพื่อนทงเฮจะตายไป๊~ ไม่เค๊ย ไม่เคย ทิ้งเพื่อนไว้กับปากเหยี่ยวปากกา ไม่เคยเลยจริงจริ๊ง~ >_< (เสียงสูงแทบทุกพยางค์ -_-)
เออ ก็มึงนั่นแหละ ยังมีหน้ามาทำหน้าซื่อตา... ใส!” ลงเสียงหนักพร้อมฟาดฝ่ามือลงกลางกบาลเพื่อนหนักๆ อีกหนึ่งที
ป้าบ!
            โอ๊ยยยยยยย กูเจ็บนะ ไอ้เบิร์ด!” คยูฮยอนร้องลั่น
            เบิร์ดอะไรของมึงทงเฮถามอย่างหาเรื่อง
            เบิร์ด ธงชัย
            “มุขควายมาก กูชื่อทง... เฮ!”
            ป้าบ!
            โดนไปอีกหนึ่งดอกเน้นๆ
            คยูฮยอนกุมหัวตัวเอง ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นพล่านไปถึงเซลล์สมอง เชี่ยเตี้ยล่ำ มือหนักชิบหาย รอยหยักในสมองกูหายหมดแล้วมั้งเนี่ย! T-T
            “ไม่ต้องมามองกูแบบตัดพ้อ กูไม่สงสารมึงหรอกทงเฮถลึงตาใส่คนที่ทำเป็นมองค้อนเขาตาคว่ำ
            ใจไม้ไส้ระกำ ฮึก คยูฮยอนแสร้งเบะปากอย่างมีจริต แต่แล้วก็ต้องผงะ เพราะฝ่ามือหนาที่เงื้อขึ้นอีกครั้ง
            “จะเอาอีก?
อุ๊ยแหม สองทีพี่ก็จำแล้วจ๊ะ น้องจ๋า
ร่างสูงหัวเราะเสียงแห้ง หยุดอารมณ์กวนโมโหเพื่อนไว้แต่เพียงเท่านี้ ด้วยรู้จักนิสัยกันดีว่าถ้าล้อเล่นมากไป แล้วไอ้ทงเฮได้กริ้วขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ เขาได้ตายคาตีนมันแน่ๆ
น่ากลัวอย่าบอกใคร บรื๋อ~
ว่าแต่มึงไม่โดนหนูกลางไล่จริงๆ เหรอวะ? หยุดทำท่าทะเล้นพลางเอ่ยถามเพื่อนด้วยท่าทางอยากรู้สุดๆ ทงเฮถอนหายใจยาว
โดนสิ ตอบให้อีกคนหายข้องใจ คยูฮยอนตาโต แต่ยังไม่ทันได้ถามต่อ อีกคนก็เอ่ยปากบอกเสียก่อน
แต่กูปฏิเสธไปแล้ว กูบอกเขาว่ากูรับเงินเดือนจากพี่ฮีชอล ไม่ได้รับเงินเดือนจากเขา กูออกไม่ได้
ว้าว~ *O*”
เขาเลยบอกว่าจะให้ทุกอย่างที่กูอยากได้ แต่กูไม่เอา
เจ๋งสัด~ *O*”
ตอนแรกเขาก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เหมือนกันอ่ะนะ แต่กูทำใจกล้าหน้าด้าน ไล่ไม่ไป ให้ไม่เอา เขาก็เลย...
เลย? คยูฮยอนถามเบาๆ ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่หรอก ไม่เล้ยยยยยยยยยยยยยย


            ...


            “...


            ...


            เลยอะไรวะ ไอ้ทงเฮ!” ร่างสูงทนไม่ไหว เร่งอีกคนที่อยู่ๆ ก็เงียบไป ใบหน้าของเพื่อนรักที่อยู่ๆ ก็แดงขึ้นมาซะเฉยๆ ทำให้คยูฮยอนปกปิดความอยากรู้ของตัวเองไว้ไม่ไหว
ทงเฮเองก็เหมือนได้สติ ร่างหนาหันไปมองเพื่อนรักที่ยื่นหน้ามาใกล้ เพื่อรอฟัง ก่อนจะยกมือดันใบหน้านั่นออกไปห่างๆ
            เขาเลยไม่พูดอะไรอีก แล้วกูก็เลยออกมา กล่าวปดไปอีกอย่างพร้อมเบือนหน้าหลบสายตาของคยูฮยอนที่จ้องมาเขม็ง
            จริงนะ คนหล่อถามเสียงเข้ม
            เออ ทงเฮพยักหน้า
            จบแค่นั้นจริงเหรอ? แววตาเหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อ ทงเฮลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะแกล้งโวยวายเสียงแข็งขึ้นมา
            โว๊ะ อะไรของมึง ถามกูอย่างกับเมียจับผิดผัวงั้นแหละ
            เอ้า ก็กูไม่อยากเชื่ออ่ะ คนอย่างมึงเนี่ยนะที่หนูกลางจะยอมปล่อยให้เป็นคนดูแลง่ายๆ ด้วยความเต็มใจ มันแปลก... แปลกมากจริงๆ
คยูฮยอนครุ่นคิด คิ้วเข้มขมวดจนแทบจะผูกเป็นโบว์กับเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้น เขารู้จักนิสัยของทงเฮดี ถ้าไม่นับเรื่องชอบทำร้ายร่างกายกับด่าเขา ไอ้ทงเฮก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่านิสัยดีโคตรพ่อโคตรแม่ ทั้งให้เกียรติผู้หญิง เป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจ ไม่ลวนลามใครก่อน (แต่ถ้าเป็นผู้หญิงโสด แถมยังเข้ามาอ่อยก่อน อันนี้ต้องคิดดูอีกที) จิตใจดี รักสัตว์ รักเด็ก ใจเย็น มีเหตุผล อดทนสู้งาน ขยัน โอ๊ย สารพัดที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดีได้อ่ะ
ตรงกันข้ามกับหนูกลางของเขา ราวเทวดากับนางมารร้ายที่สอง (ที่หนึ่ง ขอยกให้พี่ฮีชอล)
แต่จะว่าไป ความจริงแล้ว คยูฮยอนก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกว่ารู้จักพี่ชายตัวเองดีพอ เพราะระยะทางที่ห่างกันมา ตั้งแต่เมื่อ10 ปีก่อนที่ฮยอกแจหนีไปเรียนต่อเมืองนอก มันทำให้เขาจำความน่ารักของฮยอกแจได้เพียงแค่วัยเด็ก
นางฟ้าตัวน้อย
ใครๆ ก็เรียกฮยอกแจแบบนั้น... แต่อะไรกันนะที่ทำให้นางฟ้าของเขากับพี่ฮีชอลหายไป กลายเป็นนางมารตัวน้อยที่เอาแต่เรียกร้องความสนใจด้วยวิธีแปลกๆ
ไอ้คยู
อืม
ไหนๆ กูก็ไม่มีอะไรทำแล้ว กูอยู่กับมึงก็แล้วกันนะ ทงเฮเอ่ยพลางลุกขึ้นยืน เตรียมขึ้นไปถล่มห้องนอนเพื่อนรักให้ย่อยยับกันไปข้าง หลังจากที่ร้างรา ไม่ได้มาเสียนาน คำพูดที่ทำให้คยูฮยอนหลุดออกจากความคิดของตัวเองและลุกตาม
อ้าว แล้วมึงไม่ต้องไปดูแลพี่กูเหรอ? เฮ้ยๆ อย่ามองกูแบบนั้น กูไม่ได้จะยัดเยียดมึงให้หนูกลาง แต่ว่าถ้าเกิดหนูกลางหาเรื่องอาละวาดไล่มึงออกขึ้นมา กูไม่รู้ด้วยนะ ปากพูดแบบนั้น แต่แขนยาวกลับโอบบ่าเพื่อนพร้อมดันให้เดินไปด้วยกัน
สมมติพี่มึงทำแบบนั้นจริง มึงจะยอมให้กูออกเหรอ? ถามเสียงกลั้วหัวเราะอย่างรู้ดีว่าคำตอบเป็นเช่นไร
ไม่มีทาง! ถ้ามึงยังเป็นเพื่อนกู มึงห้ามย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อนรัก คยูฮยอนพูดจาเสียงหนักแน่น ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้ไอ้ทงเฮทิ้งหน้าที่นี้ไว้ให้เขารับผิดชอบต่อเด็ดขาด อุตส่าห์หาคนมารับแทนได้แล้วทั้งที เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเอาเวลาทั้งหมดไปตามติดอยู่กับพี่ชายตัวเองด้วยวะ ไม่เอาหรอก -_-
หึ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกังวลน่า พี่มึงบอกกูไว้แล้วว่าอยากทำอะไรก็ได้ วันนี้เขาไม่ไปไหน ทงเฮบอกตามคำสั่งที่ได้รับมา เท้าหนาก้าวตามคยูฮยอนขึ้นไปชั้นบน หากในใจกลับเผลอกระหวัดนึกถึงคนออกคำสั่งที่ตอนนี้คงนอนอุตุอยู่ในห้อง
ก็หวังว่าจะไม่ไปไหนอย่างที่บอกล่ะนะ ไม่งั้น เขาคงได้หัวหมุนตามหาคุณเจ้านายตัวดีเป็นรอบที่สองของวันอีกแน่ -_-




XXXXXXXX





ไอ้ทงเฮ... ทงเฮเว้ย!”
เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทงเฮจำต้องเปิดเปลือกตาตัวเองขึ้นมอง ก่อนที่เรือนร่างกำยำจะพลิกหลบฝ่าเท้าหนาที่เหยียบลงมาได้ทันท่วงที
ไอ้เชี่ยคยู! ไอ้เหี้ย ทำอะไรวะ!” ลุกขึ้นมาด่าเพื่อนเสียงดังลั่น ฝ่ายคยูฮยอนที่พอเห็นทงเฮตื่นเต็มตา ก็แทบจะโห่ร้องด้วยความดีใจ
นึกว่าจะไม่ตื่นแล้ว ไอ้เตี้ยเอ๊ย! งานเข้ามึงแล้ว รู้ตัวไหม!?
งานอะไรของมึง! แล้วปลุกกูดีๆ ไม่ได้รึไง แม่ง ถ้ากูตื่นไม่ทัน มึงคงเหยียบลงมาเต็มหน้ากูเลยสินะ
ทงเฮหงุดหงิด มือใหญ่เสยผมยุ่งๆ ของตัวเอง ก่อนจะปรายตามองเพื่อนร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
เป็นอะไร? เอ่ยถามอย่างสงสัย คยูฮยอนเบะปาก เหมือนจะร้องไห้ แต่ทงเฮรู้ดีว่าแม่งก็ดัดจริตไปงั้นแหละ ไอ้เชี่ยนี่ ไว้ใจอะไรไม่ได้หรอก ดูอย่างวิธีปลุกของมันเมื่อกี้ แค่เล่นเกมแล้วเผลอหลับไป ไอ้ห่า เล่นจะเอาตีนทาบหน้ากู สารเลวซะไม่มี -_-
กูเป็นห่วงมึง คยูฮยอนพูด โธ่ ไอ้เพื่อนเลว ความเป็นห่วงมึง มันน่าเอานิ้วทั้งห้าไปประทับบนหน้ามาก
เอาดีๆ ทงเฮเท้าสะเอว โดนปลุกตอนกำลังหลับสบาย มันไม่ตลกนะครับ ยิ่งเขาเป็นพวกชอบอารมณ์เสียตอนตื่นด้วยแล้ว แน่นอนว่าไอ้คยูมันรู้นิสัยข้อนี้ของเขาดี มันเลยเปลี่ยนจากท่าทางเสแสร้ง มาเป็นสีหน้าจริงจังแทน
มึงมีปัญหาแล้ว
หือ? ทงเฮเลิกคิ้ว
เมื่อกี้ป้าซังอาโทรมาบอกกูว่าหนูกลางเพิ่งขับรถออกไปข้างนอกคยูฮยอนทำหน้ายุ่ง
อือ แล้ว? ทงเฮไม่เข้าใจ เจ้านายเขาออกไปข้างนอก โอเค เขารับรู้ แล้วยังไงล่ะ?
แล้วเหี้ยอะไร! ก็มึงเป็นคนดูแลมัน มึงต้องตามไปคุมประพฤติมันไง จำไม่ได้เหรอวะ? คยูฮยอนโวยวาย ทงเฮที่ยืนเอ๋อเลยได้สติ เบิกตากว้างอย่างตระหนก ก่อนจะรีบก้าวไปที่ประตู แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักและหันกลับมา
แล้วกูจะไปตามพี่มึงได้ยังไงล่ะ กูไม่รู้ว่าเขาไปไหนนี่หว่า
ไม่รู้ล่ะ มึงเอารถกูไปหามันที่ผับ คลับ บาร์อะไรก็แล้วแต่แถวๆ ชองดัมก่อน กูจะช่วยโทรหาให้อีกที ถ้าได้เรื่องแล้วจะโทรบอก
โอเค ทงเฮพยักหน้า ก่อนจะพุ่งตัวออกไป สักพัก คยูฮยอนก็ได้ยินเสียงรถคันโปรดของตัวเองแล่นออกจากบริเวณบ้านไปอย่างรวดเร็ว




XXXXXXXX




รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้าจอดบริเวณผับไฮโซ เสียงเพลงที่ดังสนั่นออกมาถึงข้างนอกทำให้คนขับรถที่ก้าวเท้าลงมาได้แต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่ชอบใจ ดวงตาคมก้มมองข้อความในโทรศัพท์ที่เพิ่งถูกส่งมาถึง หลังจากที่เขาขับรถออกมาได้ไม่ถึงสิบนาที อ่านตัวอักษรที่บอกชื่อสถานที่และสายถนนเสร็จ เจ้าตัวก็แหงนหน้ามองป้ายไฟอันใหญ่ที่ติดไว้เหนือร้าน
หวังว่าจะใช่ล่ะนะ พึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยตัวเองเป็นคนที่ไม่ชอบเที่ยวกลางคืนสักเท่าไหร่ ทำให้ทงเฮไม่ค่อยมั่นใจว่าจะมาถูกที่ แต่ในเมื่อข้อความของเจ้านายตัวดีระบุมาแบบนั้น เขาจะทำอะไรได้ นอกจากต้องมาตามคำสั่ง
รองเท้าหนังราคาแพงที่ได้รับมา เป็นอภินันทนาการจากบอส สำหรับทำงานวันแรกค่อยๆ ก้าวตรงไปยังประตูทางเข้า ท่ามกลางสายตาจับจ้องด้วยความสนใจจากเหล่าชายหญิงที่เกาะกลุ่มกันอยู่บริเวณด้านหน้าร้าน ทงเฮโปรยยิ้มให้ทุกคน ตามประสาคนอัธยาศัยดี โดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มตัวเองนั้นกลับทำให้คนที่ได้รับพากันมองตามหลังเขาด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มเพียงใด
ภายในผับหรูเต็มไปด้วยเสียงเพลงจังหวะสุดมันส์และนักท่องราตรีที่ต่างพากันวาดลวดลายตามใจตัวเอง จำนวนคนที่มีมากจนถึงขั้นแออัดทำให้ทงเฮที่ตั้งใจจะตามหาฮยอกแจให้เจอโดยเร็วที่สุด จำต้องล้มเลิกความคิดนั้นชั่วขณะ
โอ๊ะ ขอโทษครับ เอ่ยขอโทษขอโพยสาวน้อยนางหนึ่งที่เขาเผลอถอยหลังไปชนเข้า หากเจ้าหล่อนกลับไม่มีท่าทีโกรธขึ้ง นอกจากรอยยิ้มหวานที่ถูกส่งมาให้เป็นสะพานผูกมิตร
ไม่เป็นไรค่ะ มาคนเดียวเหรอคะ?
ครับ ผมมาคนเดียว ทงเฮตอบยิ้มๆ สายตาคมมองสำรวจรอบตัวอีกครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มหล่อจะถูกแจกจ่ายไปทั่ว เมื่อเห็นสายตาเชิญชวนของหญิงสาวหลายคน
ฮเยจินก็มาคนเดียวเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่รังเกียจ นั่งดื่มเป็นเพื่อนฮเยจินหน่อยได้ไหมคะ? สาวน้อยเอียงคอถาม ฟันซี่เล็กขบริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้อย่างยั่วยวน ทงเฮยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมที่มักแฝงแววหวานซึ้งฉายประกายแพรวพราว จนคนถูกมองเผลอหน้าแดง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
บังเอิญว่าผมมีธุระสำคัญต้องไปทำ คงอยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ ริมฝีปากหยักเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา นิ้วเรียวยกเกลี่ยปอยผมนุ่มที่ตกระข้างแก้มให้สาวน้อยนามฮเยจินที่ทำหน้าเคลิบเคลิ้มไปถึงไหนต่อไหน ก่อนที่ร่างหนาจะเป็นฝ่ายผละออกไปอย่างรวดเร็ว
งั้นถ้าอยู่เป็นเพื่อนน้องคนนี้ไม่ได้ ก็ไปแด๊นซ์กับฉันละกันนะคะ
ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหน แผงอกแกร่งก็ถูกอกอึ๋มๆ เข้าเบียด พร้อมกับวงแขนเล็กที่ฉวยโอกาสคล้องแขนเขาและพาดึงออกไปยังฟลอร์เต้นรำ
เอ่อ... คุณครับ ผมมีธุระ...



Come here rude boy boy
Can you get it up?
Come here rude boy boy
Is you big enough?
Take it, take it baby, baby
Take it, take it love me, love me



เสียงทุ้มกลืนหายไปกับเสียงเพลงจังหวะเร้าอารมณ์ มือใหญ่ทั้งสองข้างถูกจับวางลงบนสะโพกแน่นตึงเปรี๊ยะของอีกฝ่าย ดวงตาคมเฉี่ยวด้วยอายไลเนอร์ช้อนมองใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มมองตัวเองอยู่เหมือนกัน ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะกดยิ้มน่ารักให้ทงเฮเผลอยิ้มตอบอย่างลืมตัว
เรือนร่างของชายหญิงโยกย้าย บดเบียดกันตามสัญชาตญาณ มีหลายครั้งที่หญิงสาวหมุนสะโพกดันบั้นท้ายกลมของตัวเองเข้าเสียดสีกับช่วงล่างของทงเฮ จนเขาร้อนผ่าวไปทั้งร่าง แถมยังทำให้ไอ้ที่ควรจะอยู่อย่างสงบ กลับกลายเป็นว่าใกล้ตื่นขึ้นเต็มทน
สัด เอ็กซ์สุดยอด!
ถ้าเพลงนี้จบแล้ว เราไปต่อกันได้ไหมคะ? ริมฝีปากสวยยื่นมากระซิบริมหู ทงเฮกดยิ้ม หากยังไม่ทันได้ตอบอะไร หางตากลับเหลือบไปเห็นร่างบอบบางของฮยอกแจคลอเคลียกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ไม่ห่าง
เฮ้ย บอส!
...!!!”
ดวงตาคมเบิกโพลง เมื่อเห็นใบหน้าหวานที่วันนี้ถูกแต่งแต้มด้วยอายไลเนอร์สีเข้ม เรียวปากสีชมพูอ่อนแวววาวด้วยลิปกลอส แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ด้วยเป็นเพราะพิษของแอลกอฮอล์ที่เจ้าตัวดื่มไปพอสมควร อีกทั้งลีลาท่าทางการเต้นของฮยอกแจที่ดูยั่วยวน เซ็กซี่และเร่าร้อนสุดขีด จนทำให้ผู้ชายหลายคนบริเวณนั้น ต่างพยายามขยับเข้ามาใกล้
ไม่เว้นแม้แต่เขาที่เพียงแค่มองดูห่างๆ ก็ถึงกับ... ซี้ดตรงกลางลำตัว
ให้ตายเหอะ แม่คุณ!!
อ่า... อี ฮยอกแจ เสียงผู้หญิงที่เขาเต้นด้วยพึมพำเบาๆ ทงเฮหันกลับมาและถามเจ้าหล่อนอย่างสงสัย
คุณรู้จักด้วยเหรอครับ?
ก็พอรู้จักค่ะ เขาหน้าตาดี มีเสน่ห์ด้วย ออกเที่ยวทุกคืน แล้วก็... มีเรื่องทุกคืน คำสุดท้ายสาวเจ้ากระซิบให้เขาฟังเบาๆ ทงเฮตวัดสายตามองคนเจ้าเสน่ห์อีกครั้ง ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เพราะดวงตาเรียวรีที่หันมาสบตากับเขาจังๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารามตกใจ หรือเพราะอาการใจเต้นระรัวที่เกิดจากรอยยิ้มมุมปากของเจ้านายคนสวย ทงเฮถึงได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่ ยามที่ร่างบางผละออกจากผู้ชายคนนั้นและสาวเท้าเดินตรงมาหาเขา
บอส... ทงเฮเรียกคนตรงหน้าเสียงแผ่ว เมื่อวงแขนเรียวยกขึ้นโอบคล้องรอบลำคอเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ของลมหายใจร้อนที่เป่ารดข้างแก้ม เรียกอาการหน้าแดงจากทงเฮได้ไม่ยาก
ช้ามาก เสียงหวานสั่นพร่าไปหมด พอๆ กับมือของทงเฮที่สั่นน้อยๆ ยามยกจับต้นแขนเรียวของอีกฝ่าย ด้วยหมายจะดึงออกจากตัว หากท่าทางของฮยอกแจกลับดูผิดปกติเสียจนเขาได้แต่คามือทิ้งไว้อย่างนั้น
บอสเป็นอะไรครับ?
เวลานี้ทงเฮไม่ได้สนใจกับสายตาสงสัยหรือเสียงซุบซิบใดๆ รอบตัว อ้อมแขนแกร่งโอบรัดเอวคอดบาง เพราะรู้สึกได้ถึงอาการอ่อนเปลี้ยของคนตัวเล็กที่เหมือนจะล้มลงไปกองบนพื้นได้ทุกขณะ แล้วไหนจะอาการสั่น เหมือนไม่สบายนี่อีกล่ะ
ผมนึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว... อึ่ก... ฮยอกแจเอ่ย ริมฝีปากอิ่มกดลงบนกกหูของทงเฮ เล่นเอาชายหนุ่มสะดุ้งและยืนตัวแข็งค้าง
เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่าเรียกกันออกมาเพื่อจะทำมิดีมิร้ายเขาในที่สาธารณะน่ะ!?!
ไม่ได้นะว๊อยยยยยยยยยยย ถึงเขาจะชอบแบบเอ้าท์ดอร์ แต่ในที่ๆ คนเยอะแบบนี้ ก็ไม่ไหวนะครับ บอส~ TvT
บะ... บอส ทำแบบนี้มันไม่ดีนะครับ ผมว่าบอสปล่อย...
ไม่... อยู่เฉยๆ... อา... เสียงหวานสั่งห้ามแทบจะทันที ฮยอกแจหอบหายใจแรง ขณะกระชับแขนตัวเองให้กอดคนดูแลแน่นขึ้นอีกนิด
มีปาปาราซซี่อยู่... อึ่ก... กอดผม... เต้นไปก่อน อย่าเงยหน้า อย่าทำพิรุธ... ฮยอกแจบอกเสียงพร่าหวิว จมูกโด่งกดลงตรงซอกคอชายหนุ่มเพื่อปกปิดสีหน้าของตัวเอง
บอสเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทงเฮถามอีกครั้ง ความเป็นห่วงแล่นเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว แต่ถึงอย่างนั้น คนดูแลคนเก่งก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างไม่บกพร่อง มือข้างหนึ่งจับสะโพกมนไว้ ขณะที่มืออีกข้างก็คอยลูบแผ่นหลังบางให้หยุดสั่น เท้าหนาเต้นนำจังหวะคนตัวเล็กที่ดูเหมือนยิ่งนาน ก็ยิ่งจะไม่มีสติ โชคดีที่จังหวะเพลงได้เปลี่ยนไปเป็นเพลงช้า เลยทำให้ไม่มีใครสงสัยคนสองคนที่ยืนกอดกันแนบแน่นอยู่กลางฟลอร์ จะมีก็แต่เพียงสายตาสนใจที่จับจ้องมาเท่านั้น
อื้อ... ผะ... ผมจะไม่ไหวแล้ว... ไปที่รถ
หา?
พาผมไปที่รถ... เร็ว!”




XXXXXXXX





บรื้น~
รถสปอร์ตของคยูฮยอนแล่นฉิวไปตามท้องถนนที่เกือบโล่ง ทงเฮมีสีหน้าเป็นกังวล ดวงตาคมเหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะ เสียงหวานยังคงครางเครือกระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวเขาให้พลุ่งพล่าน ตอนอยู่ในผับ เขาไม่แน่ใจหรอกว่าฮยอกแจเป็นอะไร ทำไมจู่ๆ ถึงได้มานัวเนียกับเขาแบบนั้น
แต่ตอนนี้ ทงเฮว่าเขารู้แล้วล่ะว่าฮยอกแจเป็นอะไร...
อาการแบบนี้ แม่ง โดนยามาชัวร์! T^T
อื้อ... อา...
สัด! อย่าครางให้มันได้อารมณ์มากได้ไหมวะ กูจะไม่ไหวแล้วเนี่ย!
ให้ตาย... อึ่ก... ร้อน... อื้อ~” ฮยอกแจครางแผ่ว เนื้อตัวแดงเถือกไปหมด เพราะพิษยาปลุกเซ็กส์ที่ถูกหย่อนลงแก้วเหล้า โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว
ทนหน่อยนะครับ บอส ทงเฮร้องบอกพลางเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้น โดยพยายามบังคับตัวเองไม่ให้มองไปยังเบาะหลังที่เริ่มแผ่รังสีร้อนระอุไปทั่วรถ ฮยอกแจปรือดวงตาฉ่ำน้ำขึ้นมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนดูแลสุดหล่อ ริมฝีปากอิ่มแห้งผากไปหมด จนต้องให้ลิ้นสีแดงสดช่วยเลียให้มันหยุดกระหาย
ไม่ไหว...
ทั้งร้อน ทั้งอยากไปหมดเลย
อื้อ... ทะ... ทงเฮ...
ครับ
ระ... เร็ว...
ครับ ผมจะขับให้เร็วที่สุด ทงเฮรับคำแข็งขัน
ไม่... อา... ไม่ใช่... ผมหมายถึง... เร็วๆ อ๊ะๆ... ซี้ดด...
ทงเฮขมวดคิ้วกับคำพูดกระท่อนกระแท่นที่ฟังดูแปร่งๆ ชอบกล นึกประหลาดใจกับข้อความที่ได้ยิน เลยเผลอเลื่อนดวงตาคมขึ้นมองกระจกหลัง แต่แล้วภาพที่ได้เห็น ก็ทำให้เลือดในกายชายหนุ่มเดือดพล่าน จนเกือบจะพุ่งออกมาจากรูจมูก (บานๆ) ในทันที
บะ... บอส... ทงเฮครางในลำคออย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ฮยอกแจในเวลานี้ได้แต่บิดตัวส่งเสียงครางระงมเต็มรถ มือเล็กข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้เสื้อราคาแพง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังทำอะไรกับหน้าอกของตัวเอง ขณะที่อีกข้างก็ขยับเคลื่อนอยู่ใต้กางเกงยีนส์รัดรูป
ทงเฮกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เพราะภาพที่เห็นมันโคตรเอ็กซ์สุดใจขาดดิ้นไปเลยเหอะ นี่ดีนะที่มีชายเสื้อช่วยปิดเอาไว้น่ะ ไม่งั้นเขาคงได้เห็นฮยอกแจน้อยโดดเด้งให้เสียวกลางตัวเพิ่มขึ้นอีกเป็นแน่
ซี้ด... อา... ทงเฮ... อื้อ... เร็ว...
โห แค่นี้ก็เร็ว จนกูกลัวตัวเองจะแตกกลางทางแล้วล่ะครับ T-T
อ๊ะ... อา... เร็วอีกสิ... อื้อ... อีกนิด...
บอส...
...ขับไป... อา... เร็วๆ อย่าหยุด... เสียงหวานครางกระเส่า มือทั้งสองยังไม่หยุดทำหน้าที่ของตัวเอง ดวงตาเรียวปรอยมองทงเฮอย่างยั่วเย้า
ยะ... ซี้ด... อย่าหยุด... นะ... อื้อ ทงเฮ... เพราะถ้านายหยุด... อึ่ก... ผมไม่ปล่อย... นายไว้แน่
แม้น้ำเสียงจะฟังขาดห้วง เพราะเจ้าตัวอยากจะครางมากกว่าก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ทงเฮรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่างได้อย่างง่ายดาย ลิ้นร้อนเผลอแลบเลียปากตัวเองกับความเย้ายวนด้านหลัง ในหัวตีกันวุ่นไปหมด เพราะสำนึกด้านดีบอกให้เขารีบขับรถกลับไปให้เร็วที่สุด แต่สำนึกด้านเลวดันยุยงให้เขาหยุดรถ แล้วจัดการคนด้านหลังเสียเดี๋ยวนี้
เอาไงดีวะเนี่ย T_T
อ๊ะ... ทง... เฮ... เร็ว... อื้อ ผมจะ... อ๊ะ...
เอี๊ยดดดดดด~
ล้อรถบดกับถนนดังลั่น มันไม่ได้เกิดเพราะทงเฮเต็มใจเบรก แต่มันเป็นเพราะร่างบางที่โน้มตัวมากระซิบข้างหูเขาต่างหาก!
โธ่เว้ย เขาไม่ได้ยอมให้ไอ้สำนึกด้านเลวมันชนะหรอกนะ!
ทงเฮ... อ๊า... จูบที...
ไม่! มันไม่ชนะหรอก ไม่มีทาง...
ฟึ่บ!
บอส!” ร้องเรียกได้แค่นั้น ทงเฮก็โดนคนที่ก้าวข้ามมานั่งเบาะข้างกดริมฝีปากลงมาหนักหน่วง มือเรียวประคองใบหน้าเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนไปนวดคลึงแถวท้ายทอย บังคับให้ทงเฮยอมตามใจ ลิ้นเล็กพยายามดุนดันแทรกเข้ามาภายใน หากทงเฮกลับปิดกั้นเอาไว้ ไม่ยอมตอบสนอง
ฮึ่ก... ทงเฮ...
ดวงหน้าหวานผละออกมาเล็กน้อย หยาดน้ำที่เอ่อคลอเคลือบนัยน์ตาคู่งามทำให้ฮยอกแจดูสวยหยาดเยิ้มมากกว่าตอนปกติร้อยเท่าพันเท่า แต่อะไรก็ไม่เท่ากับแววตาอ้อนวอนที่ฉายชัดออกมาให้หัวใจแกร่งสั่นไหวอย่างรุนแรง
...ได้โปรด... ริมฝีปากอิ่มกดแนบลงกับกลีบปากหยักหนึ่งที
...
อื้อ... ผมไม่... ไหว... ละ... แล้ว ว่าพร้อมกับกดจูบอีกเป็นครั้งที่สอง
...
อ๊า... นะ... ทงเฮ... นะ... อื้อ...ทาบริมฝีปากเป็นครั้งที่สาม
...
...ฮึก... ทงเฮ... อ๊ะ... อื้มมมม!”
ฮยอกแจหลับตาพริ้ม วงแขนเล็กกอดรัดรอบลำคอแกร่ง ใบหน้าหวานแหงนรับจูบร้อนจากทงเฮที่พุ่งตัวเข้ามาหา หลังจากสิ้นสุดคำขอที่สี่ แผ่นหลังบางเอนแนบติดกับประตูรถ ริมฝีปากอิ่มขยับรับสัมผัสของทงเฮ เช่นเดียวกับเกลียวลิ้นของทั้งสองที่สลับผลัดกันรัดรึง แลกเปลี่ยนความต้องการแก่กันและกันอย่างหยุดไม่อยู่ ฝ่ามือร้อนแทรกเข้าไปใต้ร่มผ้าเนื้อดี บีบเคล้นลากไล้ทั่วผิวกายนุ่มลื่นอย่างสนุกมือ กระทั่งทงเฮรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ขาดห้วงของอีกฝ่าย ริมฝีปากหยักที่บดเบียดจูบแนบแน่นจึงยอมผละออกอย่างช้าๆ
แฮ่กๆ... อื้อ... ฮยอกแจหอบหายใจหนัก แขนเรียวกอดรัดดึงทงเฮเข้ามาใกล้ จนปลายจมูกของทั้งสองคลอเคลียกันแผ่วเบา ดวงตาสองคู่มองสบกันนิ่ง ก่อนที่ฮยอกแจจะเชิดหน้าให้เรียวปากแดงของตัวเองแตะสัมผัสกับทงเฮอีกครั้ง
กลับบ้าน... อึ่ก...
...
กลับบ้าน...







1 ความคิดเห็น: