ค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวสุกสว่างสดใส
เสียงเพลงจากแหล่งสถานบันเทิงลอยแว่วมาตามลม เข็มนาฬิกาเคลื่อนที่บอกเวลาเที่ยงคืนสิบห้านาที
ท้องถนนกว้างใหญ่ยังคงว่างเปล่า มีเพียงรถเก๋งสีขาวหม่นคันเก่าจอดนิ่งอยู่ข้างทาง ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบมากซะจนได้ยินเสียงใบไม้ไหวตามแรงลม
ก่อนที่จะมีเสียงสนทนาของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาแผ่วเบา
“กูไม่รู้จะทำยังไงแล้วว่ะ ถ้าเดือนนี้
กูไม่หางานใหม่ทำให้เร็วที่สุด กูอดตายแน่ๆ”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยออกมาอย่างร้อนใจ
ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววยุ่งยาก ขณะเอนศีรษะพิงกับเบาะรถอย่างเหนื่อยล้า มือใหญ่ยกขึ้นคลึงหัวคิ้วของตัวเองเบาๆ
ยามฟังเสียงปลายสายที่ยังคงบ่นพึมพำต่อว่าให้กับโชคชะตาของเขาไม่หยุดปาก
“มึงคิดว่าเป็นความผิดของกูหรือไง
ไอ้เชี่ย! กูอยู่ของกูดีๆ
พวกผู้หญิงต่างหากที่พาตัวเองเข้ามาทำให้ชีวิตกูวุ่นวาย...”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบยุ่งกับพวกที่มีเจ้าของแล้ว...
ไอ้บ้าเอ๊ย มึงจะโทษว่ากูหล่อเกินไปงั้นสิ? ไอ้เพื่อนเลว...
แล้วมึงจะให้กูทำยังไงวะ เอามีดกรีดหน้าตัวเองแล้วไปสมัครงานดีไหม?”
“...กูไม่ได้ประชดเว้ย กูพูดจริงๆ
ถ้าแม่งมีปัญหานัก ก็ทำให้มันอัปลักษณ์ไปเลย... เชี่ย ดูถูกกูว่ะ... เออ
กูอยู่แถวกังนัม รถกูน้ำมันหมด รีบมา... กูไม่มีตังค์เติมน้ำมันรถเว้ย! มึงชวนกูคุยออกนอกประเด็นเองต่างหาก มาหากูด้วย เร็วๆ
แถวนี้แม่งเงียบเกินไป กูไม่ไว้ใจ...” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ
พลางเหลือบแลตามองไปรอบตัวอย่างระแวดระวัง เสียงปลายสายบ่นด่าอีกนิดหน่อย ก่อนจะตัดสายไปก่อนพร้อมคำสัญญาว่าจะรีบมาหาเขาโดยเร็วที่สุด
ฟิ้ว~
เสียงสายลมที่พัดดังหวีดหวิวไปมาทำเอาร่างหนาที่ลดกระจกรถลงเผลอตัวสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ดวงตาคมกริบตวัดมองบรรยากาศวังเวงนอกรถ นึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
พิกลกับสภาพแวดล้อมที่เงียบสนิทแบบนี้ มือใหญ่เอื้อมไปเปิดวิทยุเพื่อหารายการโปรดที่ตัวเองชอบฟัง
รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดๆ กับเสียงดีเจที่ดังเจื้อยแจ้วออกมาให้ได้ยิน
เปลือกตาหนาปิดลงช้าๆ
ขณะที่ริมฝีปากหยักสวยก็ขยับร้องเพลงคลอไปกับเสียงดนตรียอดนิยม
그대를 사랑해 my love 모든 걸 줄게요 oh my love
ผมรักคุณนะ my love ผมยินดีจะมอบให้คุณทุกอย่าง oh my love
ผมรักคุณนะ my love ผมยินดีจะมอบให้คุณทุกอย่าง oh my love
저 하늘의 별보다 그대를 밝혀줄게요
ผมจะทำให้คุณสว่างไสวกว่าเหล่าดวงดาวบนท้องฟ้านั่น
ผมจะทำให้คุณสว่างไสวกว่าเหล่าดวงดาวบนท้องฟ้านั่น
บรื้นน~
“한 송이 꽃보다 그대는
예뻐요 눈이 부셔요~...”
เสียงรถที่แล่นมาแต่ไกลไม่ได้ผ่านเข้าโสตประสาทร่างหนาเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าหล่อยังคงหลับตาพริ้มและร้องเพลงทำลายความเงียบอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
บรื้นน~
เอี๊ยด!
한 송이 꽃보다 그대는 예뻐요 눈이 부셔요
คุณงดงามกว่าช่อดอกไม้ และดวงตาช่างสว่างสุกใส
사랑하고 있어요 꽃보다 그녀
ผมกำลังรักคุณ ผู้หญิงที่สวยกว่าดอกไม้
คุณงดงามกว่าช่อดอกไม้ และดวงตาช่างสว่างสุกใส
사랑하고 있어요 꽃보다 그녀
ผมกำลังรักคุณ ผู้หญิงที่สวยกว่าดอกไม้
ก๊อกๆ
เสียงเคาะกระจกรถที่ดังขัดขึ้นและเสียงเปิดประตูรถ
ทำให้ร่างหนาที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองสะดุ้งเล็กน้อย เปลือกตาสีอ่อนรีบลืมขึ้น
ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะหันขวับมาทางเบาะข้างคนขับที่บัดนี้ได้มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งขึ้นมานั่งส่งยิ้มหวานให้
“เฮ้ย! มาจากไหนวะเนี่ย?” ร่างหนาตะโกนลั่นด้วยความตกใจ ตาเบิกโพลงจ้องมองคนข้างๆ ที่ยื่นหน้าเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัว
ต่างจากตัวเขาที่กลับต้องเป็นฝ่ายถอยร่นห่างออกไปจนตัวแทบจะติดกับประตูรถอีกด้าน
“นายชื่ออะไร?”
“หือ?”
ร่างหนาเบิกตามองเจ้าของริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ที่เอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงคล้ายคนเมาเหล้า
กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจมูกลอยอบอวลไปทั่วรถ
“ฉันถามว่านายชื่ออะไร?”
มือเรียวกระชากคอเสื้อคนตรงหน้าเข้ามาหาอย่างแรง
ดวงตาเรียวรีฉ่ำเยิ้มไปด้วยพิษของแอลกอฮอล์
แต่ในขณะเดียวกันกลับดูหวานล้ำและเต็มไปด้วยแววยั่วยวนจนร่างหนาหลงจ้องตอบไปชั่วขณะ
ใบหน้าสวยหวานยื่นเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองสัมผัสกัน ก่อนที่วงแขนเรียวจะค่อยๆ
โอบคล้องลำคอแกร่งเอาไว้พร้อมบดเบียดตัวเองเข้ามาหาอย่างช้าๆ
“ชื่ออะไร?”
ริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ถามย้ำอีกครั้ง นัยน์ตาคู่สวยกวาดมองไปทั่วโครงหน้าหล่อพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่กดลึกคล้ายจะถูกใจ
ชายหนุ่มเจ้าของรถกลั้นหายใจนิ่ง ก้อนเนื้อในอกเต้นถี่รัวกับสถานการณ์ตื่นเต้นเร้าใจที่ตนกำลังเผชิญจนแทบจะหลุดออกมานอกอก
รู้สึกได้ถึงริมฝีปากของตัวเองที่กำลังแห้งผากและใบหน้าที่ร้อนจนเหมือนจะไหม้ซะให้ได้
ให้ตายเถอะ นี่มัน...
“ว่าไง... นายชื่ออะไร หืม?”
“ผม... คือผม...”
ร่างหนาเอ่ยตะกุกตะกัก ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก อยู่ดีๆ
ก็มีผู้ชายแปลกหน้าที่หน้าตาสวย ถูกสเป็คขึ้นมาลวนลามถึงบนรถตัวเอง
พระเจ้า! นี่กูฝันไปหรือเปล่าวะ?
“ว่าไงสุดหล่อ ถ้าไม่ตอบ... จูบนะ”
เสียงหวานเอ่ยถาม ก่อนที่กลีบปากอ่อนนุ่มจะค่อยๆ
เข้ามาคลอเคลียและประทับลงบนเรียวปากหยักอย่างไม่รอคำตอบ ท่ามกลางความตกใจจนแทบสิ้นสติของร่างหนา
มือใหญ่ยกขึ้นหมายจะดันตัวคนแปลกหน้าออกห่าง
หากแต่ปลายลิ้นเล็กที่สอดแทรกเข้ามากลับรุกเร้าและร้อนแรง พาให้สติสัมปชัญญะของชายหนุ่มเตลิดไปไกลกับความหอมหวานนั่นจนลืมตัวเล่นด้วยไปด้วยพักใหญ่
และโดยไม่รู้ตัว เสียงทุ้มแหบพร่าก็เผลอกระซิบผ่านเสียงครวญครางหวานหูออกไปแผ่วเบา
“...ทงเฮ... ผมชื่ออี ทงเฮ...”
เปิดตัวได้แซ่บมาก
ตอบลบ