วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

SEXY_BOSS_____[10]_____เกเร




          ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งก้าวออกมาจากลิฟท์ด้วยท่าทางเร่งรีบ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ยามที่นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นดูแล้วพบว่ามันเลยเวลาเข้างานมามากโขแล้ว ขายาวเร่งฝีเท้าตรงไปทางห้องจัดเลี้ยงสุดชีวิต ก่อนจะเบรกกึก เมื่อเดินมาถึงทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านขวามือ
เอาวะ ไหนๆ ก็สายแล้ว พึมพำเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนใจเลี้ยวเข้าห้องน้ำไปสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองเสียก่อน
โหเชี่ย ลิปสติกมาได้ไงวะ?
ทันทีที่เห็นสภาพของตัวเองในกระจก หนุ่มหล่อก็หลุดคำสบถออกมายาวเหยียด ทรงผมที่เซ็ทมาอย่างดียุ่งเหยิง ต้นคอซ้ายหลังกกหูมีคราบรอยลิปสติกสีแดงจัดจ้าแฝงอยู่ ชายเสื้อด้านในหลุดลุ่ย เนคไทด์บิดเบี้ยว สูทอาร์มานี่ราคาแพงก็ยับย่น
หมดกัน มาดประธานบริษัทผู้เคร่งขรึมที่เก๊กมาตลอดสามปี
คอตกกับภาพสะท้อนในกระจก ใครจะรู้ว่าบทรักเร่าร้อนที่เขาเพิ่งผ่านมาจะสลัดภาพลักษณ์ดีงามที่สั่งสมไว้มานานให้ปลิดปลิวหายไปหมด แล้วกลับมาเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญคนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาตลอด ดีนะที่ไล่พวกคนติดตามให้ลงมางานก่อนแล้ว ไม่งั้นคงมีคนเอาเรื่องเขาวันนี้ไปรายงานคนบ้าอำนาจที่บ้านแน่นอน
เฮ้อ ถอนหายใจยาวๆ ขณะเร่งจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้ดูดีเหมือนเดิม แม้จะทำได้ยากก็เหอะ ก็แหม สูทยับขนาดนี้ ใครไม่สงสัยก็บ้าแล้ว
กระชับเสื้อสูทนอกอีกสองที ก่อนจะฉีกริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มการค้าที่จำต้องใช้ มองความดูดีของตัวเองด้วยความปลาบปลื้มใจอีกนิดหน่อย ชายหนุ่มก็พาตัวเองออกไปจากห้องน้ำทันที
ตึ่กๆๆ
พลั่ก!
กำลังจะออกไปหล่ออยู่แล้วเชียว แต่เสียงฝีเท้าที่มาพร้อมกับแรงปะทะจากใครคนหนึ่งก็ทำเอาร่างสูงถึงกับเซเล็กน้อย ความไม่พอใจพุ่งขึ้นมา หากสัญชาตญาณกลับสั่งให้อ้อมแขนกว้างรีบโอบรับคนตัวเล็กที่กำลังจะล้มลงไปต่อหน้าต่อตาเขา
ขะ... ขอโทษครับ คำขอโทษแผ่วๆ และน้ำเสียงสั่นเทาของคนในอ้อมกอดทำให้ชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความสงสัย ก่อนที่นัยน์ตาสีเข้มจะเบิกกว้าง เมื่อเห็นใบหน้าของคนซุ่มซ่ามที่เงยขึ้นสบตากับเขา
ฮยอกแจ... เอ่ยเรียกชื่อคุ้นเคยอย่างประหลาดใจ ด้วยไม่นึกว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้ แต่ที่น่าตกใจกว่าคือหน่วยตาคู่สวยที่เขานึกชอบในเวลานี้กลับเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส
ทำไม...
พี่ชีวอน
กำลังจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยของเขาร้องไห้ แต่เสียงเรียกและวงแขนเรียวที่ตวัดกอดรอบเอวก็ทำให้ชเว ชีวอนทิ้งคำถามนั่นและตัดสินใจฉับไวด้วยการโอบอุ้มคนตัวเล็กที่ซุกหน้าลงกับอกเขาออกไปจากบริเวณนั้นทันที



XXXXXXXXX

           

            โทษมึงคนเดียวเลย ไอ้หอกหัก
น้ำเสียงนุ่มหูแต่แฝงแววกรุ่นโกรธจากคนตรงหน้าดังขึ้นมาเป็นคำแรก หลังจากที่พวกเขาเพิ่งได้รับฟังความจริงจากผู้ร่วมเหตุการณ์จบไป ร่างหนาของชายหนุ่มที่รับตำแหน่งคนดูแลทายาทคนที่สองของตระกูลคิมก้มหน้าหลบสายตาของคยูฮยอนและชางมินที่กำลังจ้องมองมาเพื่อตอกย้ำถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ความผิดพลาดที่ทำให้ทงเฮรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
เพราะมึง พี่กูถึงหายไป แม่งเอ๊ย ไอ้ควาย โง่ โง่ โง่!”
คยูฮยอนโมโห ชายหนุ่มกระแทกเสียงด่าเพื่อนคำแล้วคำเล่าอย่างยั้งตัวเองไม่อยู่ พี่ชายเขาหายไป ฮยอกแจหายตัวไปหลังจากที่วิ่งออกมาจากงานเฮงซวยนั่นตามลำพัง ไม่มีใครรู้เห็น และไม่มีใครติดต่อฮยอกแจได้เลยซักคน ซึ่งนั่นทำให้คยูฮยอนที่เป็นห่วงพี่ชายกว่าใครไม่อาจอยู่นิ่งได้ ยิ่งมาได้ยินความจริงจากชางมินว่าฮยอกแจถูกจองอึมกลั่นแกล้งด้วยการเอาน้ำราดก่อน ชายหนุ่มก็ยิ่งร้อนรนเป็นไฟจนแทบจะแล่นไปบ้านฮวัง จองอึมแล้วลากหล่อนไปโยนลงแม่น้ำฮันให้สาสมกับที่ใส่ร้ายพี่เขา หากก็ถูกทงเฮและชางมินรั้งเอาไว้เสียก่อน
กูอุตส่าห์ไว้ใจให้มึงดูแลพี่กู แล้วดูมึงทำ! ไอ้เพื่อนเหี้ย มึงนี่มันน่า...กัดฟันพูดเพราะความโกรธที่ยังไม่จางหาย ร่างสูงกำมือแน่น ใจนึกอยากจะพุ่งเข้าไปซัดหน้าหล่อๆ ของเพื่อนให้หายโมโห แต่พอเห็นสีหน้าสำนึกผิดและน้ำเสียงหงอยๆ ที่ออกมาจากคนตรงหน้า คยูฮยอนก็จำต้องข่มอารมณ์ตัวเองไว้ ไม่ให้พลั้งเผลอทำอะไรรุนแรงลงไปมากกว่านี้
กูขอโทษจริงๆ คยูฮยอน ทงเฮเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ เขาไม่รู้ว่าการที่ช่วยปกป้องผู้หญิงคนหนึ่ง มันจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายลงไปแบบนี้
ฮยอกแจไม่ได้เป็นคนเริ่ม แต่เขากลับปรักปรำกล่าวหา กลายเป็นคนที่ทำให้เจ้านายอับอาย ทำงานผิดพลาดทำให้เจ้านายหายตัวไป เขามันเป็นลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องที่สุดในโลกเลยจริงๆ
            เอาน่าๆ ใจเย็นก่อน มึงจะโทษไอ้ทงเฮคนเดียวได้ยังไงวะคยู ไอ้ทงเฮมันเพิ่งรู้จักพี่ฮยอกแจได้ไม่ถึงเดือน แถมยังไม่รู้จักฤทธิ์เดชของจองอึมดี มันก็เลยต้องเข้าใจผิดเป็นธรรมดา อีกอย่างในสถานการณ์ตอนนั้น เป็นใคร ก็ต้องคิดว่าพี่ฮยอกแจเป็นคนทำร้ายยัยนั่นอยู่แล้ว ชางมินพูดอย่างเป็นกลางที่สุด มองท่าทางของเพื่อนสองคนที่แตกต่างกันไปคนละขั้วแล้วก็ให้นึกหนักใจสุดๆ มือใหญ่ยกขึ้นตบบ่าคยูฮยอนเบาๆ เหมือนจะบอกให้เพื่อนใจเย็นลงหน่อย
            แต่ถึงยังไง มันก็ไม่ควรเข้าข้างคนอื่นมากกว่าพี่กู แล้วไหนจะพี่ฮีชอลอีก หักหน้ากันกลางงานแบบนั้น คิดบ้างมั้ยว่าหนูกลางจะรู้สึกยังไง
คยูฮยอนยังไม่หายโมโห ใบหน้าหล่อบึ้งตึง ไม่พอใจทั้งเพื่อนและพี่ชายคนโต โดยเฉพาะพี่ฮีชอล รู้ทั้งรู้ว่าฮยอกแจเป็นคนอ่อนไหวแค่ไหน แต่ก็ยังทำร้ายจิตใจน้องได้ลงคอ ไอ้เหี้ยแม่ง ถ้าตามหาฮยอกแจไม่เจอ เขาจะโกรธ โกรธคิม ฮีชอลจนตายไปเลย!!
มึงหยุดโวยวายก่อนเหอะน่า กูว่าที่พี่ฮีชอลทำแบบนั้น เป็นเพราะเขามีเหตุผลนะเว้ย ชางมินพยายามกล่อม
เหตุผลอะไร! จะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้คนเป็นพี่ถึงกับทำร้ายจิตใจน้องชายตัวเอง นอกจากจะกลัวเสียงานเสียหน้า!” คยูฮยอนเอ่ยอย่างหงุดหงิดพลางสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง แต่แล้วเขากลับต้องชะงัก เพราะภาพพี่ชายคนโตที่ยืนมองกลับมาด้วยแววตาน้อยใจ
ไอ้เชี่ยยยยยยย มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ =[]=
คยูฮยอนคิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอ? น้ำเสียงที่เคยเข้มงวดหนักแน่นเอ่ยออกมาสั่นๆ เล่นเอาคนฟังถึงกับใจกระตุกไม่รู้ตัว คยูฮยอนหน้าเหวอ ใจหนึ่งอยากจะปฏิเสธแล้วแสดงท่าทีล้อเล่นเช่นทุกครั้ง แต่อีกใจที่กำลังขุ่นเคืองกลับสั่งให้เขาชักสีหน้าเฉยชาใส่พร้อมทั้งเบนสายตาหนีคนที่กำลังมองมาอย่างตัดพ้อ
ไม่รู้สิ ปกติพี่ก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่ เห็นงานสำคัญกว่าน้อง พูดออกไปแล้ว ร่างสูงก็แทบจะยกมือตบปากตัวเองซักสิบที แต่ไม่ได้ มึงต้องเก๊ก ชายโจว มึงต้องใจแข็งเข้าสู้ มึงต้องเรียกร้องความยุติธรรมกลับคืนให้หนูกลาง ไฟท์ติ้ง!
            “อย่างนั้นเหรอ? คิม ฮีชอลพึมพำแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยหม่นแสงลงเพราะคำพูดของน้องชายที่กระแทกลงกลางใจอย่างจัง ไม่รู้ตัวเลยว่ากลายเป็นคนแบบนั้นในสายตาน้องชายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่พยายามทำงานอย่างหนัก ทำหน้าที่ของพี่ชายคนโตที่แบกความหวังของตระกูลเอาไว้อย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือคำปรามาสและความหมางเมินจากน้องชาย
เขาทำผิดไปงั้นเหรอ?
            แล้ว... แล้วมาที่นี่ทำไมอ่ะ ทำไมไม่ไปพักผ่อน
            เพราะเห็นพี่ชายเงียบไปซะเฉยๆ แถมยังทำหน้าตาน่าสงสาร คยูฮยอนผู้ไม่อาจจะใจแข็งให้กับพี่ชายที่รักได้นานจึงอ้อมแอ้มถามคำถามที่แฝงความเป็นห่วงออกไปเบาๆ
            พี่แค่จะมาคุยกับชางมินน่ะ ฮีชอลตอบ ใบหน้าสวยหันไปทางร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนตัวตรงทันทีที่ยินชื่อตัวเองหลุดออกมาจากริมฝีปากสีสวย
            พี่ฮีชอลมีอะไรกับผมเหรอครับ ชางมินถามน้ำเสียงสุภาพ แอบเตะขาไอ้คนข้างๆ ที่ทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจใส่พี่ชายไปทีหนึ่ง คงนึกว่าพี่ฮีชอลจะมาคุยเรื่องพี่ฮยอกแจล่ะสิ โธ่ ไอ้เด็กสามขวบเอ๊ย พี่ฮีชอลไม่แสดงออกให้เห็นก็จริง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเย็นชาไม่สนใจพี่ฮยอกแจซักหน่อย น้องสุดที่รักทั้งคนนะ ไอ้กร๊วก
            นึกด่าคนเป็นเพื่อนในใจ ระอามาก แม่งหลงคบมันมาได้ยังไงไม่รู้ตั้งหลายปี
            ชางมินติดต่อชีวอนให้พี่หน่อยได้มั้ย
            ครับ? ชางมินถึงกับเลิกคิ้วสูง เพราะชื่อของลูกพี่ลูกน้องที่ควบตำแหน่งเจ้านายที่ดังมาจากคนตรงหน้า ประหลาดใจเป็นล้นพ้นที่อยู่ดีๆ คนอย่างคิม ฮีชอล ราชินีผู้เย่อหยิ่งอยากจะสนทนานอกเวลางานกับสุดยอดชายหนุ่มที่สุดแสนกะล่อนไปทั่วปฐพีอย่างชเว ชีวอน
            อืม... อย่าบอกนะว่าอยากจะกลับมากิ๊กกันอีกน่ะ? #Oops
            ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดแน่นอน เชี่ยโย่ง คยูฮยอนรีบสกัดความคิดเพื่อนเสียงแข็ง ดวงตาคมตวัดมองพี่ชายอย่างไม่พอใจ
            พี่จะติดต่อมันทำไม
            ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ฮีชอลบอกน้องชายเสียงเรียบ ไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของคยูฮยอนเลยซักนิด ร่างโปร่งสบตากับชางมินนิ่งพลางออกคำสั่ง
ติดต่อหมอนั่นให้พี่ที ขอด่วนที่สุด พี่อยากรู้ว่าชีวอนพาฮยอกแจไปไหน กล่าวจบ ประธานคิมโจวกรุ๊ปก็หันหลังออกจากห้องนั่งเล่นของตระกูลโจวไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มสามคนนิ่งอึ้ง มองตากันปริบๆ
สมกับเป็นคิม ฮีชอล ชางมินปรบมือไล่หลังอย่างชื่นชม
ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ฮีชอลใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็รู้แล้วว่าพี่ฮยอกแจหายไปกับใคร แตกต่างจากใครบางคนที่เอาแต่โวยวายไม่ได้สาระแถวนี้เหลือเกินว่าแล้วก็อดแซะเพื่อนไม่ได้ คยูฮยอนหน้าบึ้ง ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนอย่างโมโห
พวกมึงลุก! กูจะไปบุกบ้านชเว!” ประกาศก้องเสียงดัง แต่หาได้มีใครสนใจไม่
ไปนอนเหอะ ทงเฮ กูรับรองว่าอยู่กับพี่กู พี่ฮยอกแจปลอดภัยไร้กังวลแน่นอน
ชางมินกอดคอทงเฮเดินออกไปจากห้อง เอ่ยวาจาหว่านล้อมร้อยแปดให้เพื่อนใหม่คลายสีหน้ากังวล ขณะเดียวกันก็ปล่อยให้คยูฮยอนโวยวายอยู่ด้านหลังอย่างไร้คนสนใจต่อไป
ไอ้ทงเฮ ไอ้โย่งกลับมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย! พี่กูโดนชเว ชีวอนลักพาตัวไป ทุกคนต้องเดือดร้อนสิวะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก



XXXXXXXXX



แน่ใจนะว่าจะเอาอย่างนี้น่ะ หืม
ชเว ชีวอนย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าคนบนโซฟา ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มอ่อนโยน ยามทอดสายตามองดวงหน้าหวานที่ฉายแววเศร้าสร้อยเหงาหงอยเบือนมองออกไปนอกกระจกใสอย่างไร้จุดหมาย
รบกวนพี่ชีวอนรึเปล่าล่ะครับ? คนโดนถามไม่ได้ตอบคำถามนั่น แต่กลับส่งคำถามใหม่กลับมาแทน ชีวอนยิ้มบาง ข้อนิ้วยาวยกเกลี่ยพวงแก้มใสแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู
รบกวนอะไรกัน พี่ยินดีซะอีกที่ได้เป็นคนดูแลฮยอกแจในเวลาแบบนี้บอกออกไปพลางเขยิบกายเข้าใกล้เจ้าของแขนเรียวที่หันมาโอบรอบคอเขา
พี่ชีวอนยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะครับ ฮยอกแจพึมพำ เปลือกตาบางหลับพริ้ม ขณะโน้มใบหน้าเข้าหาอีกฝ่ายจนหน้าผากของทั้งสองแนบชิดกัน คนตัวสูงยิ้มรับคำพูดนั่น จับจ้องสายตาไปยังแพขนตาหนา ปัดป่ายปลายจมูกคลอเคลียกับคนตรงหน้าอย่างปลอบประโลม
เนิ่นนานแค่ไหนที่ไม่ได้เจอกัน ในวันนี้ฮยอกแจของเขาก็ยังคงเป็นเสมือนเด็กชายตัวน้อยๆ ไม่มีเปลี่ยนไปเลย
ใครรังแกน้องน้อยของพี่กันนะ บอกพี่ได้มั้ยครับคนดี เขาถาม แขนสองข้างกอดกระชับเอวบาง สบประสานสายตากับนัยน์ตาคู่สวยที่กำลังสั่นระริกเพราะความเสียใจ
ฮยอกแจเม้มปากเงียบ ดวงตากลอกมองไปด้านข้าง ก่อนจะหลุบต่ำและเหลือบขึ้นมองเขาใหม่อีกหน
ไม่มีครับ ฮยอกแจทำตัวเอง
หือ? เลิกคิ้วให้กับคำตอบที่แสนงุนงง
ฮยอกแจทำอะไรครับ? ชีวอนถามพลางผละใบหน้าออกมานิดนึง เมื่อร่างบางทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น
ฮยอกแจทำตัวไม่ดี ทำให้งานพี่ฮีชอลพัง แต่ฮยอกแจไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนนะครับ แต่... แต่ตอนนั้นฮยอกแจโกรธ... ฮึก ไม่มีใครเข้าข้างฮยอกแจเลย คนพูดสะอื้นฮึกๆ หยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาเป็นสาย ชีวอนใจหายวูบ ชายหนุ่มประคองแก้มทั้งสองข้างไว้ในอุ้งมือ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาด้วยท่าทางทะนุถนอม
ชู่ว ไม่ร้องไห้นะครับ เงียบก่อนแล้วเล่าให้พี่ฟังซิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ประธานฯ ชเวกรุ๊ปเอ่ยปลอบ คนขี้แยสะอื้นถี่ หากก็ยอมพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองเอาไว้ มือบางยกปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างว่าง่าย ก่อนจะเริ่มต้นเล่าเหตุการณ์ในงานเลี้ยงให้ร่างสูงฟัง
ใช้เวลาไม่นาน เรื่องราวแบบกระท่อนกระแท่นที่มาพร้อมเสียงสะอื้นก็จบลง ฮยอกแจก้มหน้า ไหล่บางยังสั่นเทาอยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าโอเคกว่าตอนเริ่มร้องอยู่มาก
ฮยอกแจทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง พี่ฮีชอลจะต้องโกรธฮยอกแจมากแน่ๆ คนไม่ได้ก่อเรื่องแต่เป็นคนรับกรรมงึมงำอย่างใจเสีย หากชีวอนกลับยิ้มกว้าง เพราะสิ่งที่คนตัวเล็กพูดออกมา มันทำให้เขารู้สึกชื่นชมและภูมิใจในตัวฮยอกแจอย่างมาก และชีวอนก็มั่นใจว่านอกจากเขาแล้ว น้อยคนนักที่จะได้เห็นตัวร้ายที่ใครๆ ต่างเข็ดขยาดในมุมเด็กดีแบบนี้
ฮยอกแจไม่ได้ร้องไห้ที่การกระทำของพี่ชายจะทำให้เขากลายเป็นคนผิดในสายตาคนอื่น เด็กน้อยอย่างฮยอกแจเข้าใจดีว่าทำไมฮีชอลถึงสั่งให้เขาขอโทษจองอึม เพราะต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายเหล่านั้น การที่เขาซึ่งเป็นผู้ชายเอ่ยคำขอโทษต่อผู้หญิงก่อน มันเป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น ฮยอกแจกลับให้ความน้อยใจอยู่เหนือเหตุผล ฮีชอลหักหน้าไม่ยอมเข้าข้างเขา แต่เขาก็ฉีกหน้าฮีชอลด้วยการเดินหนีออกมาทั้งอย่างนั้น
ก็ถือว่าเป็นการเอาคืนที่เหมาะสมดีสำหรับสองคนพี่น้องอ่ะนะ
พี่ว่าฮีชอลจะเข้าใจ เผลอๆ ตอนนี้อาจจะกำลังเป็นห่วงฮยอกแจอยู่ก็ได้
ชีวอนยิ้มเผล่ มือล้วงไอโฟนที่ตั้งสั่นไว้ในกระเป๋าออกมาโชว์ ฮยอกแจเบิกตามองน้อยๆ ชื่อชางมินที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้ความกังวลของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ฮยอกแจไม่อยากให้พี่ฮีชอลเป็นห่วง แต่เขาก็ยังไม่พร้อมจะเจอใครตอนนี้ โดยเฉพาะคนๆ นั้น
พี่ชีวอน...
ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง ชีวอนพูด น้ำเสียงปกปิดความดีใจไว้ไม่มิด
แต่ว่าพี่ชีวอนอาจจะเดือดร้อน ฮยอกแจไม่สบายใจ
เดือดร้อนแบบนี้ พี่เต็มใจครับ ชีวอนหัวเราะในลำคอ คำพูดที่แฝงนัยและรู้กันดีระหว่างสองคนทำให้ฮยอกแจเผลอหลุดรอยยิ้มออกมา... รอยยิ้มของนางมารตัวน้อย
ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วครับ คนตัวเล็กถาม อาการร้องห่มร้องไห้เมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง
ถ้าไม่นับที่ต้องเจอกันตามงานแล้วก็ประชุม โอกาสก็แทบเป็นศูนย์เลยล่ะครับ ชีวอนตอบยิ้มๆ
บอกไว้ก่อนว่าตอนนี้ไม่หมูแล้วนะครับ เห็นว่ามีมาเฟียตามมาจากปักกิ่งด้วยคนนึง
จริงเหรอครับ? ชีวอนนิ่วหน้า ฮยอกแจหัวเราะคิกคักพลางยกมือขึ้นเท้าคาง ดวงตามีแววยั่วเย้า
แบบนี้จะสู้ไหวรึเปล่าครับ?
ปลายนิ้วเรียวลากไล้ไปตามสันกราม ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงกลีบปากนุ่มของอีกฝ่าย ชเว ชีวอนกดยิ้มกริ่ม สบสายตากับร่างเล็กตรงหน้า มือใหญ่คว้าจับนิ้วซุกซนเอาไว้ ก่อนจะกดจูบลงไปแผ่วเบา
ของอย่างนี้ มันต้องลองดูซักตั้งครับ เผื่อฟลุ๊ค ไม่ว่าเปล่า ยังมียักคิ้วหลิ่วตาให้ตามประสาคนทะเล้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบลุกขึ้นยืน ท่าทางกระตือรือร้นเต็มที่
เห็นทีคืนนี้พี่คงจะไม่ได้นอนเป็นเพื่อนฮยอกแจแล้วล่ะ คงไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ
ไม่เป็นไรครับ ฮยอกแจนอนคนเดียวได้
งั้นพี่... ลากเสียงยาว สีหน้าท่าทางที่ฮยอกแจรู้ทันได้ในทันที ร่างบางลุกขึ้นดันตัวชีวอนไปทางประตู
รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวแม่มดอาละวาด แล้วก็รบกวนด้วยนะครับ
จัดการเปิดประตูให้คนตัวสูงเสร็จสรรพ ชีวอนเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้าหวาน ก่อนจะโน้มริมฝีปากประทับจูบลงบนพวงแก้มใสด้วยท่าทางอ่อนโยน
ฝันดีนะครับ นางฟ้าของพี่
ฝันดีครับ
ฮยอกแจยิ้มหวาน ก่อนจะปิดประตูห้องและเดินกลับเข้ามาหยิบมือถือโทรหาใครบางคน ดวงตาเรียวที่ยังคงแดงก่ำน้อยๆ ฉายประกายเย็นชาน่ากลัวแตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
[ยอโบเซโย]
จินกิ พี่อยากดื่ม นายมาหาพี่หน่อยได้มั้ย?




XXXXXXXXX



บอกมาเดี๋ยวนี้นะว้อย แกเอาพี่ชายฉันไปไว้ที่ไหน ชเว ชีวอนนนนนนน!!!”
เช้าวันใหม่กับคยูฮยอนในสภาพเก่าที่กำลังแหกปากโหวกเหวกโวยวายใส่ประธานฯ ของชเวกรุ๊ปทำเอาใครหลายคนในห้องทำงานขนาดกว้างต่างพากันลอบถอนหายใจด้วยความรำคาญ ชางมินตรงเข้าไปรั้งไหล่เพื่อนให้กลับมานั่งที่ของตัวเองเป็นรอบที่ยี่สิบ ตบบ่าเบาๆ ให้มันใจเย็นลง ก่อนจะตบหัวเป็นของแถมอีกหนึ่งที เมื่อคยูฮยอนตั้งท่าจะพยศอีกรอบ แน่นอนว่าวิธีนี้ได้ผล เป็นอันรู้กันว่าถ้าถูกตบหัวเตือนสติเมื่อไหร่ ทายาทคนเล็กของคิมโจวจะหุบปากเงียบให้คนฟังสบายหูไปได้อีกห้านาที
ฮีชอลเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะ ประสานสายตากับแขกคนสำคัญที่นั่งทำตาหวานเยิ้มอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าเอือมระอา
ฉันไม่มีเวลามาเล่นจ้องตากับนายทั้งวันหรอกนะ ชีวอน บอกมาดีกว่าว่าน้องชายฉันอยู่ที่ไหน ท่านประธานฯ ของคิมโจวกรุ๊ปเอ่ยเสียงเรียบ
นายรู้ได้ยังไงว่าฮยอกแจไปกับฉัน นายสนใจเรื่องของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฮีชอล ชีวอนไม่ตอบ แต่ถามกลับน้ำเสียงอบอุ่น ใบหน้าหล่อเหลาระบายรอยยิ้มที่เจ้าตัวมั่นใจนักหนาว่าใครเห็นเป็นต้องหลงไปให้ หากฮีชอลกลับเบือนหน้าหนีพลางชี้ปลายปากกาไปทางทีวีจอยักษ์ติดผนังข้างห้อง
ขอโทษครับ ไอ้คุณพี่ชีวอน พี่ชายฉันไม่ได้และไม่เคยสนใจแกเว้ย ที่ถามก็เพราะกล้องวงจรปิดที่โรงแรมมันเป็นหน้าแกที่เป็นคนพาหนูกลางออกไป ช่วยตอบให้ตรงจุดตรงประเด็นหน่อยสัด มึงจะมัวลีลาทำพ่อง... อุ๊บ...~!@#$%^&*()_~!@#$%^&*!” เป็นคยูฮยอนที่แหกปากตอบแทนให้ ก่อนจะถูกชางมินตะปบปิดปากพร้อมตบหัวแล้วลากคอกลับที่เดิมตามสเต็ป ชีวอนยิ้มกว้าง เหลียวมองชายหนุ่มรุ่นน้องที่กำลังถูกสองเพื่อนรุมสั่งสอนด้วยแววตาขบขัน
แหม คยูฮยอนนี่ยังเป็นเด็กพูดมาก ปากเก่งเหมือนเดิมเลยนะครับ
เพื่อนเล่นมึงเหร... อั่ก
เชี่ยคยู นั่นพี่กู ชางมินโบกเข้าให้
คยูฮยอนช่วยอยู่เงียบๆ หน่อยได้มั้ย พี่ทำงานไม่รู้เรื่องเลย ฮีชอลขมวดคิ้วใส่ คยูฮยอนอ้าปากจะเถียง แต่พอสบดวงตาดุของพี่ชายเข้าไป จากมารร้ายก็กลายเป็นเด็กงอแงไปทันที
ถ้าเห็นงานสำคัญกว่าเรื่องของหนูกลางก็เชิญทำงานต่อไปเลย!” คนที่โตแต่ตัวทำหน้าบึ้ง เดือดร้อนพี่ชายต้องรีบแก้ตัวยกใหญ่
พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฮีชอลเอ่ยเสียงอ่อย
แล้วหมายความแบบไหน ก็เห็นอยู่ว่าพี่ไม่ได้สนใจจะถามเรื่องหนูกลางเลย!” คยูฮยอนของขึ้น
พี่สนใจและเป็นห่วงหนูกลางไม่แพ้นายหรอกนะ คยูฮยอน คนเป็นพี่แย้งเสียงแข็ง จากที่ว่าจะอ่อนให้น้อง แต่พอโดนต่อว่าหนักเข้า คนที่ไม่เคยยอมใครอย่างคิม ฮีชอลก็เผลอแสดงท่าทีโมโหออกไปอย่างลืมตัว
ผมไม่เชื่อ!”
คยูฮยอน!!!”
สองพี่น้องตะโกนใส่กันดังลั่นห้อง ชีวอนที่ตอนแรกกะจะมาป้อคนพี่เต็มที่ค่อยๆ ไถลตัวลงนอนเหยียดกับเก้าอี้ พยายามทำตัวให้เงียบที่สุด เพราะกลัวโดนหางเลขไปด้วย
แหม ผิดแผนไปหน่อยแฮะ -.-
คยู กูว่ามึงใจเย็นก่อนดีกว่านะ
ทงเฮที่เงียบมานานลุกขึ้นมาดึงตัวเพื่อนไว้ ใช่ว่าเขาจะไม่เป็นห่วงฮยอกแจ แต่เพราะโดยนิสัยส่วนตัวแล้ว ทงเฮไม่ใช่เลือดร้อนและไม่ใช่คนที่โมโหอะไรแบบไม่มีเหตุผล ชายหนุ่มจึงได้แต่อยู่นิ่งๆ รอฟังคนที่ชางมินบอกว่าเป็นพี่ชายตัวเองยอมเอ่ยปากบอกออกมาตรงๆ แม้จะอดรำคาญ เพราะเจ้าตัวเล่นแง่คอยแต่จะม่อพี่ฮีชอลอยู่อย่างเดียวก็เหอะ
มึงไม่ต้องยุ่ง มึงก็เหมือนกัน ไอ้ทงเฮ มึงก็มีส่วนผิดที่ทำให้หนูกลางหนีไป คยูฮยอนสะบัดตัวหนีและหันมาต่อว่าเขา
เห้ย เชี่ยนี่อย่าพาลดิวะ ชางมินทนไม่ไหวลุกขึ้นมาห้าม มึงใจเย็นก่อน ทุกคนก็เป็นห่วงพี่ฮยอกแจกันทั้งนั้นแหละ แต่จะให้มาโวยวายไร้สาระแบบมึง มันก็ไม่ช่วยอะไร เข้าใจบ้างดิวะ
... คยูฮยอนเงียบ ชายหนุ่มกำมือแน่น ก่อนจะหันไปเตะโซฟาราคาแพงเต็มแรงแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ทุกคนมองตามด้วยความหนักใจอย่างบอกไม่ถูก ทงเฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาพอเข้าใจความรู้สึกของคยูฮยอนเลยไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไรมากมาย

RRRrrrr~

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบ ทุกสายตาเหลียวมองทงเฮที่รีบหยิบมือถือของตัวเองออกมาด้วยสีหน้างุนงง เพราะเขาเพิ่งเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ฉะนั้นจึงไม่มีใครที่จะรู้จักเบอร์โทรศัพท์ของเขา นอกจากคนที่สนิทกันจริงๆ
ขอตัวซักครู่นะครับ เอ่ยปากบอกทุกคน ก่อนจะเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก คิ้วหนาขมวดมุ่น ยิ่งได้ยินเสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชายไม่คุ้นหู ก็ยิ่งทำให้ทงเฮสงสัยมากเข้าไปใหญ่
[คุณอี ทงเฮหรือเปล่าครับ?]
ครับ ผมทงเฮพูด
[คือผมมีอะไรอยากให้คุณช่วย ตอนนี้ผมอยู่กับพี่ฮยอกแจ...]
ที่ไหนครับ? ทันทีที่ได้ยินชื่อคนที่ทำให้เป็นห่วง ร่างหนาก็รีบเอ่ยปากถามออกไปอย่างรวดเร็ว
[ผมจะบอกคุณ ถ้าคุณสัญญาว่าจะมาด้วยตัวเองและไม่บอกใคร] ปลายสายยื่นข้อเสนอ ทงเฮนิ่วหน้าไม่เข้าใจ
หมายความว่ายังไงครับ ทำไมถึงไม่ให้ผมบอกคนอื่น
[ถ้าคุณมาเห็น คุณก็จะรู้เหตุผลเองแหละครับ ความจริงพี่ฮยอกแจไม่ให้ผมบอกใครด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้มันวิกฤติแล้วจริงๆ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดูแลพี่ฮยอกแจ เพราะฉะนั้นช่วยมาทีเถอะนะครับ] คู่สนทนามีน้ำเสียงร้อนรนและนั่นก็ทำให้ทงเฮตัดสินใจทันที
โอเคครับ ผมจะไม่บอกใคร แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ
เอาวะ รับปากไปก่อนแล้วกัน ไปถึงค่อยว่ากันอีกที
[ผมอยู่คอนโดพี่ฮยอกแจครับ คุณขับรถมาที่... เจนกิ~ มาสนุกด้วยกันเร็ว~... หวา พี่ฮยอกแจ... เอาเป็นว่าคุณรีบมาแล้วกันนะครับ ผมจะแย่แล้ว เร็วๆ นะครับ]
เสียงปลายสายดังลอดออกมาเป็นระยะ แต่ตอนนี้ทงเฮไม่ได้ฟังแล้ว เท้าหนาวิ่งตรงไปยังลิฟท์ตั้งแต่ได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคยดังแทรกเข้ามา ใจดวงแกร่งรู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก
เสียงแบบนั้น เมาแน่ๆ เมาชัวร์เลย แล้วยังอยู่กับผู้ชายอีก... แม่ง
ถ้าไปแล้วเจอแบบคราวนั้นอีก จะไม่ไว้หน้าเลย คอยดู!”
คำพูดที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหยักอย่างไม่รู้ตัว



XXXXXXXXX



ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เขาเคยเห็นหน้าแบบผ่านๆ แล้วครั้งหนึ่งยืนรออยู่แล้วตรงล็อบบี้ด้านล่าง ทงเฮไม่พูดพร่ำทำเพลง พอเดินไปถึงก็คว้าแขนอีกฝ่ายเดินดุ่มๆ ขึ้นลิฟท์ไปทันที
อี ฮยอกแจทำอะไรเหรอครับ?
อารมณ์กรุ่นที่ปะทุอยู่ในอกอย่างไม่รู้สาเหตุทำให้ทงเฮเลือกที่จะเอ่ยชื่อเจ้านาย แทนคำแทนตัวอย่างที่อีกฝ่ายเคยสั่ง จินกิหัวเราะเสียงแห้ง ดวงตาคมที่ไม่แม้แต่จะปรายมองรวมถึงสีหน้าถมึงทึงน่าหวั่นเกรงแบบแปลกๆ ทำให้เขาต้องนึกย้อนไปใหม่ว่าคิดถูกหรือเปล่าที่โทรหาคนๆ นี้แทนที่จะเป็นคนอื่น
            ดูหน้าแล้วให้อารมณ์เหมือนจะมาก่อสงครามกันยังไงยังงั้นเลย - -+
            ผมว่าคุณไปเห็นเองจะดีกว่านะครับ จินกิเลือกที่จะไม่ตอบ ชายหนุ่มเงยหน้ามองตัวเลขที่ไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ พลางภาวนาขอให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
            ติ๊ง~
            เสียงลิฟท์ที่บอกว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้วทำให้สองหนุ่มพ่นลมหายใจที่เผลอกลั้นเอาไว้ออกมาพร้อมกัน จินกิรีบเดินนำไปก่อนจนเกือบจะวิ่ง เร่งให้ทงเฮที่ตามมาออกอาการร้อนใจไปด้วย
            เชี่ยเอ๊ย เสร็จไปรึยังวะเนี่ย? เสียงพึมพำจากชายหนุ่มแปลกหน้าทำเอาทงเฮหันขวับ หมายความว่ายังไงวะที่ว่าเสร็จ...
            ไม่ต้องรอคำตอบ เพราะทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ทำเอาคนมาใหม่ถึงกับตาค้างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

            อะ... อ๊า~ พี่ฮยอกแจ

            คีย์!!!” จินกิตะโกนลั่น ก่อนจะเผ่นพรวดเข้าไปแยกคนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนพรมพื้นห้องออกจากกัน คีย์หรือคีบอมหอบหายใจหนัก ทั้งร่างมีเพียงกางเกงขาสั้นตัวน้อยปกปิดเรือนกายเอาไว้ไม่ต่างจากใครอีกคนที่ก่อนหน้านี้ทั้งคร่อมทั้งฟัดจูบกับเขาเสียจนแทบหายใจหายคอไม่ทัน
            บอส ทงเฮเน้นเสียงหนัก ดวงตาคมวาววับเอาเรื่อง ยามมองเจ้านายคนเก่งที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีดำตัวใหญ่ กระดุมสองเม็ดบนที่ปลดออกเผยให้เห็นรอยแดงช้ำประปราย ฮยอกแจดูตกใจไม่น้อยที่เห็นคนดูแลของตัวเองมายืนเรียกหน้าตาดุดันแบบนี้ แต่พอสงบสติอารมณ์ได้ ใบหน้าหวานก็เชิดขึ้นพร้อมคำถามเย็นชาที่เอ่ยออกไป
มาทำไม?
ผมมารับบอสกลับบ้านครับ พอเห็นอีกคนแสดงท่าทีปั้นปึ่งใส่ ทงเฮก็พอจะสำนึกได้ถึงความผิดของตัวเอง ชายหนุ่มลดสีหน้าลง ขณะเดินเข้ามาหาคนที่นั่งเชิดอยู่บนพื้น
กลับบ้านเถอะครับ พี่ฮีชอลกับคยูฮยอนเป็นห่วงกันแย่แล้ว ร่างหนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แต่ฮยอกแจกลับแค่นหัวเราะ ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ได้ยิน
ผม ไม่ กลับ เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ก็โดนทงเฮรั้งข้อมือเอาไว้
แต่ทุกคนกำลังเป็นห่วง...
ก็บอกว่าผมไม่กลับ ไม่เข้าใจรึไง!” ร่างบางหันมาสะบัดมือออกและทำท่าจะเดินหนีเข้าไปในห้องนอน ทงเฮมองตาม ไม่รู้ว่าเขาตาฝาดไปหรือเปล่า แต่แววตาน้อยใจที่ได้เห็น แม้จะแค่ชั่ววินาทีเดียวของคนตรงหน้า มันกำลังทำให้ก้อนเนื้อในอกไหววูบพร้อมกับความรู้สึกผิดที่เอ่อล้นเข้ามาอย่างหนัก










ผมขอโทษ











ริมฝีปากหยักรีบขยับเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่คิดว่าจะทำให้อีกฝ่ายหายโกรธ ฮยอกแจชะงักกึก แผ่นหลังบางเหยียดตรง เมื่อรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากคนด้านหลังที่เข้ามายืนชิด
ผมขอโทษครับ ทงเฮเอ่ย ผมขอโทษที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าบอส ขอโทษที่กล่าวหา ผมจะไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น แต่บอสยอมกลับบ้านกับผมเถอะนะครับ
...
นะครับ น้ำเสียงเว้าวอนแฝงความสำนึกผิดทำเอาคนที่ได้ยินใจอ่อนไปตามๆ กัน จินกิเหลือบสบตากับคนข้างกาย สะกิดให้เก็บเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะพากันย่องออกไปเพื่อเปิดโอกาสให้เจ้านายกับลูกน้องได้ปรับความเข้าใจกันเพียงลำพัง
ทันทีที่จินกิกับคีย์ออกไป ทั่วทั้งห้องก็เงียบกริบ ฮยอกแจเม้มปากแน่น ความเป็นเด็กดีสั่งให้หายโกรธแล้วยอมทำตามที่ทงเฮบอก แต่ทิฐิและความดื้อรั้นกลับไม่ยินยอมที่จะยกธงขาวให้ง่ายๆ อย่างน้อยวันนี้ทงเฮก็ควรที่จะได้รู้ว่าการที่จะมาเป็นคนดูแลเขาได้นั้น มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
ไม่ คำปฏิเสธดังขึ้นชัดเจน ทงเฮลอบผ่อนลมหายใจด้วยความอึดอัด ก็นึกเอาไว้อยู่แล้วล่ะว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เท่าที่สังเกตนิสัยมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน คนอย่างอี ฮยอกแจเหรอจะยอมทำตามคำสั่งของคนอื่น ไม่มีทางซะหรอก
งั้นบอสต้องการอะไรล่ะครับ อะไรที่จะทำให้บอสยอมกลับบ้านกับผม







“SEX”




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น